วาร์ฟาริน (Warfarin) หรือ คูมาดิน (Coumadin)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 6 พฤศจิกายน 2556
- Tweet
- บทนำ
- ยาวาร์ฟารินมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
- ยาวาร์ฟารินมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- ยาวาร์ฟารินมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- ยาวาร์ฟารินมีขนาดรับประทานอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- ยาวาร์ฟารินมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้ยาวาร์ฟารินอย่างไร?
- ยาวาร์ฟารินมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษายาวาร์ฟารินอย่างไร?
- ยาวาร์ฟารินมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
บทนำ
ยาวาร์ฟาริน (Warfarin) หรืออีกชื่อคือ คูมาดิน (Coumadin) จัดเป็นยาต้านทานการแข็ง ตัวของเลือด ทางการแพทย์ใช้รักษาและป้องกันภาวะอุดตันของหลอดเลือด อันมีสาเหตุจากการทำงานของเกล็ดเลือดที่ผิดปกติ (ภาวะลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ)
มนุษย์รู้จักยาวาร์ฟารินมามากกว่า 60 ปี และเคยใช้อย่างแพร่หลายในแถบอเมริกาเหนือ ยานี้เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนโครงสร้างโดยตับ และถูกขับออกจากร่างกายโดยไต ผ่านปัสสาวะ และด้วยลักษณะธรรมชาติของยาที่สามารถซึมผ่านทางรกได้ จึงถูกห้ามใช้กับหญิงมีครรภ์ การสั่งจ่ายยา จึงต้องได้รับคำสั่งจากแพทย์ผู้ทำการรักษาเท่านั้น
ยาวาร์ฟารินมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
ยาวาร์ฟารินมีสรรพคุณ ดังนี้
- ใช้ป้องกันและรักษาการแข็งตัวของเลือดในหลอดเลือด
- ป้องกันการอุดตันของเลือดในถุงลมปอดจากการเกิดลิ่มเลือด
- ป้องกันภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ชนิด Atrial Fibrillation
ยาวาร์ฟารินมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
ยาวาร์ฟารินออกฤทธิ์โดยยับยั้งการสังเคราะห์วิตามิน-เค ซึ่งเป็นวิตามินที่เป็นปัจจัยสำ คัญที่ทำให้เกิดกระบวนการจับตัวของลิ่มเลือด นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันและยืดระยะเวลาในการรวมตัวของเกล็ดเลือดในร่างกาย จึงสามารถชะลอและป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดจากการเกิดลิ่มเลือดได้
ยาวาร์ฟารินมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาวาร์ฟารินจัดจำหน่ายในรูปแบบของยาเม็ดที่ขนาดความแรง 1, 2, 3, 4 และ 5 มิลลิ กรัม
ยาวาร์ฟารินมีขนาดรับประทานอย่างไร?
ขนาดรับประทานของยาวาร์ฟาริน คือ
- ผู้ใหญ่ ขนาดรับประทานเพื่อการรักษาเริ่มต้นที่ 2-5 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแบ่งรับประทานตามแพทย์สั่ง
- ขนาดที่ใช้ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดคือ 2-10 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแบ่งรับประทานตามแพทย์สั่ง
ทั้งนี้ ขนาดรับประทานและระยะเวลาของการใช้ยา ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้ทำการรัก ษา ไม่สมควรปรับขนาดการรับประทานยาหรือหยุดยาด้วยตนเอง
เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมทั้งยาวาร์ฟาริน ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร ดังนี้
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยาแล้ว คลื่นไส้มาก หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
- มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยาอะไรอยู่ เพราะยาวาร์ฟารินอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรือเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กินอยู่ก่อนได้
- หากเป็นสุภาพสตรี ควรต้องแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อทารกได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
หากลืมรับประทานยาวาร์ฟาริน สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็นสองเท่า
ยาวาร์ฟารินมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ผลไม่พึงประสงค์/ผลข้างเคียงของยาวาร์ฟาริน คือ อาจก่อให้เกิดภาวะเลือดออกตามผิวหนัง ภาวะอัมพาต ปวดศีรษะ เจ็บหน้าอก ปวดท้อง ปวดกล้ามเนื้อและข้อต่อต่างๆ วิงเวียน การหายใจผิดปกติ การกลืนอาหารลำบากขึ้น บวมตามร่างกาย อ่อนเพลีย ความดันโลหิตต่ำ และ ผื่นขึ้นตามผิวหนัง
มีข้อควรระวังการใช้ยาวาร์ฟารินอย่างไร?
ข้อควรระวังในการใช้ยาวาร์ฟาริน คือ
- ห้ามใช้ยานี้กับหญิงตั้งครรภ์ และหญิงที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยที่มีภาวะเลือดออกง่าย หรือผู้ที่มีเกล็ดเลือดต่ำ
- ห้ามใช้กับผู้ป่วยที่ต้องได้รับการผ่าตัดเส้นประสาท ผ่าตัดตา ผ่าตัดสมอง ผ่าตัดไขสันหลัง
- ห้ามใช้กับผู้ที่มีเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร เลือดออกในระบบทางเดินหายใจ เลือด ออกในระบบอวัยวะสืบพันธุ์
- ห้ามใช้กับผู้ป่วยที่เจาะหลัง และผู้ป่วยเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
***** อนึ่ง เมื่อมีการใช้ยาทุกชนิดรวมถึงยาวาร์ฟาริน ควรต้องปฏิบัติตาม ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด รวมทั้งเมื่อจะซื้อยาใช้เอง ควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนเสมอ
ยาวาร์ฟารินมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ปฏิกิริยาระหว่างยาของยาวาร์ฟารินกับยาตัวอื่นๆ ได้แก่
- การใช้ยาวาร์ฟาริน ร่วมกับยาแก้ปวดบางกลุ่ม อาจทำให้มีเลือดออกหรือเกิดรอยฟกช้ำตามผิว หนัง อาเจียนเป็นเลือด ปัสสาวะเป็นเลือด อุจจาระเป็นเลือด ปวดศีรษะ วิงเวียน อ่อนเพลีย กลุ่มยาแก้ปวดดังกล่าว เช่น Aspirin, Ibuprofen, และ Naproxen เป็นต้น
- การใช้ยาวาร์ฟารินร่วมกับดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ อาจพบเลือดออกตามร่าง กายได้ง่ายขึ้น หรือถ้ามีเลือดออกจากระบบทางเดินอาหาร อาจตรวจพบว่าอุจจาระจะมีสีดำเหมือนยางมะตอย
- การรับประทานอาหารที่มีปริมาณวิตามินเค สูง ในระหว่างการรักษาด้วยยาวาร์ฟาริน สามารถส่งผลลดการทำงานของ Warfarin จึงควรระมัดระวังการบริโภคร่วมกันกับอาหารกลุ่มดังกล่าว เช่น ตับ ชาเขียว กะหล่ำ ผักคะน้า หน่อไม้ฝรั่ง อะโวคาโด บรอกโคลี กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก ผักกาดหอม หัวผักกาด ผักชีฝรั่ง ถั่วเหลืองหรือ น้ำมันถั่วเหลือง ถั่วเขียว เป็นต้น
ควรเก็บรักษายาวาร์ฟารินอย่างไร?
สามารถเก็บยาวาร์ฟารินในช่วงอุณหภูมิห้อง เก็บให้พ้นจากแสงแดดและความชื้น และต้องเก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ยาวาร์ฟารินมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ชื่ออื่นของยาวาร์ฟาริน และบริษัทผู้ผลิตในประเทศไทย เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
Befarin (เบฟาริน) | Berlin Pharm |
Cogulax (โคกูแลกซ์) | Pond’s Chemical |
Fargem (ฟาร์เจม) | M. J. Biopharm |
Maforan (มาฟอแรน) | Sriprasit Pharma |
Morfarin (มอร์ฟาริน) | Charoon Bhesaj |
Orfarin (ออร์ฟาริน) | Orion |
Zydarin (ไซดาริน) | Zydus Cadila |
บรรณานุกรม
- http://www.mims.com/THAILAND/Home/GatewaySubscription/?generic=warfarin [2013,Oct17].
- http://www.healthline.com/druginteractions?addItem=warfarin [2013,Oct17].
- http://www.healthline.com/druginteractions [2013,Oct17].
- http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/druginfo/meds/a682277.html [2013,Oct17].