คำถามเกี่ยวกับยา
โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
เรื่อง : ยาคุมฉุกเฉิน
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน (Emergency contraception pill: ECP) หมายถึง ยาเม็ดที่มีวัตถุประสงค์ในการนำมาใช้เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์หลังจากที่ได้มีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว ประกอบด้วยฮอร์โมนโปรเจสตินในขนาดสูงกว่ายาเม็ดคุมกำเนิดธรรมดา โดยมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ในการใช้ยาเหล่านี้ ได้แก่
- การถูกข่มขืนกระทำชำเรา
- การมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดโดยไม่ได้มีการป้องกันไว้ก่อน
- วิธีการคุมกำเนิดที่ได้ใช้ไปมีข้อผิดพลาด เช่น ถุงยางอนามัยแตกรั่ว หรือลืมกินยาเม็ดคุมกำเนิดติดต่อกันมาแล้วถึงสามเม็ด
- ป้องกันหรือเลื่อนเวลาการตกไข่
- ป้องกันการปฏิสนธิของไข่และอสุจิ
- ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่เหมาะในการฝังตัวของตัวอ่อน
การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินจะได้ประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อรับประทานยาทั้งหมดรวม 2 เม็ด โดย
- 1 เม็ดแรกรับประทานทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์ แต่ทั้งนี้ไม่ควรเกิน 72 - 120 ชม.หลังมีเพศสัมพันธ์
- จากนั้นรับประทานยาฯอีก 1 เม็ดอีก 12 ชม.ถัดมา
เนื่องจากยามีปริมาณของฮอร์โมนสูงจึงทำให้ไม่เหมาะสมในการใช้เป็นยาเม็ดคุมกำเนิดทั่วไปเพราะมีผลข้างเคียงสูง เช่น
- การมีเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ
- มีอัตราการล้มเหลว/การตั้งครรภ์สูงกว่ายาคุมกำเนิดทั่วไป
ถ้าหากไม่มีประจำเดือนมาปกติภายใน 3 สัปดาห์หลังจากการรับประทานยานี้ ขอแนะนำให้ตรวจปัสสาวะดูการตั้งครรภ์ และหากตั้งครรภ์จะมีโอกาสตั้งครรภ์นอกมดลูกได้สูงกว่าประชากรทั่วไป จึงควรไปพบแพทย์/สูติแพทย์แต่เนิ่นๆ หลังจากทราบว่าตั้งครรภ์ และแจ้งให้แพทย์ทราบด้วยว่าได้ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินก่อนการตั้งครรภ์นี้ แพทย์จะได้ตรวจให้มั่นใจว่ามีหรือไม่มีการตั้งครรภ์นอกมดลูก (ท้องนอกมดลูก) ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
อนึ่ง การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินนี้ มิได้ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคเอชไอวี โรคเอดส์ โรคหนองใน และโรคซิฟิลิส แต่อย่างใด สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปโดยมีชื่อทางการค้า เช่น Postinor และ Madonna