ก้อนที่อัณฑะ ก้อนในถุงอัณฑะ (Testicular mass หรือ Scrotal mass)
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
- 4 กันยายน 2556
- Tweet
ก้อนที่คลำได้ที่อัณฑะ หรือในถุงอัณฑะ ข้างไหนก็ได้ อาจเพียงข้างเดียวหรือ 2 ข้างก็ได้ มีสาเหตุได้มากมาย เช่น อาจเป็น
- ถุงน้ำทั่วไปในเนื้อเยื่อของอัณฑะ (Cyst) ลักษณะจะนิ่ม ไม่เจ็บ ไม่ปวด สาเหตุเกิดยังไม่ทราบแน่ชัด
- ถุงน้ำอัณฑะ (Hydrocele) ลักษณะจะนิ่ม อาจรู้สึกปวดหน่วงได้ สาเหตุอาจเกิดได้จากหลายโรค เช่น อัณฑะบาดเจ็บ อักเสบ หรือเกิดร่วมกับมะเร็งอัณฑะ
- หลอดน้ำอสุจิโป่งพอง (Spermatocele) มักเกิดจากเป็นผลข้างเคียงของการมีอัณฑะอัก เสบ และ/หรือมีการบาดเจ็บของอัณฑะ หรือของหลอดน้ำอสุจิ
- ถุงน้ำเลือด (Hematocele) มักมีประวัติบาดเจ็บที่อัณฑะ
- ก้อนเนื้อเยื่อไขมัน (Lipoma) ก้อนมักนิ่ม สาเหตุยังไม่ทราบ
- อัณฑะอักเสบ (มักเจ็บเมื่อคลำโดน) เกิดจากมีการอักเสบติดเชื้อของอัณฑะ มักเป็นการอักเสบจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- ถุงเก็บอสุจิอักเสบ (มักร่วมกับอาการเจ็บ) เกิดจากการอักเสบติดเชื้อของอัณฑะ มักจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- หลอดเลือดดำอัณฑะขอด ซึ่งสาเหตุของโรคนี้ยังไม่ทราบ
- ไส้เลื่อน มักพบก้อนเมื่อลุกยืน/เดิน แต่ก้อนหายไปเมื่อนอนราบ โดยสาเหตุเกิดจากการอ่อนแอของเนื้อเยื่อที่กั้นระหว่างช่องท้องกับถุงอัณฑะ
- อัณฑะบิด จะปวด/เจ็บอัณฑะมาก (ต้องรีบไปโรงพยาบาล เพราะเป็นสาเหตุให้อัณฑะขาดเลือด) สาเหตุเกิดที่แน่นอนยังไม่ทราบ แต่ปัจจัยเสี่ยง คือ การออกแรงมาก อุบัติ เหตุที่อัณฑะ อากาศเย็น
- แต่ที่สำคัญที่ทำให้เมื่อมีก้อนที่อัณฑะ โดยเฉพาะในวัยหนุ่มสาว (อายุประมาณ 20-35 ปี ) หรือในผู้สูงอายุ จำเป็นต้องได้รับการตรวจจากแพทย์เสมอ คือ การแยกว่าก้อนนี้ไม่ใช่ก้อนเนื้อร้าย ถึงแม้โรคเนื้อร้าย/มะเร็งอัณฑะนี้จะพบได้น้อยกว่าโรคอื่นๆที่ได้กล่าวมา แล้วก็ตาม
ดังนั้น เมื่อคลำได้ก้อนที่อัณฑะ ไม่ว่าจะข้างใด ซ้ายหรือขวา หรือทั้ง 2 ข้าง และจะมีอา การอื่นๆร่วมด้วยหรือไม่ก็ตาม (เช่น ปวด) ควรต้องพบศัลยแพทย์เสมอ หรือถ้าเป็นแพทย์เฉพาะทาง ก็คือ แพทย์ระบบศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะ (หมอยูโร/Urology) ทั้งนี้เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยเพื่อแยกจากโรคมะเร็งอัณฑะ
บรรณานุกรม
- Scrotal mass http://www.mayoclinic.com/health/scrotal-masses/DS00410/DSECTION=causes[2013,Aug 8].