คำถามเกี่ยวกับยา
โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
เรื่อง : มอร์ฟีน
ยามอร์ฟีน (Morphine) คือ สาร/ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 ตามกฎหมายของไทย ทางแพทย์ได้นำมาใช้เป็นยาแก้ปวด (Opioid analgesic drug) ที่รักษาอาการปวดระดับปานกลางถึงรุนแรง แต่สิ่งที่ต้องระวังสำหรับการใช้มอร์ฟีนคือ อาการติดยาซึ่งมักจะเกิดหลังใช้ยาเพียงไม่นาน สำหรับการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายของยามอร์ฟีนจะมีความแตกต่างกันออกไปตามรูปลักษณะของยาที่ใช้ กล่าวคือ ยาชนิดรับประทานจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้จากระบบทางเดินอาหารประมาณ 20 - 40% ยาเหน็บทวารประมาณ 36 - 71% และยาฉีดร่างกายจะมีการดูดซึมได้ 100% ทั้งนี้ เฉลี่ยเวลาในการออกฤทธิ์ของยามอร์ฟีนอยู่ที่ 4 ชั่วโมงโดยประมาณ
- อาการชัก
- คลื่นไส้อาเจียน
- ปากคอแห้ง
- ท้องผูก
- ปัสสาวะไม่ออก/ปัสสาวะขัด
- ปวดศีรษะ
- วิงเวียน
- ชีพจรเต้นผิดปกติ
- ตัวเย็น
- อาจมีผื่นคันหรือลมพิษขึ้นตามผิวหนัง
- หัวใจเต้นเร็ว หรือ หัวใจเต้นช้า ผิดปกติ
- ตาพร่า
- มีอาการเหงื่อออกมาก
- อาจรู้สึกหงุดหงิดหรือเคลิบเคลิ้ม
- สามารถติดยาได้
- ห้ามใช้ยานี้ขณะที่ผู้ป่วยมีการหายใจผิดปกติเช่น ขณะเป็นหอบหืดเฉียบพลันหรือหอบขนาดรุนแรง
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยขณะที่มีความดันในกะโหลกศีรษะสูง
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยด้วยพิษสุราแบบเฉียบพลัน รวมถึงผู้ป่วยด้วยโรคตับ
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยที่สลบ ไร้การตอบสนอง หรือขณะไม่รู้สึกตัว
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยด้วยปอดบวมน้ำ (Pulmonary edema)
- ระวังการใช้ยานี้กับผู้สูงอายุ เด็กที่อายุต่ำกว่า 3 เดือน สตรีตั้งครรภ์ และสตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร
- ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วยด้วยโรคไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ/ภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมน ผู้ป่วยโรคไต ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ ผู้ป่วยความดันโลหิตต่ำ ผู้ป่วยต่อมลูกหมากโต ผู้ที่มีการอักเสบของระบบทางเดินอาหาร (เช่น ลำไส้อักเสบ) ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ผู้ป่วยโรคถุงน้ำดี (เช่น ถุงน้ำดีอักเสบ นิ่วในถุงน้ำดี)
- การใช้ยามอร์ฟีน ร่วมกับยาในกลุ่ม TCAs อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดกลุ่มอาการเซโรโทนิน (Serotonin syndrome) ดังนั้นการใช้ยาร่วมกันจะต้องเป็นไปตามดุลยพินิจของแพทย์เท่านั้น
- การใช้ยามอร์ฟีน ร่วมกับยา Metoclopramide สามารถเพิ่มอาการข้างเคียงด้านการสงบประสาท หากจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกันแพทย์จะปรับขนาดการใช้ยาให้เหมาะสมเป็นกรณีๆ ไป
- มอร์ฟีนมีฤทธิ์ต่อต้านการรักษาของกลุ่มยาขับปัสสาวะ หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
- การใช้ยาปฏิชีวนะบางตัว เช่นยา Rifampicin ร่วมกับยามอร์ฟีนสามารถส่งผลให้ระดับความเข้มข้นของมอร์ฟีนในกระแสเลือดลดต่ำลง ทำให้ประสิทธิภาพของการรักษาอาการปวดถดถอยตามไปด้วย การจะใช้ยาร่วมกันแพทย์จะปรับขนาดการใช้ยาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยเป็นรายบุคคลไป