อะเซทิลซิสเทอีน (Acetylcysteine)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 3 ตุลาคม 2563
- Tweet
- บทนำ
- ยาอะเซทิลซิสเทอีนมีสรรพคุณอย่างไร?
- ยาอะเซทิลซิสเทอีนออกฤทธิ์อย่างไร?
- ยาอะเซทิลซิสเทอีนมีรูปแบบจัดจำหน่ายอย่างไร?
- ยาอะเซทิลซิสเทอีนมีขนาดรับประทานอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาอะเซทิลซิสเทอีนควรทำอย่างไร?
- ยาอะเซทิลซิสเทอีนมีผลไม่พึงประสงค์ไหม?
- ยาอะเซทิลซิสเทอีนมีปฏิกิริยากับยาตัวอื่นไหม?
- มีข้อควรระวังในการใช้ยาอะเซทิลซิสเทอีนอย่างไร?
- ควรเก็บรักษายาอะเซทิลซิสเทอีนอย่างไร?
- ชื่อทางการค้าและบริษัทผู้ผลิตยาอะเซทิลซิสเทอีนในประเทศไทย
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- ยาขับเสมหะ (Expectorants) และยาละลายเสมหะ (Mucolytics)
- ปอดบวม ปอดอักเสบ (Pneumonia)
- โรคถุงลมโป่งพอง (Emphysema)
- โรคภูมิแพ้ (Allergy)
- โรคปอด โรคของปอด โรคทางปอด (Pulmonary disease)
- ปอดบวมในเด็ก (Childhood pneumonia) / ปอดอักเสบในเด็ก (Childhood pneumonitis)
บทนำ
ยาอะเซทิลซิสเทอีน (Acetylcysteine) ในประเทศไทยใช้เป็นยาบรรเทาอาการไอ แต่บางประเทศใช้เป็นส่วนผสมของอาหารเสริมบางชนิด เพราะเชื่อว่ายานี้มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) และช่วยส่งเสริมการทำงานของตับได้
ยาอะเซทิลซิสเทอีนมีสรรพคุณอย่างไร?
ยาอะเซทิลซิสเทอีนมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้ เช่น
- ใช้ละลายเสมหะ จึงช่วยบรรเทาอาการไอชนิดที่มีเสมหะ ไม่เหมาะกับอาการไอแห้ง
- นอกจากนี้ยังใช้เป็นยารักษาผู้ป่วยที่รับประทานยาพาราเซตตามอล (Paracetamol) เกินขนาดได้ด้วย
ยาอะเซทิลซิสเทอีนออกฤทธิ์อย่างไร?
ยาอะเซทิลซิสเทอีน จะเข้าไปทำปฏิกิริยากับเสมหะ โดยทำให้โครงสร้างของเสมหะแตกออกจนกลายเป็นเสมหะที่ข้นน้อยลง และสามารถขับออกจากทางเดินหายใจโดยง่าย จึงบรรเทา อาการไอได้
ยาอะเซทิลซิสเทอีนมีรูปแบบจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาอะเซทิลซิสเทอีนมีรูปแบบจำหน่าย เช่น
- ยาผงบรรจุซอง 100 และ 200 มิลลิกรัม (มก.)
- ยาฉีด 300 มก.
- ยาเม็ดฟู่ 600 มก.
ยาอะเซทิลซิสเทอีนมีขนาดรับประทานอย่างไร?
ยาอะเซทิลซิสเทอีนมีขนาดการใช้ยาที่แตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นกับอายุและความรุนแรงของ สภาวะความเจ็บป่วยของร่างกาย ดังนั้นจึงควรให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัยสั่งจ่ายยาที่เหมาะสม ไม่ควรซื้อรับประทานเอง
กรณีใช้รักษาคนที่กินยาพาราเซตตามอลเพื่อฆ่าตัวตาย ขนาดเริ่มต้นให้รับประ ทาน 140 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม จากนั้นลดลงเป็น 70 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ทุกๆ 4 ชั่วโมงอีก 17 ครั้ง แต่ควรต้องให้แพทย์เป็นผู้รักษาผู้ป่วยเสมอ
*****หมายเหตุ: ขนาดยา และระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ผู้รักษาได้ การใช้ยาที่เหมาะสม ควรต้องปรึกษา แพทย์ หรือเภสัชกร ก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมทั้งยาอะเซทิลซิสเทอีน ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เช่น
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด และอาการจากการแพ้ยา เช่น กินยา/ใช้ยาแล้วคลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก/ หอบเหนื่อย
- มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาอะเซทิลซิสเทอีน อาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อนแล้ว
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์หรือไม่ หรือกำลังให้นมบุตรหรือไม่ เพราะยาหลายประเภทอาจจะ/มักผ่านรก หรือผ่านเข้าสู่น้ำนม และเข้าสู่ทารก ก่อผลข้างเคียงต่อทารกได้
หากลืมรับประทานยาอะเซทิลซิสเทอีนควรทำอย่างไร?
หากลืมรับประทานยาอะเซทิลซิสเทอีน สามารถรับประทานยาเมื่อนึกขึ้นได้ หากการลืมรับ ประทานยาใกล้กับมื้อถัดไป ให้รับประทานขนาดปกติโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่า
ยาอะเซทิลซิสเทอีนมีผลไม่พึงประสงค์ไหม?
ผล/อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา หรือผลข้างเคียง/ อาการข้างเคียง จากยาอะเซทิลซิสเทอีน เช่น
- ความดันหลอดเลือดปอดสูง
- ความดันในหัวใจห้องล่างขวาเพิ่มสูงขึ้น
- อาจทำให้หลอดลมหดเกร็งตัวส่งผลให้หายใจลำบาก /หอบเหนื่อย
- รู้สึกระคายเคืองในทางเดินอาหาร
- ง่วงนอน
- มีไข้
- ช่องปากอักเสบ (โรคช่องปาก)
- มีผื่นคัน
ยาอะเซทิลซิสเทอีนมีปฏิกิริยากับยาตัวอื่นไหม?
ยาอะเซทิลซิสเทอีน มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- การใช้ยาอะเซทิลซิสเทอีนร่วมกับ ยาลดน้ำตาลในเลือด (ยาเบาหวาน)บางกลุ่ม อาจส่งผล ให้ความเข้มข้นของยาลดน้ำตาลในเลือดมีปริมาณสูงขึ้น จนทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำเกินไปและผู้ป่วยอาจจะหมดสติได้ กลุ่มยาลดน้ำตาลในเลือดเช่น ยาอินซูลิน
มีข้อควรระวังในการใช้ยาอะเซทิลซิสเทอีนย่างไร?
ข้อควรระวังในการใช้ยาอะเซทิลซิสเทอีน เช่น
- ห้ามใช้กับผู้แพ้ยานี้
- ระวังการใช้ยานี้ใน สตรีตั้งครรภ์ และให้นมบุตร ด้วยยังไม่มีการยืนยันรับรองความผิดปกติของทารกในครรภ์ โดยเฉพาะช่วงระยะ 3 เดือนแรกของครรภ์
- ระวังการใช้ยานี้ในผู้ที่มีประวัติเป็นโรคหืด ด้วยยาอะเซทิลซิสเทอีนอาจทำให้หลอดลมหดเกร็งตัว และหายใจลำบาก
- ระวังใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือด (โรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย, โรคหัวใจ: โรคหลอดเลือดหัวใจ) ด้วยยาอะเซทิลซิสเทอีนอาจทำให้ความดันโลหิตในหัวใจเพิ่มสูงขึ้น
- ห้ามแบ่งยานี้ให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง: ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิดที่รวมถึงยาอะเซทิลซิสเทอีน ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกชนิดควรต้องปฏิบัติตาม ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด เสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน
ควรเก็บรักษายาอะเซทิลซิสเทอีนอย่างไร?
ควรเก็บรักษายาอะเซทิลซิสเทอีน เช่น
- เก็บยาให้พ้นแสง/แสงแดด
- เลี่ยงการเก็บยาในที่ชื้น และในที่ที่มีอุณหภูมิสูง
- สามารถเก็บยาในอุณหภูมิห้องได้
- ไม่ควรเก็บยาที่หมดอายุ ควรทิ้งทำลาย และ
- เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ชื่อทางการค้าและบริษัทผู้ผลิตยาอะเซทิลซิสเทอีนในประเทศไทย
ชื่อทางการค้า และบริษัทผู้ผลิตยาอะเซทิลซิสเทอีน เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
ACETIN (อะซีทิน) | L. B. S. |
ALISTINE/ALISTINE FORT (อะลิสทิน/อะลิสติน ฟอร์ท) | T P Drug |
FLEMEX - AC (เฟลมเม็ก - เอซี) | Gemardi |
FLUCIL/FLUCIL - EF (ฟลูซิล/ฟลูซิล - อีเอฟ) | Masa Lab |
FLUIMUCIL/FLUIMUCIL A (ฟลูมูซิล/ฟลูมูซิล เอ) | Zambon |
HIDONAC (ไฮโดรแน็ก) | Zambon |
MUCIL (มูซิล) | T.O. Chemicals |
MUCOCIL (มูโคซิล) | Utopian |
MUCOTIC (มูโคติก) | B L Hua |
MYSOVEN (ไมโซเว่น) | Greater Pharma |
NAC LONG (แน็กลอง) | Temmler |
RINOFLUIMUCIL (ไรโนฟลูมูซิล) | Zambon |
SIMUCIN (ไซมูซิน) | Siam Bheasach |
บรรณานุกรม
1 http://www.mims.com/Thailand/drug/AdvancedSearch/ [2020,Sept26]
2 http://en.wikipedia.org/wiki/Acetylcysteine [2020,Sept26]