คำถามเกี่ยวกับโรค
โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
เรื่อง : อาร์เอสวี
โรคอาร์เอสวี หรือ โรคไวรัสอาร์เอสวี หรือ โรคติดเชื้อทางเดินหายใจอาร์เอสวี (Respiratory syncytial virus infection ย่อว่า RSV infection) คือโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่เกิดจากไวรัสชื่อ Respiratory syncytial virus โดยเชื้อไวรัสอาร์เอสวี แบ่งเป็น 2 ชนิดย่อย คือ ชนิด A และชนิด B โดยชนิดย่อย A มักมีความรุนแรงสูงกว่าชนิดย่อย B
ไวรัสอาร์เอสวี เป็นไวรัสที่มีชีวิตอยู่ในคน ไวรัสนี้สามารถแพร่กระจายสู่ผู้อื่นได้นานประมาณ 3-8 วันนับจากวันที่ผู้ป่วยเริ่มมีอาการ แต่สามารถอยู่ในคนที่มีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำและแพร่กระจายสู่ผู้อื่นได้นานถึงประมาณ 4 สัปดาห์รวมถึงในระยะไม่มีอาการ ทั้งนี้ไวรัสนี้เมื่ออยู่นอกร่างกายคนจะชีวิตอยู่ได้ประมาณ 2-7 วัน ขึ้นกับอุณภูมิและความชื้นของสถานที่นั้นๆ
โดยทั่วไป ไวรัสอาร์เอสวีตายได้ง่ายในสภาวะที่แห้ง สภาวะที่มีอุณหภูมิสูง โดยสามารถฆ่าไวรัสนี้ได้จากความร้อนที่อุณหภูมิสูงกว่า 55 องศาเซลเซียส นานตั้งแต่ 5 นาทีขึ้นไป หรือจากน้ำยาฆ่าเชื้อได้หลายชนิด เช่น สบู่ ผงซักฟอก น้ำยาฆ่าเชื้อชนิดต่างๆ เช่น Formalin, Sodium hypochlorite, 1% Iodine และในสภาวะที่มีความเป็นกรด
การติดเชื้อนี้เกิดจากการคลุกคลีใกล้ชิดสัมผัสกับเชื้อ (ที่อยู่ในสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจผู้ป่วย) โดยส่วนใหญ่เกิดจากมือที่สัมผัสกับสารคัดหลั่งเหล่านั้น ได้แก่ น้ำมูก น้ำลาย เสมหะ ของผู้ป่วย หรือที่ติดอยู่ตามตัวผู้ป่วย ตามสิ่งของ/เครื่องใช้ต่างๆ เช่น เสื้อผ้า โต๊ะ เก้าอี้ ราวบันได ของเล่น โทรศัพท์ แก้วน้ำ ช้อน ชาม เป็นต้น นอกจากนั้น ยังเกิดจากได้รับเชื้อจากการไอจามของผู้ป่วยจากเชื้อที่อยู่ในละอองฝอยของสารสารคัดหลั่งที่ปนมาในการไอจาม
โรคอาร์เอสวีจะเริ่มมีอาการหลังร่างกายได้รับเชื้อ (ระยะฝักตัวของโรค) ในช่วงประมาณ 2-8 วัน โรคนี้จะไม่รุนแรงและอาการจะคล้ายโรคหวัด โดยเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน ซึ่งโรคจะหายได้เองจากการดูแลตนเองตามอาการภายในระยะเวลาเช่นเดียวกับโรคหวัด คือ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ แต่ในกลุ่มที่อาการรุนแรง โรคจะลุกลามเป็นการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจตอนล่าง คือในหลอดลมขนาดเล็กในปอดที่เรียกว่า “หลอดลมฝอย” เกิดเป็นการอักเสบในหลอดลมฝอย (Bronchiolitis) และลุกลามรุนแรงเป็นปอดอักเสบ/ปอดบวมได้
อาการของโรคอาร์เอสวีที่เป็นการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจส่วนบนและที่อาการไม่รุนแรง ได้แก่ มีไข้ต่ำๆ คัดจมูก มีน้ำมูกใส ไอบ้างโดยเป็นไอแห้งๆ/ไอไม่มีเสมหะ น้ำตาไหล แต่ในคน/เด็กที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ อาการจะค่อยๆ รุนแรงมากขึ้นๆ ไอมากขึ้น เสียงแหบจากกล่องเสียงอักเสบ/บวม ไข้สูงขึ้น อ่อนเพลียมาก กินได้น้อย ดื่มน้ำได้น้อย เสมหะมากขึ้น หายใจเร็วขึ้น หายใจเสียงหวีด หอบเหนื่อย ซึ่งถ้าไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที อาจหยุดหายใจ และอาจตายได้จากภาวะหายใจล้มเหลวโดยเฉพาะในทารกที่คลอดก่อนกำหนดที่อายุครรภ์น้อยกว่า 35 สัปดาห์
ผลข้างเคียง/ภาวะแทรกซ้อนที่พบได้ในโรคอาร์เอสวี นอกจากการเกิดหลอดลมฝอยอักเสบ และ ปอดบวมแล้ว ที่พบได้ คือ
- กล่องเสียงอักเสบ กล่องเสียงบวมที่ส่งผลให้หายใจลำบาก/หอบเหนื่อย และ เสียงแหบ
- หูชั้นกลางอักเสบ/ หูชั้นกลางติดเชื้อ
วิธีป้องกันโรคนี้ได้ดีที่สุด คือ ไม่คลุกคลีกับผู้ป่วย รู้จักใช้หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ล้างมือทุกครั้งก่อนการบริโภค ร่วมกับการแยกของใช้ต่างๆ โดยเฉพาะ แก้วน้ำ ช้อน เสื้อผ้า โทรศัพท์ ราวบันได โต๊ะ ของใช้/เครื่องใช้ร่วมกัน