ไฮโดรมอร์โฟน (Hydromorphone)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 24 กุมภาพันธ์ 2560
- Tweet
- บทนำ
- ไฮโดรมอร์โฟนมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
- ไฮโดรมอร์โฟนมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- ไฮโดรมอร์โฟนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- ไฮโดรมอร์โฟนมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- ไฮโดรมอร์โฟนมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้ไฮโดรมอร์โฟนอย่างไร?
- ไฮโดรมอร์โฟนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาไฮโดรมอร์โฟนอย่างไร?
- ไฮโดรมอร์โฟนมีชื่ออื่นอีกไหม?ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- กลุ่มยาแก้ปวดและยาพาราเซตามอล (Analgesics and Paracetamol)
- มอร์ฟีน (Morphine)
- มะเร็ง (Cancer)
- ยาทรามาดอล (Tramadol)
- ยานอนหลับ (Sleeping pill)
- ยารักษาทางจิตเวช ยาจิตเวช (Psychotropics drugs)
บทนำ
ยาไฮโดรมอร์โฟน(Hydromorphone หรือ Hydromorphone hydrochloride) หรืออีกชื่อคือ ไดไฮโดรมอร์ฟิโนน (Dihydromorphinone) เป็นอนุพันธ์ประเภท แอลคาลอยด์(Alkaloid)กึ่งสังเคราะห์ของยามอร์ฟีน (Morphine) ยาไฮโดรมอร์โฟนเป็นยาที่ออกฤทธิ์ที่สมองเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดตั้งแต่ระดับความรุนแรงปานกลางไปจนถึงอาการปวดขั้นรุนแรง ตามกฎหมายไทยจัดให้ยาไฮโดรมอร์โฟนเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 จะมีใช้แต่ในสถานพยาบาลเท่านั้น ไม่มีจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไป
รูปแบบของยาแผนปัจจุบันของยาไฮโดรมอร์โฟนมีทั้งยาประเภทรับประทาน ยาฉีด ยาพ่นจมูก ยาเหน็บทวารหนัก ยาอมใต้ลิ้น พลาสเตอร์ปิดผิวหนัง โดยหลังการดูดซึมยาเข้ากระแสโลหิต ยาจะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 15–30 นาที และมีระยะเวลาออกฤทธิ์นาน ประมาณ 4–5 ชั่วโมง ขณะที่ตัวยาอยู่ในร่างกาย ตับจะคอยทำลายยานี้อย่างต่อเนื่อง ร่างกายจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงเพื่อกำจัดยานี้ออกจากกระแสเลือด โดยผ่านทิ้งไปกับปัสสาวะ
ด้วยยาไฮโดรมอร์โฟนมีฤทธิ์เสพติด การใช้ยานี้จึงต้องอยู่ภายใต้คำสั่งของแพทย์เท่านั้น มีผู้ป่วยบางกลุ่มที่จัด เป็นกลุ่มเสี่ยงไม่เหมาะต่อการใช้ยานี้ในการบำบัดอาการเจ็บปวด ด้วยตัวยาอาจก่อให้เกิดผลกระทบ(ผลข้างเคียง)ต่อร่างกายหรือทำให้อาการของโรคประจำตัวต่างๆกำเริบมากขึ้น ซึ่งพอจะสรุปข้อจำกัดการใช้ยาไฮโดรมอร์โฟนได้ดังนี้
- ห้ามใช้กับผู้แพ้ยานี้
- หลีกเลี่ยงการใช้ยานี้กับผู้ป่วยโรคหืดขั้นรุนแรง หรือผู้ที่มีปัญหาการทำงานของระบบทางเดินหายใจ ผู้ได้รับบาดเจ็บทางศีรษะ ผู้ที่มีภาวะปัสสาวะขัด ผู้ป่วยโรคตับ โรคไต
- ผู้ป่วยที่มีภาวะทางเดินอาหารตีบตัน/ลำไส้อุดตัน ไม่เหมาะที่จะใช้ยาชนิดนี้ ด้วยตัวยาจะทำให้การบีบตัวของกระเพาะอาหาร-ลำไส้น้อยลง และส่งผลเสียให้มีอาการมากขึ้น
- ห้ามใช้ยาไฮโดรมอร์โฟนร่วมกับยากลุ่ม MAOIs ด้วยอาจก่อให้เกิดอาการข้างเคียง(ผลข้างเคียง)จากยาทั้ง2กลุ่มที่รุนแรงตามมา ทางคลินิกแนะนำให้เว้นระยะห่างของการใช้ยาทั้ง 2 กลุ่มนี้เป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ที่มีภาวะพร่องฮอร์โมนเพศอย่าง Hypogonadism(ภาวะมีฮอร์โมนเพศต่ำ)ด้วยการใช้ยาไฮโดรมอร์โฟนเป็นเวลานาน สามารถทำให้สภาวะพร่องฮอร์โมนดังกล่าวรุนแรงขึ้น
- ยาไฮโดรมอร์โฟน อาจทำให้ความดันโลหิตของผู้ใช้ยาลดต่ำลงมากยิ่งขึ้น จึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะ/โรคความดันโลหิตต่ำ
- ผู้ที่มีประวัติติดยาเสพติด หรือติดสุรา หรือมีปัญหาทางจิตประสาท/จิตเวช ไม่เหมาะต่อการใช้ยานี้ ด้วยอาจกระตุ้นการติดยาให้กลับมาใหม่ หรืออาจก่อให้เกิดภาวะถอนยาตามมาภายหลัง เคยมีรายงานผู้ที่ใช้ยานี้พร้อมกับดื่มสุรา สามารถทำให้เสียชีวิตได้
ยาไฮโดรมอร์โฟน ยังสามารถก่อให้เกิดอาการข้างเคียงต่างๆตามมา เช่น ท้องผูก คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง วิงเวียน ง่วงนอน อาการข้างเคียงดังกล่าวอาจเกิดขึ้นหรือไม่ก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผู้ป่วยแต่ละรายต่อยานี้ที่จะแตกต่างกันออกไป
ในประเทศไทยอาจไม่พบเห็นการใช้ยาชนิดนี้ แต่ในต่างประเทศจะพบการจัดจำหน่ายภายใต้การควบคุมของรัฐในชื่อการค้าว่า Dilaudid
ไฮโดรมอร์โฟนมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
ยาไฮโดรมอร์โฟนมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้ เช่น
- ใช้บำบัดอาการปวดระดับปวดรุนแรงปานกลาง – ระดับรุนแรงมาก เช่น ปวดจากการผ่าตัด ปวดจากโรคมะเร็ง ปวดจากบาดแผลขนาดใหญ่ต่างๆรวมถึงแผลไฟไฟไหม้ขนาดใหญ่
- บำบัดและบรรเทาอาการปวดเรื้อรัง เช่น ปวดจากโรคมะเร็ง
- บำบัดอาการไอเรื้อรัง
ไฮโดรมอร์โฟนมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
ยาไฮโดรมอร์โฟนเป็นยาบรรเทาอาการปวด/ยาแก้ปวดที่มีฤทธิ์เป็นยาเสพติด มี กลไกการออกฤทธิ์สั้นกว่ายามอร์ฟีน แต่มีความแรงในการบำบัดอาการปวดมากกว่ามอร์ฟีนถึง 8 เท่า ตัวยานี้จะออกฤทธิ์ในบริเวณตัวรับ(Receptor)ในสมองที่มีชื่อว่า Opioid mu-receptors รวมถึง Kappa-receptors ส่งผลลดการนำกระแสประสาทและความรู้สึกเจ็บ/ปวดที่ถูกส่งผ่านไปตามไขสันหลัง ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถรับรู้อาการเจ็บ/ปวดตลอดเวลาที่ตัวยานี้มีการออกฤทธิ์
ไฮโดรมอร์โฟนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาไฮโดรมอร์โฟนมีรูปแบบการจัดจำหน่าย เช่น
- ยาเม็ดชนิดรับประทานที่ประกอบด้วย Hydromorphone HCl/hydrochloride ขนาด 2, 4,และ 8 มิลลิกรัม/เม็ด
- ยาฉีดที่ประกอบด้วย Hydromorphone HCl ขนาด 1,2, และ 4 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร
- ยาเหน็บทวารหนักที่มีส่วนประกอบ Hydromorphone ขนาด 3 มิลลิกรัม/แท่ง
ไฮโดรมอร์โฟนมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
ยาไฮโดรมอร์โฟนมีขนาดการบริหารยา/ใช้ยา เช่น
ก.สำหรับบรรเทาอาการปวด:
- ผู้ใหญ่: รับประทานยาครั้งละ 2–4 มิลลิกรัม ทุกๆ 4–6 ชั่วโมง หากจำเป็น แพทย์อาจปรับขนาดรับประทานเป็น 2–8 มิลลิกรัม ทุก 3–4 ชั่วโมง หรือใช้ยาเหน็บทวารหนักขนาดความแรง 3 มิลลิกรัม เหน็บทวารหนักทุกๆ 6–8 ชั่วโมง หรือใช้ยาฉีดขนาด 1–2 มิลลิกรัม ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ หรือใต้ผิวหนังทุกๆ 4–6 ชั่วโมง
- เด็ก: ยังไม่มีข้อมูลทางคลินิกที่แน่ชัดถึง ขนาดยานี้ ผลข้างเคียง และความปลอดภัยในการใช้ยานี้ในเด็ก การใช้ยานี้ในเด็กจึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีๆไป
ข.สำหรับบรรเทาอาการไอ:
- ผู้ใหญ่และผู้มีอายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไป: รับประทานยาครั้งละ 1 มิลลิกรัม ทุกๆ 3 – 4 ชั่วโมง
- เด็กอายุ 6–12 ปี: รับประทานยาครั้งละ 0.5 มิลลิกรัม ทุกๆ 3 – 4 ชั่วโมง
- เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี: ยังไม่มีข้อมูลทางคลินิกที่แน่ชัดถึง ขนาดยานี้ ผลข้างเคียง และความปลอดภัยในการใช้ยานี้ในเด็ก การใช้ยานี้ในเด็ก จึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีๆไป
อนึ่ง: การใช้ยานี้กับผู้ป่วยโรคตับ แพทย์อาจต้องปรับขนาดยาให้เหมาะสมต่อผู้ป่วยเป็นรายบุคคลไป
*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาไฮโดรมอร์โฟน ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร ดังนี้
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
- มีโรคประจำตัวต่างๆ อย่างเช่น โรคไต โรคตับ โรคความดันโลหิตสูง โรคความดันโลหิตต่ำ โรคลมชัก รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาไฮโดรมอร์โฟน อาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภท สามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
หากลืมรับประทานยาไฮโดรมอร์โฟน สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยานี้ในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
แต่อย่างไรก็ดี การลืมรับประทานยานี้บ่อยครั้ง อาจทำให้มีอาการถอนยาตามมาได้
ไฮโดรมอร์โฟนมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ไฮโดรมอร์โฟนสามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์จากยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกาย ดังนี้ เช่น
- ผลต่อระบบต่อมไร้ท่อ: เช่น เกิดภาวะHypogonadism สมรรถภาพทางเพศถดถอย
- ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น ท้องผูกหรือไม่ก็ท้องเสีย อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้ ท้องอืด ปวดท้อง อาเจียน ปากแห้ง เกิดภาวะลำไส้อุดตัน เกิดริดสีดวงทวาร
- ผลต่อระบบประสาท: เช่น ง่วงนอน วิงเวียน ปวดศีรษะ สูญเสียความจำความรู้สึกสัมผัสเพี้ยน เกิดภาวะหย่อนการรับรู้ร้อน/เย็น ตัวสั่น หนังตากระตุก ความดันในกะโหลกศีรษะสูงเพิ่มขึ้น เกิดอาการชัก
- ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด: เช่น กดการไหลเวียนของโลหิต ความดันโลหิตสูงหรือไม่ก็ต่ำ มือ-เท้าบวม หัวใจเต้นเร็วหรือไม่ก็ช้า หัวใจหยุดเต้น ภาวะช็อก
- ผลต่อตับ: เช่น เอนไซม์การทำงานของตับในเลือดสูงขึ้น เกิดภาวะหด/เกร็งตัวของท่อน้ำดี/ปวดท้องด้านขวาตอนบน
- ผลต่อผิวหนัง: เช่น มีเหงื่อออกมาก เกิดผื่นคัน ลมพิษ
- ผลต่อระบบทางเดินปัสสาวะ: ปัสสาวะลำบาก/ปัสสาวะขัด
- ผลต่อระบบเผาผลาญพลังงานของร่างกาย: เช่น เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลด ภาวะขาดน้ำ เกลือยูริคในปัสสาวะเพิ่มขึ้น
- ผลต่อกล้ามเนื้อ: เช่น ปวดข้อ ปวดหลัง กล้ามเนื้อหดเกร็งตัว/เป็นตะคริว
- ผลต่อตา: เช่น ตาพร่า รูม่านตาเล็กลง
- ผลต่อสภาพจิตใจ: เช่น วิตกกังวล นอนไม่หลับ ซึมเศร้า หงุดหงิด ฝันร้าย อารมณ์แปรปรวน ประสาทหลอน
- ผลต่อระบบทางเดินหายใจ: เช่น หายใจลำบาก/หลอดลมหดเกร็งตัว กล่องเสียงหดเกร็งตัว/หายใจลำบาก กดการหายใจ น้ำมูกมาก
มีข้อควรระวังการใช้ไฮโดรมอร์โฟนอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาไฮโดรมอร์โฟน เช่น
- ห้ามใช้กับผู้แพ้ยานี้
- ห้ามใช้ยานี้กับสตรีมีครรภ์/ตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร เด็ก และผู้สูงอายุ โดยไม่มีคำสั่งจากแพทย์
- ห้ามปรับขนาดรับประทานด้วยตนเอง
- ห้ามใช้ยาที่มีสภาพเปลี่ยนไปจากเดิม เช่น เม็ดยาแตกหัก หรือสียาเปลี่ยนไป
- ห้ามรับประทานยานี้พร้อมกับสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ
- ห้ามใช้ยานี้ร่วมกับยากลุ่ม MAOIs
- ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วย โรคตับ โรคไต ผู้ที่บาดเจ็บทางศีรษะ ผู้มีภาวะปัสสาวะขัด ผู้ที่มีปัญหาการทำงานของระบบทางเดินหายใจ
- รับประทานยานี้ตรงตามขนาดและเวลาในแต่ละวันตามแพทย์สั่ง
- มาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลตามนัดทุกครั้ง เพื่อรับการตรวจร่างกายและดูความก้าวหน้าของการรักษาจากแพทย์
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาไฮโดรมอร์โฟนด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิด อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และสมุนไพร ต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้ง ควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ
ไฮโดรมอร์โฟนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาไฮโดรมอร์โฟนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาไฮโดรมอร์โฟนร่วมกับยากลุ่ม TCAs ยาบำบัดอาการทางจิต/ยารักษาทางจิตเวช และยานอนหลับ ด้วยจะทำให้เกิดภาวะสงบประสาท/กดการทำงานของระบบประสาทมากยิ่งขึ้น
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาไฮโดรมอร์โฟนร่วมกับยา Ciprofloxacin ด้วยจะทำให้ระดับยาCiprofloxacin ในเลือดน้อยลงจนส่งผลทำให้ประสิทธิภาพการรักษาของยา Ciprofloxacin ด้อยลงไป
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาไฮโดรมอร์โฟนร่วมกับยา Propoxyphene ด้วยจะก่อให้เกิดอาการข้างเคียง อย่างเช่น วิงเวียน ง่วงนอน รู้สึกสับสน ขาดสมาธิ ได้มากยิ่งขึ้น
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาไฮโดรมอร์โฟนร่วมกับยา Tramadol ด้วยจะเพิ่มความเสี่ยงการเกิดอาการลมชักตามมา หากจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดการใช้ยาให้เหมาะสมเป็นกรณีไป
ควรเก็บรักษาไฮโดรมอร์โฟนอย่างไร?
ควรเก็บยาไฮโดรมอร์โฟน ภายใต้เงื่อนไขที่ระบุในเอกสารกำกับยา ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์ เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสงแดด ความร้อนและความชื้น
ไฮโดรมอร์โฟนมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาไฮโดรมอร์โฟน โดยทั่วไป มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Dilaudid (ไดลอดิด) | Hospira |
อนึ่ง ยาชื่อการค้าอื่นๆของยานี้ในต่างประเทศ เช่น Exalgo, Hydrostat, Palladone, Vicoprofen