คำถามเกี่ยวกับโรค
โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
เรื่อง : เครียด
- สัญญาณด้านอารมณ์/จิตใจ - มีปัญหาด้านความจำ ขาดสมาธิ มีปัญหาในการตัดสินใจ มองโลกในแง่ร้ายเสมอ คิดแต่การแข่งขัน วิตกกังวลสูง หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน รู้สึกเหนื่อยล้า เหงา เศร้า อยากอยู่คนเดียว ไม่มีความสุข
- สัญญาณเตือนด้านร่างกาย - ปวดเมื่อยเสมอ ปวดหลังเรื้อรังหาสาเหตุไม่ได้ เบื่ออาหารหรือกินจุผิดปกติ ท้องผูกหรือท้องเสีย คลื่นไส้ วิงเวียน เหนื่อยง่าย รู้สึกใจสั่น มือ เท้าเย็น นอนมากเกินควรหรือนอนไม่หลับ เบื่อหน่ายงาน มีบุคลิกภาพเปลี่ยนเช่น ชอบกัดเล็บ หรือตื่นเต้น กังวลง่าย หรือหันไปคลายความเครียดด้วยการดื่มสุรา สูบบุหรี่ หรือยาเสพติด
หรือสังเกตง่ายๆ เมื่อมีความเครียดจะสัมพันธ์กับอาการ 3 อย่างดังต่อไปนี้
- การหายใจ: จะผิดไปจากปกติ มีการหายใจถี่ขึ้น ตื้นขึ้น และหลายครั้งที่กลั้นหายใจโดยไม่รู้สึกตัว ซึ่งหากเป็นแบบนี้บ่อยๆ อากาศจะเข้าสู่ปอดน้อยลงเรื่อยๆ สุดท้ายคนที่เครียดมักจะถอนหายใจ เพื่อระบายอากาศออกมาและบังคับให้หายใจเข้าลึกๆ ใหม่อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งบางคนก็ใช้เป็นการระบายความเครียดได้ชั่วคราว
- อาการร้อนท้อง ปวดท้อง หรือ ร้อนกระเพาะอาหาร: เกิดเนื่องจากเวลาเครียดจากการทำงาน งานล้นมือ หรือฟังเรื่องร้ายๆ หรือถูกตำหนิบ่อยๆ จะเกิดอาการร้อนในท้อง แสบท้อง ซึ่งเกิดจากการหลั่งกรดมากในกระเพาะอาหาร
- ปวดศีรษะ ปวดขมับ: เกิดขึ้นได้บ่อยเวลาเครียด สาเหตุมาจากการหายใจซึ่งทำให้ออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่เต็มที่ ทำให้ต้องสูบฉีดเลือดไปสมองเร็วขึ้นและเส้นเลือดบีบตัวมากขึ้น ทำให้รู้สึกปวดตุ๊บๆ ที่ศีรษะ
เนื่องจากความเครียดมีผลกับร่างกาย 3 อย่างคือ การหายใจ ปวดท้อง และปวดศีรษะ วิธีคลายเครียดหรือการดูแลความเครียดก็คือ วิธีทำให้ทั้ง 3 ระบบของร่างกายได้ผ่อนคลาย เช่น ออกกำลังกาย ฝึกการหายใจเข้าออกลึกๆ ช้าๆ เล่นโยคะ ปลูกต้นไม้ รดน้ำต้นไม้ ทำงานอดิเรกที่ตนเองชอบ พูดคุยกับเพื่อน เป็นต้น ซึ่งหากอยู่ในขณะทำงานควรหาเวลาซัก 5 นาทีในการผ่อนคลายตนเอง จะทำให้ความเครียดไม่ก่อตัวรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นโรคได้
หากใครมีความสามารถในการจัดการกับความคิดตนเอง หรือฝึกเจริญสติตนเองได้ในระหว่างทำงาน ก็จะทำให้ความเครียดบรรเทาเบาบางลงได้มาก กรณีเกิดความเครียดที่รุนแรงมากขึ้นจนไม่สามารถจัดการได้ด้วยตนเองกล่าวคือ จนกลายเป็นภาวะซึมเศร้าหรือโรคซึมเศร้า ควรไปพบแพทย์
- ตระหนักรู้ในตนเอง: รู้จักว่าอารมณ์ตนเองเป็นอย่างไร ยอมรับตามอารมณ์ที่ตนเองเป็น (หากปฏิเสธอารมณ์ตนเองตามความเป็นจริงมักจะเกิดความขัดแย้งในใจ เกิดความเครียดและซึมเศร้าได้)
- ฝึกจัดการอารมณ์ตนเองอย่างเหมาะสม: มนุษย์ทุกคนล้วนมีอารมณ์กันทั้งนั้น การรู้เท่าทันอารมณ์อย่างเดียว บางรายอาจอดทนได้ไม่พอ ทำให้เกิดความเครียดหรือซึมเศร้าได้ การจัดการอารมณ์ที่ก่อให้เกิดความเครียดจะทำให้ไม่มีขยะทางอารมณ์คั่งค้าง เช่น โกรธก็รู้อารมณ์และอาจไปปล่อยอารมณ์เชิงสร้างสรรค์จากการทำงานบ้าน คุยกับเพื่อน ฯลฯ
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ครอบครัวและเพื่อน: หากเกิดสภาวะเครียดเล็กน้อย ก็ควรมีการพูดคุยเพื่อไม่ให้สะสมจนกลายเป็นความเครียดเรื้อรัง
- หางานอดิเรกทำ: เพื่อทำให้ตนเองมีความสุข เช่น ดูหนัง ฟังเพลง เล่นคอมพิวเตอร์ ร้องเพลง เต้นรำ อ่านหนังสือ ฯลฯ
- ท่องเที่ยว: หาเวลาพักผ่อนไปท่องเที่ยวตามสมควรแล้วแต่ความพร้อม เช่น อย่างน้อยเดือนละครั้ง เข้าหาธรรมชาติ ทะเล น้ำตก ภูเขา ฯลฯ
- กินอาหารที่มีประโยชน์: อาหารบางอย่างทำให้เกิดการบำรุงสมองได้ทำให้ไม่เครียดเช่น กล้วย บล็อกโคลี่ ผักโขม นม ธัญพืช ส้ม ฯลฯ ขณะเดียวกันก็หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่เป็นประโยชน์ เช่น แอลกอฮอล์ สารกระตุ้นประสาท ฯลฯ