คำถามเกี่ยวกับโรค
โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
เรื่อง : หอบหืด
- กรรมพันธุ์และสิ่งแวดล้อม เช่น ถ้าพ่อแม่เป็นโรคหืด ลูกจะมีโอกาสเป็นโรคหืดเพิ่มขึ้น
- สารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น ขนสุนัข ขนแมว เป็นต้น
- จากการศึกษาพบว่าบ้านที่พ่อและ/หรือแม่สูบบุหรี่ ลูกมีโอกาสเป็นโรคหืดมากกว่าบ้านที่พ่อแม่ไม่สูบบุหรี่
- อาการไอซึ่งมักจะไอแห้งๆ หรืออาจมีเสมหะเล็กน้อย สีขาวใส
- อาการหอบ
- หายใจเสียงหวีด
โดยตัวที่กระตุ้นให้ผู้ป่วยโรคหืดเกิดอาการหอบหืด/หอบเหนื่อย ได้แก่
- สารก่อภูมิแพ้ เช่น ขนสุนัข ขนแมว ไรฝุ่น และละอองเกสรดอกไม้
- การสัมผัสความร้อนเย็น เช่น การรับประทานไอศกรีมหรือเข้าห้องแอร์
- การออกกำลังกาย
- การหัวเราะมากๆ
- มีอารมณ์เปลี่ยนแปลง เช่น เครียด
- การเป็นโรคหวัดหรือโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน (จมูก ไซนัส ลำคอ ท่อลม)
- การกินยาบางตัว เช่น ยากลุ่มแอสไพริน ยาต้านการอักเสบ/ ยาแก้อักเสบในกลุ่มเอ็นเสด และยาลดความดันในกลุ่มบีตาบลอกเกอร์ (Beta-blocker เช่น ยาโปรปาโนโลล (Propanolol) เป็นต้น
โรคหืดอาจแบ่งตามความรุนแรงของโรคเป็น 4 ระดับ
ความรุนแรงของโรคหืด |
อาการหอบกลางวัน |
อาการหอบกลางคืน |
พีอีเอฟ อาร์ |
ความผันผวนของพีอีเอฟอาร์ |
1. Intermittent (ระดับเป็นๆหายๆ) |
มีอาการนานนานครั้ง ช่วงที่มีอาการจะมีอาการ<1> |
( <2> |
(>80%) |
(<20> |
2. Mild persistent (ระดับรุนแรงน้อย) |
มีอาการ>1 ครั้ง/สัปดาห์ |
( >2/เดือน) |
(>80%) |
( 20-30%) |
3. Moderate persistent(ระดับรุนแรงปานกลาง) |
มีอาการเกือบทุกวัน |
(>1/สัปดาห์) |
(60-80%) |
(>30%) |
4. Severe persistent(ระดับรุนแรงมาก) |
มีอาการตลอดเวลา |
บ่อยๆ |
(<60> |
(>30%) |
*PEFR (Peak expiratory flow rate) เป็นการทดสอบสมรรถภาพของปอดด้วยเครื่องมือวัดความเร็วลมที่เป่าออกมาจากปอดอย่างเร็ว โดยค่าที่วัดได้มีหน่วยเป็น L/min. จะบอกให้ทราบถึงสภาวะหลอดลม ณ ขณะนั้นว่าเป็นอย่างไร
โรคหืดสามารถรักษาจนผู้ป่วยมีชีวิตเช่นคนปกติได้ไม่ยาก โดยการให้ยารักษาซึ่งได้แก่ยาพ่นเสตียรอยด์ ซึ่งเมื่อมีการใช้ยาพ่นเสตียรอยด์เป็นเวลานานๆ เช่น 1-3 ปี จะทำให้การอักเสบของหลอดลมลดลงมาก ทำให้หลอดลมไม่ไวต่อสิ่งกระตุ้น ผู้ป่วยก็จะไม่มีอาการหรือที่เรียกว่าโรคหืดอยู่ในระยะสงบ ทั้งนี้ในระยะนี้ผู้ป่วยสามารถหยุดยาได้ ซึ่งผู้ป่วยจะไม่มีอาการหอบและผู้ป่วยไม่ต้องใช้ยา ดังนั้นผู้ป่วยจะพูดว่าหายจากโรคหืดแล้ว แต่แพทย์จะไม่เรียกว่าโรคหืดหาย แพทย์จะเรียกว่าโรคหืดอยู่ในภาวะสงบ ซึ่งอาจจะสงบไปนานขึ้นกับการดูแลตนเองของผู้ป่วยและการพบแพทย์สม่ำเสมอตามนัด