คำถามเกี่ยวกับโรค
โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
เรื่อง : ลิ้นหัวใจ
โรคลิ้นหัวใจเกิดจากลิ้นหัวใจ (Heart valve) ทำงานผิดปกติ จึงส่งผลให้เกิดความผิดปกติในการไหลเวียนโลหิต เกิดปัญหาต่อการทำงานของหัวใจ ซึ่งในรายที่รุนแรงจะส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว (หัวใจวาย) และเสียชีวิตได้
ลิ้นหัวใจ จะมีหน้าที่ควบคุมไม่ให้เลือดในหัวใจไหลย้อนกลับผิดทางเมื่อมีการบีบตัวของหัวใจ ซึ่งถ้าลิ้นหัวใจชำรุดเสียหาย หรือมีโรคของลิ้นหัวใจ ลิ้นหัวใจจะไม่สามารถควบคุมวงจรการไหลเวียนโลหิตให้เป็นปกติได้ จึงส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจต้องทำงานเพิ่มมากขึ้น เกิดภาวะหัวใจโต ภาวะเลือดคั่งในหัวใจ เลือดคั่งในปอด และเมื่อเป็นมาก จะส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว และเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้
โรคลิ้นหัวใจทั่วไปพบได้ 4 แบบ คือ โรคลิ้นหัวใจเสื่อมแบบทำให้เลือดวนไหลสวนกลับ (Regurgitation) โรคลิ้นหัวใจปลิ้น(Mitral valve prolapse ย่อว่า MVP) โรคลิ้นหัวใจตีบ (Stenosis) และโรคลิ้นหัวใจฝ่อไม่เจริญเติบโต (Atresia) โดยมีปัจจัยเสี่ยง/สาเหตุที่พบได้บ่อย คือ
- อายุ เพราะเมื่อสูงอายุ เนื้อเยื่อต่างๆ ทุกชนิดของร่างกายจะเสื่อมตามวัย ซึ่งรวมถึงเนื้อเยื่อของลิ้นหัวใจ จึงส่งผลให้ลดประสิทธิภาพในการทำงานลง ส่งผลให้ลิ้นหัวใจปิดไม่สนิทในช่วงหัวใจบีบตัว
- การติดเชื้อต่างๆ ที่ลุกลามถึงการติดเชื้อของลิ้นหัวใจและ/หรือเยื่อบุหัวใจ ซึ่งการติดเชื้อจะก่อให้เกิดการอักเสบ และพังผืดเกิดขึ้นกับลิ้นหัวใจ จึงก่อให้เกิดได้ทั้งโรคลิ้นหัวใจแบบเลือดไหลสวนกลับ และโรคลิ้นหัวใจแบบลิ้นหัวใจตีบ การติดเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคลิ้นหัวใจได้บ่อย คือ โรคไข้รูมาติค
- โรคหัวใจจากสาเหตุอื่นๆ เช่น ภาวะหัวใจล้มเหลว และโรคหลอดเลือดหัวใจ
- โรคหลอดเลือดแดงแข็ง
- โรคความดันโลหิตสูง เพราะเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว
- โรคออโตอิมูน/โรคภูมิต้านตนเอง เพราะเป็นโรคที่ก่อการอักเสบให้เกิดขึ้นกับเนื้อเยื่อทุกชนิดในร่างกาย รวมทั้งเนื้อเยื่อหัวใจและลิ้นหัวใจ
- ผลข้างเคียงจากยาลดน้ำหนัก/ยาไม่ให้อยากอาหารบางชนิด
- โรคต่างๆ หรือสิ่งต่างๆ ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ เช่น การสูบบุหรี่ โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง และโรคอ้วน
- ความพิการแต่กำเนิดของตัวลิ้นหัวใจเอง เช่น ลิ้นหัวใจฝ่อไม่เจริญเติบโต
อาการเฉพาะของโรคลิ้นหัวใจ คือ การมีเสียงเต้นของหัวใจผิดปกติที่เรียกว่า เสียงฟู่ (Murmur) ซึ่งเกิดจากการที่เลือดไหลผ่านลิ้นหัวใจที่ผิดปกติ จึงทำให้เกิดเสียงขึ้นนั่นเอง ส่วนอาการที่พบได้บ่อย คือ
- เหนื่อยง่าย
- หายใจลำบาก โดยเฉพาะเมื่อมีการออกแรง
- อาจมีอาการเจ็บหน้าอกได้ โดยเฉพาะเมื่อออกแรง
- บวมตามตัว โดยเฉพาะขาและเท้า
- หลอดเลือดที่ลำคอสองข้างโป่งพอง
- เมื่อมีอาการมากขึ้น จะมีอาการเขียวคล้ำ คือ มือ เท้า ริมฝากเขียวคล้ำ
- อาจมีหัวใจเต้นผิดปกติ ใจสั่น มึนงง วิงเวียน เป็นลมได้ง่าย
- เมื่อเป็นมากจะมีอาการของภาวะหัวใจล้มเหลว และมักจะนอนราบไม่ได้ นอนราบแล้วจะเหนื่อยมาก หายใจลำบาก ต้องนอนเอนตัวเสมอ