การบาดเจ็บวิพแลช การบาดเจ็บกล้ามเนื้อ เส้นประสาท และ/หรือข้อต่อบริเวณคอ (Whiplash injury)

สารบัญ บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ

หลายคนคงเคยประสบอุบัติเหตุขณะนั่งรถยนต์ เช่น ถูกรถคันหลังชนท้ายรถเรา หลัง จากนั้นเราก็รู้สึกปวดบริเวณต้นคอ อาการดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร รักษาอย่างไร

อาการดังกล่าวเรียกว่า “การบาดเจ็บวิพแลช หรือ อาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ เส้นประสาทและ/หรือข้อต่อบริเวณคอ หรือการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุบริเวณคอ (Whiplash injury)” เป็นการบาดเจ็บที่ชื่อแปลกมาก ลองติดตามบทความนี้ครับ แล้วท่านจะทราบว่า อาการนี้คืออะไร

อนึ่ง บทความนี้ ขอใช้คำเรียกการบาดเจ็บลักษณะนี้ว่า “การบาดเจ็บวิพแลช”

การบาดเจ็บวิพแลชคืออะไร?

การบาดเจ็บวิพแลช

วิพแลช (Whiplash) เป็นภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาพูด หมายถึงการบาดเจ็บที่เกิดจากการเคลื่อนที่ ที่ผิดปกติ/การบิด/การสะบัด อย่างแรง และรวดเร็วทันทีของคอ มักเกิดจากอุบัติ เหตุรถยนต์ ซึ่งส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บของ กล้ามเนื้อ เส้นประสาท และ/หรือข้อต่อบริเวณคอ ทันที

การบาดเจ็บวิพแลชนี้ พบได้ในทุกเพศ ทุกวัย แต่พบได้มากกว่าในวัยที่เป็นผู้ใหญ่ โดยพบบ่อยในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายประมาณ 3 เท่า เข้าใจว่า เป็นเพราะความแข็งแรงของกล้าม เนื้อคอของผู้ชายแข็งแรงกว่าของผู้หญิง โอกาสเกิดการบาดเจ็บจึงพบได้น้อยกว่า

การบาดเจ็บวิพแลชเกิดขึ้นได้อย่างไร?

กลไกการเกิดการบาดเจ็บวิพแลช เนื่องมาจาก เมื่อมีการกระแทกที่ตัวเราหรือที่ตัวรถ ทำให้คอและศีรษะมีการสะบัด เคลื่อนไปด้านหลัง และสะบัดกลับมาข้างหน้าอย่างรวดเร็วทันที คล้ายกับการสะบัดแส้ จึงมีชื่อ Whiplash injury (Whiplash แปลว่า แส้) ที่ส่งผลให้ กล้ามเนื้อ เส้นประสาท ไขสันหลัง ข้อต่อ/กระดูกสันหลัง (กระดูกสันหลังคอ) เส้นเอ็นต่างๆในบริเวณคอ ได้รับการกระทบกระเทือนทันที ซึ่งก่อให้เนื้อเยื่อต่างๆเหล่านั้นเกิดอาการบาดเจ็บ ที่ก่อให้เกิดอาการต่างๆขึ้น ที่รวมเรียกว่า Whiplash หรือ Whiplash injury

อะไรเป็นสาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยงให้เกิดการบาดเจ็บวิพแลช?

สาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยงที่พบบ่อยที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บวิพแลช ได้แก่

  • ถูกรถชนท้าย เช่น ขณะจอดรถติดไฟแดง
  • เล่นกีฬาที่มีการปะทะ เช่น ชกมวย รักบี้ ฟุตบอล
  • หยุดรถกะทันหัน
  • เล่นเครื่องเล่นผาดโผน เช่น รถไฟเหาะ โรลเลอร์ คอสเตอร์ รถบั๊ม

อนึ่ง ส่วนใหญ่มีความเข้าใจผิดว่า ต้องมีอุบัติเหตุที่รุนแรงเท่านั้น หรือต้องขับรถด้วยความเร็วจึงจะเกิดปัญหา จริงๆแล้วความเร็วไม่สูงหรืออุบัติเหตุไม่รุนแรง ก็เกิดการบาดเจ็บวิพแลชได้

การบาดเจ็บวิพแลชมีอาการอย่างไร?

อาการผิดปกติที่พบบ่อยๆจากการบาดเจ็บวิพแลช คือ

  • ปวดศีรษะที่มักปวดข้างเดียว เจ็บ /ปวดกล้ามเนื้อคอ แขน ไหล่ โดยเฉพาะขณะเคลื่อนไหว
  • เวียนศีรษะ อาจมีคลื่นไส้อาเจียน
  • บางคนมีปัญหาเกี่ยวกับ
    • ความคิดและความจำ
    • หูอื้อ
    • หงุดหงิด
    • อยู่ไม่สุขสบาย
    • ชาและเจ็บเหมือนโดนหนามแทงที่แขน หน้า และหัวไหล่
    • เจ็บกราม
    • ปวดหลัง
    • เจ็บสะโพก
    • และการมองเห็นแย่ลง

เมื่อไหร่ควรพบแพทย์?

กรณีมีอาการ ปวดคอ ปวดศีรษะรุนแรง หรืออาการอื่นๆ (ดังกล่าวในหัวข้อ อาการ) ไม่ดีขึ้น ถึงแม้จะให้การดูเบื้องต้น เช่น การประคบ การนวด การทานยาแก้ปวดเบื้องต้น แล้วก็ตาม ก็ควรไปพบแพทย์/ไปโรงพยาบาล

แพทย์วินิจฉัยการบาดเจ็บวิพแลชได้อย่างไร?

แพทย์วินิจฉัยการบาดเจ็บวิพแลชได้โดย

  • พิจารณาข้อมูลจากประวัติอุบัติเหตุ อาการผิดปกติดังกล่าวใน ‘หัวข้อ อาการฯ’
  • การตรวจร่างกาย
  • การตรวจตำแหน่งที่เกิดอาการ
  • การตรวจร่างกายทางระบบประสาท เพื่อหาความผิดปกติของระบบประสาท เช่น อาการอ่อนแรง ชา หรือกล้ามเนื้อลีบ
  • การตรวจหาสาเหตุอื่นๆที่อาจเป็นสาเหตุที่ให้อาการคล้ายกัน เช่น หมอนรองกระดูกเคลื่อนกดทับเส้นประสาท
  • อาจส่งตรวจภาพกระดูกสันหลังคอด้วย เอกซเรย์ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือเอมอาร์ไอ ขึ้นกับความจำเป็นของผู้ป่วยแต่ละราย เช่น มีอาการแขนอ่อนแรงชัดเจน หรืออาการปวดตามแนวของรากประสาท หรือของเส้นประสาท ซึ่งบ่งบอกว่า น่าจะมีการกดทับของเส้นประสาทหรือของรากประสาทระดับคอ ก็จำเป็นต้องส่งตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์หรือเอมอาร์ไอ ของกระดูกสันหลังและประสาทไขสันหลัง/ไขสันหลังระดับคอ เป็นต้น

รักษาการบาดเจ็บวิพแลชอย่างไร?

แนวทางการรักษาการบาดเจ็บวิพแลช ได้แก่

ก. กรณีแพทย์ตรวจแล้วไม่พบความผิดปกติอื่นๆ เช่น ไม่มีการกดของหมอนรองกระดูกสันหลัง หรือการกดของกระดูกต้นคอ ต่อประสาทไขสันหลัง การรักษาประกอบด้วย

  • การทานยาแก้ปวด
  • การฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณปวด
  • การนวดไม่รุนแรงบริเวณคอที่ปวด
  • การรักษาอาการปวดด้วยการกระตุ้นไฟฟ้า หรือด้วยคลื่นความร้อน (การทำกายภาพบำบัด)
  • และ/หรือ การฝังเข็ม

ข. กรณีพบมีสาเหตุอื่นๆ เช่น การกดของหมอนรองกระดูก ก็จะให้การรักษาตามสาเหตุนั้นๆ เช่น การรักษาภาวะการกดของหมอนรองกระดูกสันหลัง เป็นต้น

โดยส่วนใหญ่แล้ว การบาดเจ็บวิพแลช ไม่มีความจำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัด ยกเว้นผู้ป่วยที่เกิดปัญหาหมอนรองกระดูกเคลื่อนกดทับรากประสาทหรือกดทับประสาทไขสันหลัง จึงจำเป็นต้องรับการรักษาด้วยการผ่าตัด

ทั้งนี้ การรักษากินเวลานานหรือไม่ ขึ้นกับอาการของผู้ป่วย ถ้าอาการหายดีภายใน 2-3 เดือนแรกก็ไม่จำเป็นต้องรักษาระยะยาว แต่ถ้ามีปัญหาอาการเรื้อรัง การรักษาก็ต้องใช้เวลานาน โดยการทำกายภาพบำบัดเป็นหลัก และทานยาแก้ปวดเป็นระยะๆ ตามอาการปวดที่เกิดขึ้น ร่วม กับยาต้านเศร้า

ภาวะแทรกซ้อนจากการบาดเจ็บวิพแลชมีอะไรบ้าง?

ภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยจากการบาดเจ็บวิพแลช คือ

  • อาการปวดคอเรื้อรังอาจร่วมกับความรู้สึกผิดปกติบริเวณดังกล่าว (เช่น แขนชา และ/หรือ อ่อนแรง)
  • บางคนก็มีอาการหงุดหงิด หรือภาวะซึมเศร้าตามมาได้

การบาดเจ็บวิพแลชมีการพยากรณ์โรคอย่างไร?

การพยากรณ์โรคของการบาดเจ็บวิพแลช ขึ้นกับความรุนแรงของอาการตั้งแต่แรกเกิดการบาดเจ็บ และประวัติการเจ็บป่วยด้วยโรคกระดูกมาก่อน เช่น อาการปวดหลัง

โดยทั่วไป

  • ประมาณ 60% ของผู้ป่วยจะหายได้เป็นปกติในระยะเวลาประมาณ 2-3 เดือน
  • ประมาณ 2% อาการไม่ดีขึ้น
  • ที่เหลืออาการดีขึ้น แต่ไม่กลับเป็นปกติ หรืออาจเป็นๆหายๆ

ดูแลตนเองอย่างไร?

การดูแลตนเองในเบื้องต้นหลังจากเกิดการบาดเจ็บวิพแลช เช่น

  • การประคบเย็น การนวด (ไม่ควรนวดอย่างแรง) บริเวณคอ
  • การใส่ปลอกคอเพื่อให้คอได้พักในตำแหน่งที่เหมาะสม และมีการเคลื่อนไหวที่พอเหมาะของคอ โดยป้องกันการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว (เช่น ไม่หันคออย่างรวดเร็ว ไม่หันจนคอบิด ไม่สะบัดคอไปมา)
  • อาจทานยาพาราเซตามอลแก้ปวดเป็นครั้งคราว
  • และให้สังเกตว่าตนเองมีอาการผิดปกติอะไรบ้าง ซึ่งถ้าพบว่ามีอาการมาก และ/หรือมีอาการชาหรืออ่อนแรงของแขน ก็ควรรีบพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลตั้งแต่แรกมีอาการ
  • ทั้งนี้ หลังดูแลตนเองแล้วอาการไม่ดีขึ้น อาการต่างๆเลวลง และ/หรือ มีอาการแขนชา และ/หรืออ่อนแรงตามมา ก็ควรรีบพบแพทย์/ไปโรงพยาบาล
  • ส่วนการดูแลตนเอง ภายหลังพบแพทย์แล้ว คือ การปฏิบัติตามแพทย์แนะนำ

ควรพบแพทย์ก่อนนัดเมื่อใด?

ในกรณีได้พบแพทย์แล้ว ผู้ป่วยควรพบแพทย์/มาโรงพยาบาลก่อนนัดเมื่อ

  • อาการที่เป็นอยู่นั้นมีอาการรุนแรงมากขึ้น
  • หรือมีความผิดปกติทางระบบประสาท (เช่น แขนชา แขนอ่อนแรง) เพิ่มขึ้น
  • หรือมีอาการที่ผิดปกติไปจากเดิม
  • หรือมีอาการแพ้ยาที่ใช้รักษา เช่น ผิวหนังขึ้นผื่น คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้องมาก และ/หรืออุจจาระเป็นสีดำลักษณะคล้ายยางมะตอย (ผลข้างเคียงจากยาแก้ปวดในกลุ่มเอ็นเสด ที่ทำให้มีเลือดออกในทางเดินอาหาร)

ป้องกันการบาดเจ็บวิพแลชอย่างไร?

การป้องกันการบาดเจ็บวิพแลช คือ

  • การหลีกเลี่ยงการประทะต่างๆ รวมถึงในการเล่นกีฬา และอุบัติเหตุต่างๆ
  • การขับรถต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ
    • ถ้าจอดรถหลังรถคันอื่นตอนติดไฟจราจร ควรจอดห่างจากรถคันหน้าพอสมควร
    • และสังเกตการจราจรข้างหลังด้วยการมองกระจกหลังว่า จะมีรถมาจอดใกล้กับรถเรามากๆ หรือจะเกิดอุบัติเหตุหรือไม่
    • การนั่งขับรถควรนั่งท่าให้ถูกต้อง ห่างจากพวงมาลัยรถและคันเร่ง เบรกที่เหมาะสม ให้พนักรองคอหรือหมอนรองศีรษะอยู่ในตำแหน่งสูง และชิดศีรษะพอดี ไม่ควรห่างและต่ำเกินไป
    • รวมทั้งการคาดเข็มขัดนิรภัยก็ไม่ควรคาดต่ำเกินไป