การดูแลระบบทางเดินปัสสาวะเมื่อได้เคมีบำบัด (Chemotherapy:Urinary tract care)
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
- 17 พฤศจิกายน 2561
- Tweet
- ยาเคมีบำบัดส่งผลต่อระบบทางเดินปัสสาวะอย่างไร?
- ป้องกันอาการทางระบบทางเดินปัสสาวะจากยาเคมีบำบัดได้ไหม?
- ควรดูแลตนเองอย่างไร? ควรพบแพทย์เมื่อไร?
- บรรณานุกรม
- มะเร็ง (Cancer)
- ยาเคมีบำบัด (Cancer chemotherapy)
- โรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ (Urinary tract infection)
- ปัสสาวะเป็นเลือด (Hematuria)
- กายวิภาคและสรีรวิทยาของระบบทางเดินปัสสาวะ (Anatomy and physiology of Urinary tract)
- กระเพาะปัสสาวะอักเสบ (Cystitis)
- การดูแลตนเองเมื่อป่วยเป็นโรคมะเร็ง และการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็ง (Cancer patient self-care and Cancer care)
ยาเคมีบำบัดส่งผลต่อระบบทางเดินปัสสาวะอย่างไร?
ยาเคมีบำบัด เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้ว บางส่วนจะถูกกำจัดอออกทางร่างกายทางปัสสาวะโดยผ่านการทำงานของระบบทางเดินปัสสาวะ (ไต ท่อไต กระเพาะปัสสาวะ และท่อปัสสาวะ) ดังนั้นยาฯจึงอาจก่อการบาดเจ็บต่อเซลล์ของอวัยวะดังกล่าวเหล่านี้ได้ ทั้งนี้ผู้ป่วยเคมีบำบัด อาจมีอาการผิดปกติในระบบทางเดินปัสสาวะได้ดังนี้ คือ
- ปัสสาวะแสบ เจ็บ กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ปัสสาวะไม่เป็นลำ
- บางครั้งอาจปัสสาวะไม่ออก/ปัสสาวะขัด
- สีและกลิ่นของปัสสาวะอาจเปลี่ยนไปตามชนิดของยาเคมีบำบัด เช่น เหลืองเข็ม แดง หรือออกเขียว และมีกลิ่นของยาเคมีบำบัดนั้นๆ
- อาจมีปัสสาวะเป็นเลือด
- อาจมีไข้ หนาวสั่น
- อาจมีการ ติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ /โรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ
ป้องกันอาการทางระบบทางเดินปัสสาวะจากยาเคมีบำบัดได้ไหม?
การป้องกันอาการและการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ คือ
- ดื่มน้ำมากๆ มากกว่าปกติ อย่างน้อยวันละ 8- 10 แก้ว เมื่อไม่มีโรคต้องจำกัดน้ำดื่ม
- เคลื่อนไหวร่างกายเสมอ ไม่นั่งนานๆ ไม่กลั้นปัสสาวะนาน
- จำกัดเครื่องดื่มที่ก่อการระคายต่อเยื่อเมือกระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น เครื่องดื่ม กาเฟอีน (เช่น ชา กาแฟ โคลา ยาชูกำลัง) และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- จำกัดอาหารรสจัด เพราะสารอาหารจะก่อการระคายเคืองต่อเยื่อเมือกของอวัยวะระบบทางทางเดินปัสสาวะได้
- รักษาสุขอนามัยพื้นฐาน(สุขบัญญัติแห่งชาติ) เพื่อการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ลดโอกาสติดเชื้อต่างๆ รวมทั้งโรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ
ควรดูแลตนเองอย่างไร? ควรพบแพทย์เมื่อไร?
การดูแลตนเอง การพบแพทย์/มาโรงพยาบาลก่อนแพทย์นัด เมื่อมีอาการทางปัสสาวะหลังยาเคมีบำบัด เช่นเดียวกับในการป้องกันอาการ ที่สำคัญคือ
- ดื่มน้ำสะอาดให้มากๆ มากกว่าปกติ อย่างน้อยวันละ 8- 10 แก้ว เมื่อไม่มีโรคต้องจำกัดน้ำดื่ม
- จำกัดเครื่องดื่มกาเฟอีน และอาหารรสจัด
- ไม่กลั้นปัสสาวะนาน
- รักษาสุขอนามัยพื้นฐาน (สุขบัญญัติแห่งชาติ)
- ควรรีบพบแพทย์ภายใน 1-2 วัน เมื่อ
- ปัสสาวะ แสบ ขัด
- ปัสสาวะเป็นเลือด
- ปัสสาวะไม่ออก (ควรไปโรงพยาบาลฉุกเฉิน)
- มีไข้ ควรไปโรงพยาบาลฉุกเฉินเมื่อมีไข้สูง
- เมื่อมีความกังวลในอาการ
บรรณานุกรม
- DeVita, V., Hellman, S., and Rosenberg, S. (2005). Cancer: principles& practice of oncology (7th edition). New York: Lippincott Williams & Wilkins.
- https://www.cancer.gov/about-cancer/treatment/side-effects?redirect=true [2018,Oct27]
- https://www.cancer.org/treatment/treatments-and-side-effects/treatment-types/chemotherapy.html [2018,Oct27]
- https://www.urmc.rochester.edu/encyclopedia/content.aspx?contenttypeid=85&contentid=p07155 [2018,Oct27]
- https://www.livestrong.com/article/201996-effects-chemotherapy-has-on-urinary-systems/ [2018,Oct27]
- https://www.cancer.gov/about-cancer/treatment/side-effects/urination-changes [2018,Oct27]