ไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (Dihydrotestosterone)

สารบัญ บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ

ยาไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน(Dihydrotestosterone ย่อว่า DHT/ดีเอชที) หรืออาจเรียกในชื่ออื่นๆว่า 5 alpha-dihydrotestosterone (ย่อว่า 5 alpha DHT), Androstanolone, Stanolone, Testosterone proprionate, Dihydrotestosterone propionate จัดว่าเป็นสเตียรอยด์ฮอร์โมน(Steroid hormone)เพศชายที่สามารถสังเคราะห์ได้เองในร่างกาย อวัยวะที่มีกระบวนการสังเคราะห์ฮอร์โมนชนิดนี้ได้แก่ ต่อมลูกหมาก องคชาติ ผิวหนัง รูขุมขนที่ผิวหนัง ตับ และสมอง หน้าที่ของ DHT จะช่วยให้ร่างกายของเด็กชายมีพัฒนาการเจริญเติบโตเต็มวัย ไม่ว่าจะเป็นลักษณะทางเพศ ใบหน้า รูปร่าง ขนตามตำแหน่งต่างๆ และยังส่งผลทำให้ต่อมไขมันตาม ใบหน้า ศีรษะ และผิวหนัง ทำงานมากขึ้น ตลอดจนกระทั่งช่วยให้ต่อมลูกหมาก และถุงพักน้ำอสุจิ/ถุงสร้างสารบำรุงตัวอสุจิ) เจริญเติบโตและทำงานได้เต็มที่ นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าการสังเคราะห์ DHT ต้องใช้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน(Testosterone)เป็นสารตั้งต้น โดยมีเอนไซม์ 5alpha-reductase เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา ด้วยเหตุผลนี้เราจึงสามารถพบทั้ง DHT และ Testosterone อยู่ในบริเวณเนื้อเยื่อเดียวกัน โดยฮอร์โมนเพศชายทั้งสองตัวจะมีหน้าที่ทำงานที่ประสานงานกันได้เป็นอย่างดี อาจเปรียบเทียบฤทธิ์และการทำงานของ DHT และ Testosterone/ อิทธิพลของ DHT และ Testosterone ต่อการเจริญของร่างกายเพศชาย ได้ดังนี้

ทางคลินิกได้ใช้ DHT ในฐานะยาอนาบอลิก-แอนโดรจีนิกสเตียรอยด์ (Anabolic androgenic steroid) มาบำบัดอาการของผู้ชายที่มีพัฒนาการของอวัยวะเพศที่ช้าเกินไปจากผู้ป่วยกลุ่มนี้จะมีระดับ Testosterone ต่ำ การสร้างสมดุลใหม่ให้ร่างกาย โดยใช้ DHTจะมีบทบาททำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาลักษณะความเป็นชายได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ การใช้ DHT ควรต้องอยู่ภายใต้คำสั่งของแพทย์เท่านั้น การสรรหา DHT มาใช้เองอาจทำให้ร่างกายได้รับปริมาณ DHT ที่ไม่เหมาะสม การได้รับ DHT มากเกินไปจะส่งผลให้เกิด ภาวะศีรษะล้าน อารมณ์แปรปรวน น้ำหนักตัวเพิ่ม และมีสิวเกิดขึ้นตามร่างกาย สำหรับรูปแบบเภสัชภัณฑ์ที่มีจำหน่ายของยา DHT จะเป็นยาเจลทาผิวหนัง ยาอมใต้ลิ้น ยาฉีด และการใช้ยาประเภทนี้ มักพบเห็นแต่ในต่างประเทศเท่านั้น

ไดไฮโดรเทสโทสเตอโรนมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?

ไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน

ยาไดไฮโดรเทสโทสเตอโรนมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้ เช่น

  • บำบัดอาการองคชาติไม่เจริญเติบโต
  • อาจใช้เป็นยากระตุ้นการเจริญของเส้นผมที่หลุดร่วง(ภาวะผมร่วงสาเหตุจากฮอร์โมนเพศไม่สมดุลย์)

ไดไฮโดรเทสโทสเตอโรนมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

ยาไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน มีกลไกการออกฤทธิ์โดย ตัวยาจะเข้าจับกับตัวรับในบริเวณผิวหนัง จากนั้นยาไดไฮโดรเทสโทสเตอโรนจะกระตุ้นให้มีการเจริญหรือการพัฒนาของเนื้อเยื่อที่ได้รับยานี้ให้เจริญเติบโตเต็มที่ เช่น องคชาติ เส้นขน ทั้งนี้ ตัวยาที่แทรกซึมเข้าทางผิวหนังในตำแหน่งที่ใกล้กับต่อมลูกหมากสามารถมีอิทธิพลทำให้ต่อมลูกหมากขยายตัวและเสี่ยงต่อการเป็นเนื้องอกต่อมลูกหมากหรือมะเร็งต่อมลูกหมากได้เช่นกัน

ในต่างประเทศมักโฆษณาขายผลิตภัณฑ์ฮอร์โมนDHT โดยระบุว่าไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค/ผู้ป่วย ก่อนจะเลือกใช้ยาประเภทฮอร์โมนใดๆที่รวมถึง DHT ควรขอคำแนะนำหรือได้รับการตรวจร่างกายจากแพทย์ก่อนเสมอ

ไดไฮโดรเทสโทสเตอโรนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

ยาไดไฮโดรเทสโทสเตอโรนมีรูปแบบการจัดจำหน่าย เช่น

  • ยาเจลชนิดปิดผิวหนัง ที่ประกอบด้วย Dihydrotestostone เข้มข้น 2.5%
  • ยาฉีด
  • ยาอมใต้ลิ้น(Buccal tablet)

ไดไฮโดรเทสโทสเตอโรนมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?

บทความนี้ ขอยกตัวอย่างขนาดการบริหารยาไดไฮโดรเทสโทสเตอโรนเฉพาะชนิดยาเจลปิดผิวหนังเท่านั้น ดังนี้ เช่น

  • ผู้ใหญ่: ใช้เจลปิดผิวหนังตรงเป้าหมาย และทิ้งไว้ 24 ชั่วโมงจึงแกะออก ความถี่และระยะเวลาการใช้ยานี้ให้เป็นไปตามคำสั่งแพทย์
  • เด็ก: ยังไม่มีข้อมูลทางคลินิกที่แน่ชัดถึง ขนาดยานี้ ผลข้างเคียง และความปลอดภัยในการใช้ยานี้ในเด็ก การใช้ยานี้ในเด็ก จึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีๆไป

อนึ่ง:

  • สวมถุงมือยางทางการแพทย์ทุกครั้งก่อนหยิบจับยาฮอร์โมนทุกชนิดรวมยาDHTมาใช้
  • ห้ามใช้ยาDHTในบริเวณผิวหนังที่เป็นรอยแผลเปิด

*****หมายเหตุ: ขนาดและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสม ควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยา DHT ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร ดังนี้

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจขัด/หายใจลำบาก
  • มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ช้าอะไรอยู่ เพราะยาไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน/DHT อาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กินอยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

หากลืมใช้ยาควรทำอย่างไร?

หากลืมใช้ยาDHT สามารถใช้ยาได้ทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการใช้ยาในครั้งถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2เท่า ให้ใช้ยาที่ขนาดปกติ

ไดไฮโดรเทสโทสเตอโรนมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

ยาไดไฮโดรเทสโทสเตอโรนสามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์จากยา(ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกายดังนี้ เช่น

  • ผลต่อสภาพจิตใจ: เช่น เกิดอารมณ์แปรปรวน
  • ผลต่อระบบประสาท: เช่น รู้สึกมีพละกำลังมากขึ้น
  • ผลต่อระบบการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย: เช่น น้ำหนักตัวเพิ่ม
  • ผลต่อผิวหนัง: เช่น ผมยาวเร็วผิดปกติ มีภาวะผิวมัน เกิดสิว
  • ผลต่อกล่องเสียง: เช่น เสียงแหบ

มีข้อควรระวังการใช้ไดไฮโดรเทสโทสเตอโรนอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้ยาไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน เช่น

  • ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยาชนิดนี้/ยานี้
  • ห้ามปรับขนาดการใช้ยาด้วยตนเอง
  • ห้ามใช้หรือรับประทานยาอื่นใดร่วมกับยาไดไฮโดรเทสโทสเตอโรนโดยไม่มีคำสั่งจากแพทย์ทั้งนี้เพื่อป้องกันภาวะยาตีกัน(ปฏิกิริยาระหว่างยา)
  • ต้องมารับการตรวจร่างกาย โดยเฉพาะที่รวมถึงการตรวจเลือดดูการทำงานของตับ ดูความผิดปกติของเม็ดเลือด ตามที่แพทย์นัดหมายทุกครั้ง
  • กรณีพบอาการแพ้ยา เช่น มีผื่นคัน ผิวหนังบวมแดง ผิวหนังลอก แน่นหน้าอก หายใจขัด ใบหน้า-ปาก-คอมีอาการบวม ซึ่งเป็นอาการแพ้ยานี้ ต้องหยุดใช้ยานี้ทันที แล้วรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที/ฉุกเฉิน
  • ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • ห้ามเก็บยาหมดอายุ

***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด(รวมไดไฮโดรเทสโทสเตอโรนด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้ง ควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้าน ขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ

ไดไฮโดรเทสโทสเตอโรนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ยาไดไฮโดรเทสโทสเตอโรนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น

  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาไดไฮโดรเทสโทสเตอโรนร่วมกับยา Acarbose , Albiglutide (ยาเบาหวานที่ถูกยกเลิกการใช้จากมีผลข้างเคียงให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้) เพราะการใช้ยาร่วมกันจะส่งผลให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาไดไฮโดรเทสโทสเตอโรนร่วมกับ ยาBudesonide ด้วยจะทำให้เกิดอาการบวมน้ำของร่างกายตามมา
  • ห้ามใช้ยาไดไฮโดรเทสโทสเตอโรนร่วมกับ ยาCyclosporine เพราะจะทำให้เกิดภาวะตับเป็นพิษ/ตับอักเสบรุนแรง
  • ห้ามใช้ยาไดไฮโดรเทสโทสเตอโรนร่วมกับ ยาDicoumarol เพราะจะส่งผลให้ฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือดจากยาDicoumarol มีเพิ่มขึ้น จึงเสี่ยงต่อภาวะเลือดออกง่ายมากขึ้น

ควรเก็บรักษาไดไฮโดรเทสโทสเตอโรนอย่างไร?

ควรเก็บยาไดไฮโดรเทสโทสเตอโรนภายใต้อุณหภูมิห้องที่เย็น ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อนและความชื้น เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง แลไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์

ไดไฮโดรเทสโทสเตอโรนมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยาไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น

ชื่อการค้าบริษัทผู้ผลิต
Adractim (อะแดรกทิม)Besins

อนึ่ง ยาชื่อการค้าอื่นของยานี้ เช่น Anaboleen

บรรณานุกรม

  1. https://en.wikipedia.org/wiki/Dihydrotestosterone [2018,Jan13]
  2. https://www.drugbank.ca/drugs/DB02901 [2018,Jan13]
  3. https://www.medicalnewstoday.com/articles/68082.php [2018,Jan13]
  4. file:///C:/Users/apai/Downloads/Andractim%20F0390%20A4%20bw%20FINAL%20Jan16.pdf [2018,Jan13]
  5. https://www.beabiggerman.com/andractim-gel/ [2018,Jan13]
  6. https://books.google.co.th/books?id=afKLA-6wW0oC&pg=PT355&lpg=PT355&dq=Adractim+manufacturer&source=bl&ots=MfWfjOh0_K&sig=7J4KLqgnzxnHBG64EwPFm8KMNOY&hl=th&sa=X&ved=0ahUKEwjO6pqBg4rYAhWKPo8KHQkgAmoQ6AEIOjAC#v=onepage&q=Adractim%20manufacturer&f=false [2018,Jan13]