เจ็บเต้านม (Breast pain)
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
- 6 ตุลาคม 2561
- Tweet
สารบัญ
- บทนำ
- อาการเจ็บเต้านมมีกี่ชนิด? แต่ละชนิดมีสาเหตุจากอะไร?และมีอาการอย่างไร?
- ใครมีปัจจัยเสี่ยงเกิดเจ็บเต้านม?
- แพทย์วินิจฉัยหาสาเหตุการเจ็บเต้านมได้อย่างไร?
- รักษาอาการเจ็บเต้านมอย่างไร?
- อาการเจ็บเต้านมรุนแรงไหม? มีผลข้างเคียงไหม?
- อาการเจ็บเต้านมเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมไหม?
- ดูแลตนเองอย่างไร? ควรพบแพทย์เมื่อไร?
- ป้องกันการเจ็บเต้านมได้อย่างไร?
- บรรณานุกรม
บทความที่เกี่ยวข้อง
- เนื้องอก (Tumor)
- มะเร็ง (Cancer)
- มะเร็งเต้านม (Breast cancer)
- ก้อนในเต้านม (Breast mass)
- ทาม็อกซิเฟน (Tamoxifen)
- ยายับยั้งเอ็นไซม์อะโรมาเทส: เอไอ (Aromatase inhibitor drugs: AI)
- ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill)
บทนำ
เจ็บเต้านม หรือ อาการเจ็บเต้านม (Breast pain หรือ Breast tenderness หรือ Mastalgia หรือ Mastodynia)คืออาการที่รู้สึกเกิด เจ็บ/ปวดในเต้านม ในส่วนใดของเต้านมก็ได้ที่รวมถึงหัวนม อาการเจ็บมักเกิดจุดเดียวแต่อาจกระจายไปรอบๆเนื้อเยื่อส่วนอื่นของเต้านมจนขอบเขตที่เจ็บไม่ชัดเจน อาจรู้สึกเจ็บ ดึงรั้ง เจ็บตื้อๆ หรือเจ็บแปลบ อาการจะเกิดอยู่นานเป็นพักๆ หรืออาจเกิดทันทีแล้วหายไป หรือเจ็บเรื้อรัง เป็นๆหายๆ หรือมีปัจจัยกระตุ้น เช่น การมีประจำเดือน ทั่วไปมักไม่มีสารคัดหลั่งผิดปกติออกมาจากหัวนม การเจ็บเต้านมนี้อาจร่วมกับมีการเปลี่ยนแปลงของเต้านมหรือไม่ก็ได้ ขึ้นกับสาเหตุ เช่น บวม ตึง แดง ร้อน อาจเกิดกับเต้านมเพียงข้างเดียว หรือทั้ง2ข้าง และเมื่อเกิดซ้ำอาจเป็นข้างเดิม หรืออีกข้างก็ได้ ขึ้นกับสาเหตุเช่นกัน ทั้งนี้ ทั่วไปมักคลำไม่พบมีก้อนเนื้อร่วมด้วย
สาเหตุของเจ็บเต้านม อาจเกิดจากตัวเต้านมเอง หรือ จากเนื้อเยื่อ/อวัยวะนอกเต้านมก็ได้ หรือบ่อยครั้ง แพทย์หาสาเหตุไม่พบ แต่น้อยมากๆๆที่เกิดจากมะเร็งเต้านม ซึ่งถ้า เกิดจากมะเร็ง มักต้องคลำได้ก้อนในเต้านมร่วมด้วย
เจ็บเต้านม เป็นอาการพบบ่อยอาการหนึ่งของผู้หญิง ประมาณว่า 70% ของผู้หญิง อย่างน้อยในชีวิตต้องมีอาการนี้ ทั้งนี้ อาการเจ็บเต้านมในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงการเจ็บเต้านมในช่วงให้นมบุตรซึ่งเกิดจากการคั่งของน้ำนมที่เรียกว่า ภาวะนมคัด (Breast engorgement)
อาการเจ็บเต้านมมักพบในผู้หญิง แต่ในผู้ชายอาจมีอาการเจ็บเต้านมได้เช่นกัน แต่พบได้น้อยกว่าในผู้หญิงมากและมักไม่ก่อปัญหาให้ต้องมาพบแพทย์ โดยในผู้ชายมักเกิดในช่วงวัยรุ่นซึ่งเป็นวัยที่เริ่มมีการเจริญเติบโตของเต้านมเท่านั้น(แนะนำอ่านเพิ่มเติมในบทความในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ‘ผู้ชายมีเต้านม’)
ทั้งนี้ ในบทความนี้ จะกล่าวถึง อาการเจ็บเต้านมเฉพาะใน’ผู้หญิง’เท่านั้น
อาการเจ็บเต้านมมีกี่ชนิด? แต่ละชนิดมีสาเหตุจากอะไร?และมีอาการอย่างไร?
อาการเจ็บเต้านมแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม/ชนิด คือ กลุ่มที่อาการสัมพันธ์กับประจำเดือน และกลุ่มที่อาการไม่สัมพันธ์กับประจำเดือน
ก. กลุ่มอาการสัมพันธ์กับประจำเดือน(Cyclical breast pain): เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสมดุลของฮอร์โมนเพศหญิง เช่น ในช่วงตกไข่ (ช่วงกลางของวงรอบประจำเดือน) หรือ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อนมีประจำเดือน ซึ่งอาการเจ็บเต้านมจะหายไปเมื่อประจำเดือนมาแล้ว
ทั้งนี้ ผู้ป่วยในกลุ่มนี้ จะเป็นผู้ป่วยอยู่ในช่วงวัยเจริญพันธ์ หรือ วัยยังมีประจำเดือน และมักเป็นต่อเนื่องตลอดระยะช่วงยังมีประจำเดือน เพียงแต่บางเดือนอาการมาก บางเดือนอาการน้อย โดยอาการมักเกิดกับเต้านมทั้งสองข้างพร้อมๆกัน แต่อาการเจ็บมากน้อยอาจต่างกันในแต่ละข้าง และมักเป็นการเจ็บทั่วทั้งเต้านม โดยอาจร้าวมายังรักแร้ได้ ยกเว้นบางคนอาจเจ็บเพียงจุดใดจุดหนึ่งของเต้านม
ข.กลุ่มอาการไม่สัมพันธ์กับประจำเดือน (Non-cyclical breast pain): เป็นอาการเจ็บเต้านมที่ไม่สัมพันธ์กับประจำเดือน มักพบในวัยหมดประจำเดือน/วัยทอง แต่ก็พบในวัยอื่นๆได้เช่นกัน โดยทั่วไปมักเกิดกับเต้านมเพียงข้างเดียว และมักเกิดเฉพาะจุดในเต้านม แต่ก็พบเกิดทั้งเต้านมได้ ทั้งนี้อาการเจ็บเต้านมซึ่งไม่สัมพันธ์กับประจำเดือนนี้ เกิดได้จากสาเหตุใหญ่ๆ 2 กลุ่มสาเหตุ คือ จากโรคของเต้านมเอง และจากโรคของผนังหน้าอก
ข.1 จากโรคของเต้านมเอง(Non-cyclical breast pain) เช่น
- จากก้อนเนื้อเต้านมที่ไม่ใช่มะเร็ง
- จากถุงน้ำในเต้านม
- จากเต้านมอักเสบติดเชื้อ
- จากเต้านมได้รับอุบัติเหตุ เช่น ถูกกระแทก
- จากกินยาบางชนิด เช่น ยาฮอร์โมน หรือ ยารักษาทางจิตเวชบางชนิดที่ส่งผลถึงการเปลี่ยนแปลงในเซลล์เต้านม
- โรคตับเรื้อรัง/โรคตับแข็ง เพราะโรคดังกล่าวส่งผลให้ในร่างกายมีฮอร์โมนเพศหญิงเพิ่มขึ้นซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเนื้อเยื่อเต้านม และ
- การดื่มสุราเรื้อรังเพราะก่อให้เกิดสารบางชนิดที่มีผลต่อเซลล์เต้านมที่ทำให้เกิดการเจ็บเต้านมได้
ข.2 จากโรคของผนังหน้าอก(Chest wall pain) เช่น จากปัญหาของกระดูก หรือ กล้ามเนื้อ หรือ เส้นประสาทผนังหน้าอก หรือ โรคติดเชื้อที่ผิวหนังในส่วนเต้านมหรือที่ผนังหน้าอก ซึ่งก่ออาการเจ็บผนังหน้าอก แต่ผู้ป่วยคิดว่าเป็นการเจ็บเต้านม เช่น โรคของกระดูกคอ หรือ ข้อไหล่แล้วเจ็บร้าวลงผนังหน้าอก หรือ โรคงูสวัด ซึ่งอาการในกลุ่มนี้มักเกิดร่วมกับมีการเคลื่อนไหวเต้านม ผนังหน้าอก กล้ามเนื้อข้อ/ผนังหน้าอก และมักมีประวัติกล้ามเนื้อหน้าอกบาดเจ็บ เช่น ถูกกระแทก ยกของหนัก นอนทับนานๆ หรือมีการติดเชื้อที่ผิวหนัง/โรคผิวหนังที่ผนังหน้าอก
ปัจจุบัน แพทย์หลายท่าน แยกการเจ็บเต้านมกลุ่มที่สาเหตุเกิดจากโรคผนังหน้าอกออกมาเพิ่มเป็นอีกกลุ่ม แพทย์กลุ่มนี้จึงแบ่งอาการเจ็บเต้านมเป็น 3 กลุ่มคือ
- กลุ่มอาการสัมพันธ์กับประจำเดือน
- กลุ่มอาการไม่สัมพันธ์กับประจำเดือนที่ไม่ได้เกิดจากโรคของผนังหน้าอก(ข้อ ข.1)
- กลุ่มเกิดจากโรคของผนังหน้าอก(ข้อ ข.2)
อนึ่ง บางครั้งแพทย์หาสาเหตุของอาการเจ็บเต้านมไม่ได้ ซึ่งอาการเจ็บเต้านมจากไม่ทราบสาเหตุนี้ อาการมักหายได้เอง และมักเป็นๆหายๆ
นอกจากนี้ ยังอาจมีอาการร่วมอื่นๆที่อาจเกิดขึ้นกับเต้านม ซึ่งจะเป็นไปตามแต่ละสาเหตุ เช่น
- มีไข้ และเต้านมบวม แดง ร้อน เมื่อเกิดจากเต้านมอักเสบติดเชื้อ
- มีน้ำเลือด หรือ น้ำเหลืองไหลจากหัวนมเมื่อเกิดจากมีก้อนเนื้อในท่อน้ำนม และ/หรือ
- การคลำได้ก้อนเนื้อผิดปกติ เป็นต้น
ใครมีปัจจัยเสี่ยงเกิดเจ็บเต้านม?
ผู้หญิงที่มีปัจจัยเสี่ยงเกิดเจ็บเต้านม ได้แก่
- มีปัญหาด้านอารมณ์ จิตใจ เช่น เครียด อารมณ์แปรปรวน วิตกกังวล ซึมเศร้า
- การดื่มกาแฟมาก/ ติดกาแฟ
- สูบบุหรี่
- ใช้ฮอร์โมนเพศในการรักษาโรคต่างๆ เช่น วัยหมดประจำเดือน โรคกระดูกพรุน กระดูกบาง
- บางคนอาจสัมพันธ์กับ การกินอาหารเสริม หรือผลิตพันธ์เสริมอาหารในกลุ่มที่มีฮอร์โมนเพศ
- ใช้ยาฮอร์โมนคุมกำเนิด โดยเฉพาะยาเม็ดคุมกำเนิด
- เคยมีการบาดเจ็บที่เต้านม เช่น เต้านมถูกกระแทก
- เคยมีการผ่าตัดที่เต้านม
- มีประวัติให้นมบุตรบ่อย เช่น นานเกิน 6 เดือน หรือมีบุตรมาก
- เป็นโรคของเต้านมที่ไม่ใช่มะเร็งเต้านม เช่น ถุงน้ำในเต้านม โรคพังผืดในเต้านม(Fibrocystic disease)
- เนื้อเยื่อเต้านมเป็นชนิดมีเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่ไม่ใช่เนื้อเยื่อไขมันสูง(Dense breast) ที่ตรวจพบจากการตรวจแมมโมแกรมและ/หรืออัลตราซาวด์เต้านม
แพทย์วินิจฉัยหาสาเหตุการเจ็บเต้านมได้อย่างไร?
แพทย์วินิจฉัยหาสาเหตุของการเจ็บเต้านมโดย อายุ เพราะเมื่อเกิดอาการในผู้ป่วยอายุต่ำกว่า 30 ปี แพทย์มักไม่นึกถึงโรคมะเร็ง ประวัติอาการ ประวัติอุบัติเหตุ ประวัติการเจ็บป่วย และการใช้ยาต่างๆ การตั้งครรภ์ การให้นมบุตร การจดบันทึกอาการเจ็บเต้านมเพื่อดูความสัมพันธ์กับประจำเดือน การตรวจร่างกาย การตรวจคลำเต้านม และการตรวจสืบค้นอื่นๆเพิ่มเติม ทั้งนี้ขึ้นกับ อายุ อาการของผู้ป่วย และดุลพินิจของแพทย์ เช่น การตรวจภาพรังสีเต้านม แมมโมแกรม (Mammogram) และ/หรือ อัลตราซาวด์เต้านม บางครั้งอาจเป็นการตัดชิ้นเนื้อเพื่อการตรวจทางพยาธิวิทยา หรือ การเจาะ ดูดเซลล์จากรอยโรคเพื่อการตรวจทางเซลล์วิทยา เมื่อพบมีก้อนเนื้อ หรือ มีถุงน้ำในเต้านม
รักษาอาการเจ็บเต้านมอย่างไร?
แนวทางการรักษาอาการเจ็บเต้านม คือ
- การอธิบายให้เข้าใจ เมื่ออาการสัมพันธ์กับประจำเดือน
- การรักษาสาเหตุ เช่น
- ปรับเปลี่ยนยาเมื่ออาการเกิดจากยา
- การกินยาปรับสมดุลฮอร์โมน เมื่ออาการเกิดจากความผิดปกติในสมดุลของฮอร์โมน
- การให้ยาปฏิชีวนะเมื่อเกิดจากการอักเสบติดเชื้อแบคทีเรีย
- การผ่าตัดเมื่ออาการเกิดจากมีก้อนเนื้อ
- การรักษาตามอาการ เช่น กินยาแก้ปวด เช่น ยาพาราเซตามอล (Paracetamol) เป็นต้น
อาการเจ็บเต้านมรุนแรงไหม? มีผลข้างเคียงไหม?
ความรุนแรง/การพยากรณ์โรคของอาการเจ็บเต้านม ขึ้นกับสาเหตุ แต่โดยทั่วไป ไม่รุนแรง และมักหายได้เอง โดยอาจกินยาแก้ปวดเพียงครั้งคราว
อาการเจ็บเต้านมเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมไหม?
อาการเจ็บเต้านม ไม่ใช่อาการสำคัญของโรคมะเร็งเต้านม อาการสำคัญของโรคมะเร็งเต้านม คือ การคลำพบก้อนเนื้อในเต้านมซึ่งบางครั้งอาจร่วมกับอาการเจ็บเต้านมได้บ้าง
อย่างไรก็ตาม มีการศึกษารายงานว่า มีผู้ป่วยโรคมะเร็งที่มาพบแพทย์ด้วยอาการเจ็บเต้านมเพียงอาการเดียวโดยตรวจคลำไม่พบก้อนเนื้อ เพียงประมาณ 5% ของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมทั้งหมด
ดูแลตนเองอย่างไร? ควรพบแพทย์เมื่อไร?
การดูแลตนเอง การพบแพทย์ เมื่อมีอาการเจ็บเต้านม ได้แก่
- แยกให้ได้ว่าเป็นการเจ็บเต้านมที่สัมพันธ์กับประจำเดือนหรือไม่ โดยการจดบันทึกอาการและการมีประจำเดือน
- กินยาแก้ปวดพาราเซตามอล (Paracetamol)
- สวมใส่ยกทรงที่พอเหมาะ สวมใส่ยกทรงเฉพาะใช้ในการเล่นกีฬาเมื่อออกกำลังกาย
- ในบางคน การลดอาหารไขมัน ช็อกโกแลต หรือ กาแฟ หรือ กินวิตามิน อี เสริมอาหาร อาจช่วยบรรเทาอาการเจ็บเต้านมที่สัมพันธ์กับประจำเดือนได้
- ควรพบแพทย์/มาโรงพยาบาลเมื่
- อาการปวดไม่ดีขึ้นหลังกินยาแก้ปวด หรือหลังการดูแลตนเองด้วยวิธีต่างๆดังกล่าวแล้ว
- มีอาการปวดต่อเนื่อง
- อาการปวดเป็นหายๆเรื้อรัง
- คลำพบก้อนในเต้านม
- มีน้ำนมทั้งๆที่ไม่ได้ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- มีสารคัดหลั่งเป็นเลือดออกจากหัวนม
- รีบพบแพทย์/มาโรงพยาบาลภายใน 7 วัน เมื่อ
- คลำก้อนเนื้อได้ในเต้านม
- มีน้ำเลือด หรือ น้ำเหลือง หรือ สารคัดหลั่งผิดปกติจากหัวนม
- รีบพบแพทย์/มาโรงพยาบาลภายใน 1-2 วันเมื่อ มีอาการของเต้านมติดเชื้อ ได้แก่ เต้านม บวม แดง ร้อน และ/หรือ ร่วมกับมีไข้
ป้องกันการเจ็บเต้านมได้อย่างไร?
เมื่อดูจากสาเหตุแล้ว ยังไม่มีวิธีป้องกันอาการเจ็บเต้านม แต่การหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงให้เจ็บเต้านม(ดังกล่าวในหัวข้อ’ปัจจัยเสี่ยงฯ’) อาจช่วยลดการเจ็บเต้านมลงได้บ้าง เช่น
- การระมัดระวังอุบัติเหตุ
- การมีสุขภาพจิตที่ดี
- ไม่ดื่มกาแฟจัด
- ไม่สูบบุหรี่
- ไม่ใช้ ยา อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร พร่ำเพื่อ ควรปรึกษา แพทย์ เภสัชกรก่อนซื้อใช้เอง และ
- เมื่อเป็นคนมีเต้านมขนาดใหญ่ การใส่เสื้อยกทรงที่เหมาะสม โดยเฉพาะช่วงออกกำลังกาย อาจช่วยได้บ้าง
บรรณานุกรม
- Eren,T. et al. Breast Care 2016;11:188–193
- Marrow, M. Am Fam Physician 2000;61: 2371-2378
- Rosolowich, R. et al. (2006). Mastalgia. J Obstet Gynecol Can.2006;28, 49-71
- https://en.wikipedia.org/wiki/Breast_pain [2018,Oct6]
- http://www.medscape.com/viewarticle/477670_1 [2018,Oct6]
- https://sogc.org/wp-content/uploads/2013/01/170E-CPG-January20061.pdf [2018,Oct6]