ปอดบวมในเด็ก (Childhood pneumonia) / ปอดอักเสบในเด็ก (Childhood pneumonitis)
- โดย รองศาสตราจารย์(พิเศษ) นายแพทย์ ทวี โชติพิทยสุนนท์
- 21 พฤศจิกายน 2562
- Tweet
สารบัญ
- บทนำ
- โรคปอดอักเสบ ปอดบวม ในเด็กเกิดได้อย่างไร?
- อะไรเป็นปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคปอดอักเสบ ปอดบวมในเด็ก?
- โรคปอดอักเสบ ปอดบวม ในเด็กมีอาการอย่างไร?
- แพทย์วินิจฉัยโรคปอดอักเสบ ปอดบวม ในเด็กอย่างไร?
- รักษาโรคปอดอักเสบ ปอดบวม ในเด็กอย่างไร? ดูแลเด็กอย่างไร?
- เมื่อไรจึงควรพาเด็กที่สงสัยโรคปอดอักเสบ ปอดบวมมาพบแพทย์?
- การป้องกันโรคปอดอักเสบ ปอดบวม ในเด็กทำอย่างไร?
บทความที่เกี่ยวข้อง
- โรคติดเชื้อ ภาวะติดเชื้อ (Infectious disease)
- ไข้ อาการไข้ ตัวร้อน (Fever)
- โรคปอด (Lung disease)
- เด็ก: โรคเด็ก (Childhood: Childhood diseases)
- แบคทีเรีย: โรคจากแบคทีเรีย (Bacterial infection)
- เชื้อไวรัส โรคติดเชื้อไวรัส (Viral infection)
- เชื้อรา โรคเชื้อรา (Fungal infection)
- โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ โรคติดเชื้อระบบหายใจ (Respiratory tract infection)
- โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจตอนล่าง
บทนำ
โรคปอดอักเสบ(Pneumonitis) หรือ โรคปอดบวม (Pneumonia) มีความหมายคล้ายคลึงกันมากจนใช้เรียกแทนกันได้ แต่นิยมเรียกโรคปอดอักเสบมากกว่าเพราะตรงความหมายมากกว่า โรคปอดอักเสบเป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจที่สำคัญ โดยเฉพาะในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และเป็นสาเหตุการตายในเด็กที่สูงถึง 1.6 ล้านคนต่อปีจากจำนวนผู้ป่วย 156 ล้านคนต่อปีทั่วโลก โดย 95% ของเด็กเหล่านี้อาศัยอยู่ในประเทศกำลังพัฒนา เพราะมีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดปอดอักเสบสูงกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว สำหรับประเทศไทยพบโรคปอดอักเสบ 1,418 คน ต่อประชากรไทย100,000 คน
โรคปอดอักเสบ ปอดบวม ในเด็กเกิดได้อย่างไร?
โรคปอดอักเสบ ปอดบวม เกือบทั้งหมดมีสาเหตุจากเชื้อโรคทั้งสิ้น โดยพบดังนี้
1. เชื้อไวรัส เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ ไวรัสโรคหัด ไวรัสอาร์เอสวี ฯลฯ ซึ่งกลุ่มนี้พบบ่อยที่สุด
2. เชื้อแบคทีเรีย เช่น เชื้อนิวโมคอคคัส (Pneumococcus) เชื้อฮีโมฟิลุสอินพลูเอนเซ (Haemophilus influenzae) เชื้อมัยโค พลาสม่า (Mycoplasma) ฯลฯ พบได้พอสมควร โดยปกติเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้จะอยู่ที่คอหอยของคนเรา รอจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการก่อโรคปอดอักเสบหรือโรคอื่นๆ
3. เชื้อรา เช่น เชื้อราแคนดิดา (Candida) เชื้อราเพนิซิเลี่ยม (Penicillium) ฯลฯ มักเกิดขึ้นในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำ เช่น กินยาสเตียรอยด์ โรคเอดส์ เป็นต้น
อะไรเป็นปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคปอดอักเสบ ปอดบวมในเด็ก?
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคปอดอักเสบ ปอดบวมในเด็ก คือ
1. ตัวเด็กเอง: เช่น
- อายุน้อย ตั้งแต่แรกคลอด – 5 ปี
- มีความผิดปกติทางเดินหายใจ
- มีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำ เช่น โรคเอดส์ กินยาสเตียรอยด์
- ไม่ได้กินนมแม่
- ไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือฉีดไม่ครบ เช่น วัคซีนโรคไอกรน วัคซีนโรคหัด วัคซีนโรคฮิบ (HIB, Haemophillus influenzae type B, โรคติดเชื้อแบคทีเรีย ชื่อ ฮีโมฟิลุสอินพลูเอนเซ ซึ่งทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้) วัคซีนโรคไอพีดี (IPD, Invasive pneumococcal disease, โรคติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่มักรุนแรง) วัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น
- มีภาวะทุพโภชนาการ
2. สิ่งแวดล้อม: เช่น
- อยู่อย่างแออัด (การถ่ายเทอากาศไม่ดี)
- ฝุ่นละออง ควันบุหรี่ภายในบ้าน เป็นต้น
3. เชื้อโรค: เช่น
- มีการระบาดของเชื้อโรค เช่น การระบาดของไข้หวัดใหญ่ในปี 2009
- เชื้อโรคดื้อยา(เชื้อดื้อยา)
โรคปอดอักเสบ ปอดบวม ในเด็กมีอาการอย่างไร?
อาการจากโรคปอดอักเสบ ปอดบวมในเด็ก คือ
- อาการเริ่มต้น: เช่น
- เป็นไข้
- อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่
- ไอ
- อาการระยะปอดอักเสบ: เช่น
- ไข้สูง
- ไอมากขึ้น
- เริ่มหอบเหนื่อย, อ่อนเพลีย, ซึม, ไม่ค่อยทานน้ำและอาหาร (ระยะนี้ต้องรีบพบแพทย์/มาโรงพยาบาล)
แพทย์วินิจฉัยโรคปอดอักเสบ ปอดบวม ในเด็กอย่างไร?
การวินิจฉัยแบ่งเป็น 2 แบบ
1. จากอาการ: ได้แก่
- พบมีไข้ ไอ หอบเหนื่อย หายใจแรง หน้าอกกระเพื่อม
- แพทย์ฟังปอดจากการตรวจด้วยหูฟัง จะได้ยินเสียง “กร๊อบแกร๊บ” ในปอด
2. จากห้องปฏิบัติการ: ได้แก่
- การเอ็กซเรย์ปอด พบเป็นรอยฝ้าขาวผิดปกติ
- การตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อโรค แต่มีประโยชน์ไม่มาก
รักษาโรคปอดอักเสบ ปอดบวม ในเด็กอย่างไร? ดูแลเด็กอย่างไร?
การรักษาโรคปอดอักเสบ/ ปอดบวมในเด็ก เนื่องจากโรคปอดอักเสบ/ ปอดบวมมักมีอาการรุนแรง และอาจจะถึงแก่ชีวิตได้ จึงต้องดูแลรักษาโดยแพทย์เท่านั้น โดยเมื่อเด็กมีอาการดังกล่าว ไม่ควรดูแลเอง ควรรีบนำเด็กพบแพทย์/มาโรงพยาบาล ทั้งนี้การรักษามี 2 ส่วน คือ
1. การรักษาตามอาการและประคับประคอง เช่น ยาแก้ไข้ ยาแก้ไอ หากมีอาการหอบเหนื่อยต้องให้ออกซิเจน หากอาการรุนแรงมาก อาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
2. การรักษาจำเพาะต่อเชื้อโรค เช่น ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ (ยาทามิฟลู/ Tamiflu) หรือ ยาปฏิชีวนะ ตามความเหมาะสมต่อเชื้อโรคต้นเหตุของโรคปอดอักเสบ/ ปอดบวมนั้นๆ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาชนิดของยาต่างๆ รวมทั้งชนิดของยาปฏิชีวนะ ขนาดยา วิธีการให้ยา (เช่น กิน หรือ ฉีดเข้าเส้น) และระยะเวลาของการใช้ยาอย่างเหมาะสม และไม่ควรซื้อยากินเอง
เมื่อไรจึงควรพาเด็กที่สงสัยโรคปอดอักเสบ ปอดบวม มาพบแพทย์?
อาการปอดอักเสบ มักเริ่มต้นด้วยอาการไข้หวัดใหญ่ประมาณ 2-4 วัน แล้วจึงเริ่มหอบเหนื่อย อ่อนเพลีย ซึ่งเป็นอาการของปอดอักเสบ/ ปอดบวม
ดังนั้นหากเด็กที่เริ่มเป็นไข้หวัด ไม่ว่าจะรักษาโดยแพทย์หรือรักษาเองก็ตาม ถ้า 24-48 ชั่วโมงหลังการรักษาไข้หวัดนั้นๆแล้วอาการไม่ดีขึ้น เช่น ไข้สูงตลอด หอบเหนื่อย เพลีย ไอมาก อาเจียนมาก ฯลฯ ให้สงสัยว่า อาจเป็นโรคปอดอักเสบ /ปอดบวม ซึ่งรุนแรงและอันตรายได้ ควรรีบนำเด็กพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลด่วน เพื่อการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมต่อไป
การป้องกันโรคปอดอักเสบ ปอดบวม ในเด็กทำอย่างไร?
การป้องกันโรคปอดอักเสบ ปอดบวมในเด็ก มีหลายวิธี ได้แก่
1. กินนมแม่ให้นานที่สุด
2. หลีกเลี่ยงการอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีฝุ่นละออง ควันบุหรี่ ควันไฟ ควันธูป ฯลฯ
3. ฉีดวัคซีนป้องกันโรค เช่น วัคซีนโรคไอกรน วัคซีนโรคหัด วัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่ วัคซีนฮิบ วัคซีนโรคไอพีดี เป็นต้น
4. หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีคนอยู่อย่างแออัด