เรอ (Belching)
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
- 22 กรกฎาคม 2555
- Tweet
- มีแก๊สในท้อง แน่นอึดอัด ท้องอืด ท้องเฟ้อ เรอ ผายลม (Gas,Bloating,Belching,and Flatulence)
- อาหารไม่ย่อย ธาตุพิการ (Indigestion)
- โรคทางเดินอาหาร โรคระบบทางเดินอาหาร (Digestive disease)
- กรดไหลย้อน (Gastroesophageal reflux disease)
- นิ่วในถุงน้ำดี นิ่วถุงน้ำดี (Gallstone)
- กระเพาะอาหารอักเสบ (Gastritis)
- แผลเปบติค (Peptic ulcer) / แผลในกระเพาะอาหาร (Gastric ulcer)
เรอ (Belching หรือ Burping) เป็นอาการจากร่างกายขับลมออกจากหลอดอาหารและ จากกระเพาะอาหาร เกิดร่วมกับมีเสียง (เสียงจากการสั่นของหูรูดหลอดอาหาร) และมีกลิ่นของ อาหารที่ได้บริโภคและยังค้างอยู่ในกระเพาะอาหาร ทั้งนี้เนื่องจากมีลมหรือแก๊สหรืออากาศใน หลอดอาหารและในกระเพาะอาหารมากเกินปกติ
สาเหตุที่ทำให้มีลมในหลอดอาหารและกระเพาะอาหารมากกว่าปกติ อาจเกิดจากกิน อาหารเร็ว เคี้ยวไม่ละเอียด เคี้ยวหมากฝรั่ง ดื่มน้ำอัดลม การดูดน้ำ/อาหารเช่น ดูดนม (ในเด็ก อ่อนที่กินนมแม่) หรือการใช้หลอดดูดอาหารและเครื่องดื่ม หรือเกิดจากมีกรดในกระเพาะอาหาร มากเช่น จากดื่มกาแฟ (สารกาเฟอีน) หรือจากการสูบบุหรี่ หรือปัญหาด้านอารมณ์/จิตใจ หรือ อาจเกิดจากการมีอาหารตกค้างในกระเพาะอาหารมาก จากน้ำย่อยอาหารไม่เพียงพอ เช่น จากกินอาหารมากเกินไป จากประเภทอาหาร ผลข้างเคียงของยาบางชนิดเช่น ยาโรคเบาหวานบางชนิด หรือจาก โรคของอวัยวะที่สร้างน้ำย่อยเช่น ตับ ถุงน้ำดี ตับอ่อน และกระเพาะอาหาร
โรคที่เป็นสาเหตุให้มีการเรอบ่อยผิดปกติมีได้หลากหลายโรค ที่พบได้บ่อยเช่น โรคกรด ไหลย้อน โรคแผลในกระเพาะอาหาร/โรคแผลเปบติก โรคกระเพาะอาหารอักเสบ โรคนิ่วในถุง น้ำดี เป็นต้น
เมื่อมีอาการเรอบ่อยผิดปกติ ควรปรับพฤติกรรมในการกิน/ดื่มเช่น กินปริมาณอาหารแต่ ละมื้อให้น้อยลง และสังเกตประเภทอาหาร และหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านั้น แต่ถ้าอาการเรอไม่ดี ขึ้นหรือมีอาการร่วมอื่นๆเช่น ปวดท้อง อาการแสบร้อนกลางอก ถ่ายอุจจาระดำเหมือนยางมะตอย (อุจจาระเป็นเลือด) หรืออาเจียนเป็นเลือด ควรพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลเพื่อหาสาเหตุ เพราะอาจเกิดจากโรคต่างๆดังได้กล่าวแล้วได้
บรรณานุกรม
1. http://en.wikipedia.org/wiki/Burping [2015,July11]
Updated 2015, July 11