article detail

ปวดเอว (Flank pain)

• โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
• 22 ตุลาคม 2555
• Tweet

• ปวดหลังช่วงล่าง (Low back pain)
• โรคไต (Kidney disease)
• นิ่วในไต (Kidney stone)
• นิ่วในท่อไต (Ureteric stone)
• โรคกล้ามเนื้อ โรคระบบกล้ามเนื้อ (Muscle disease)
• โรคกระดูก (Bone disease)

ปวดเอว หรือปวดบั้นเอว หรือปวดกะเอว หรือปวดสะเอว (Flank pain) เป็นอาการไม่ใช่โรค โดยคำว่า เอว ทางการแพทย์หมายถึงร่างกายส่วนที่เป็นด้านข้างของลำตัวซึ่งมีทั้งด้านซ้าย และด้านขวา เป็นส่วนนับจากใต้ชายโครงลงมาจนถึงเหนือกระดูกปีกสะโพกซึ่งเป็นกระดูกชิ้นใหญ่สุดที่อยู่ตรงสะโพก โดยอาจเรียกส่วนนี้ว่า บั้นเอว กะเอว หรือสะเอว ก็ได้

เมื่อมีอาการปวด/เจ็บเอวมักมีสาเหตุจากโรคของอวัยวะเหล่านี้คือ

กล้ามเนื้อหลัง เช่น จากการยกของหนัก อุบัติเหตุต่อหลัง การเอี้ยวตัว ก้ม นั่ง นอน เดิน ยืน ไม่ถูกท่าทาง

กระดูกสันหลังเช่น จากโรคกระดูกพรุน โรคปวดหลังจากหมอนรองกระดูกสันหลัง อุบัติเหตุต่อกระดูกสันหลัง

โรคไต โรคของท่อไต เช่น โรคนิ่วในไต โรคนิ่วในท่อไต โรคกรวยไตอักเสบ โรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ

ผิวหนังบริเวณนั้นติดเชื้อเช่น โรคเริม

ทั้งนี้เมื่อมีอาการปวดเอวต่อเนื่องเรื้อรัง ควรพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลเสมอเพื่อหาสาเหตุ แต่ควรรีบพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลโดยเร็ว เมื่อปวดเอวร่วมกับอาการปวดมาก มีไข้ ปัสสาวะผิดปกติหรือปัสสาวะเป็นเลือด (อาการของโรคไตและ/หรือท่อไต) หรือมีอาการชาขา ก้น เท้า หรือ ขา/เท้าอ่อนแรง/กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือควบคุมอาการอุจจาระปัสสาวะไม่ได้ (อาการของโรคทางกระดูกสันหลัง)

บรรณานุกรม

1. http://www.umm.edu/ency/article/003113.html [2015,Oct31].

Updated 2015, Oct 31