โรคภัยไข้เจ็บ ตอนที่ 29 – ดื่มแต่พอเหมาะ (3)
- โดย ดร. วิทยา มานะวาณิชเจริญ
- 16 สิงหาคม 2566
- Tweet
อันที่จริง ตับช่วยจรรโลง (Sustain) เนื้อเยื่อที่ได้รับบาดเจ็บจากการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป (Heavy drinking) เนื่องจากมันเป็นตำแหน่งหลัก (Primary site) ในการเผาไหม้ (Metabolism) ของเอทานอล (Ethanol) นอกจากนี้ แอลกอฮอล์ก็เป็นสาเหตุของการบาดเจ็บและผลข้างเคียงเกินกว่า (Beyond) ตับ
การบาดเจ็บและโรคที่ตามมา (Resultant) เกิดขึ้นเนื่องจากการบริโภคแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเกินไป มีจำนวนถึง 25 โรคที่เกิดจาก (Attributable) แอลกอฮอล์โดยตรงและกว่า 200 โรคที่มีสาเหตุจากแอลกอฮอล์โดยอ้อม
แม้จะไม่ใช่รายชื่อทั้งหมด (Exhaustive list) แอลกอฮอล์ก็เป็นสาเหตุโดยตรงของความบกพร่องทางพฤติกรรม (Behavioral disorder), สมองฝ่อ (Atrophy), ประสาทเสียหาย (Neuropathy), กล้ามเนื้อเสียหาย (Myopathy), หัวใจอ่อนเพลีย (Cardio-myopathy), กระเพาะอักเสบ (Gastritis), ตับอ่อนอักเสบ (Pancreatitis), และความผิดปรกติของทารกแรกเกิด (Congenital abnormality)
แอลกอฮอล์เพิ่มความเสี่ยง (Risk) ของความผิดปรกติทางจิตใจ (Mental disorder) เช่น ภาวะซึมเศร้า (Depression), อาการทางประสาท เช่น โรคลมชัก (Epilepsy) และภาวะสมองเสื่อม (Dementia), โรคหลอดเลือดหัวใจ (Cardio-vascular disease) เช่น ความดันโลหิตที่สูงขึ้น (Elevated) และโรคมะเร็งจำนวนมาก อันได้แก่มะเร็งที่ปาก, หลอดอาหาร (Esophagus), กระเพาะ, ตับ, ลำไส้ใหญ่ (Colon), ลำไส้ตรง (Rectum), ทรวงอก (Breast), และต่อมลูกหมาก (Prostate)
การตัดสินใจผิดพลาดขณะดื่มแอลกอฮอล์ อาจนำไปสู่การบาดเจ็บและตายอย่างมิได้ตั้งใจ (Unintentional) เช่นอุบัติเหตุรถชนกัน (Car crash), หกล้ม (Fall), และจมน้ำ (Drown) ตามมาด้วยการฆ่าตัวตาย (Suicide) และการฆ่าผู้อื่น (Homicide)
มีประมาณการณ์ในสหรัฐอเมริกาว่า 30% ของการตายที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจราจร (Non-traffic) และ 40% ของการตายที่เกี่ยวข้องกับจราจร เป็นการตายที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ ประมาณ 22% ของเหยื่อ (Victim) ฆ่าตัวตาย มึนเมาไม่มากตามกฎหมาย (Legally intoxicated) ขณะถึงความตาย
นอกจากนี้ 40% ของฆาตกร (Murderer) ที่เมาตุปัดตุเป๋ ดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนหรือระหว่างก่ออาชญากรรม และ 40% ของเหยื่อที่ถูกฆาตกรรม ก็มีระดับแอลกอฮอล์เป็นบวก (Positive) ดังนั้นการบริโภคแอลกอฮอล์ที่มากเกินไป (Excessive) ไม่ว่าจะเฉียบพลัน (Acute) หรือเรื้อรัง (Chronic) ล้วนเป็นอันตราย (Detrimental) ต่อบุคคลและสังคม
ความตายที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ในสหรัฐอเมริกา ได้เพิ่มขึ้นในทศวรรษที่ผ่านมากถึงปีละ 95,000 ราย ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในสาเหตุหลัก (Leading cause) ของการตายที่ป้องกันได้ (Preventable) จากประสบการณ์ของผู้ประพันธ์หนังสือ ซึ่งเป็นนักประสาทวิทยา (Neurologist) ที่ให้การรักษา (Treatment) ผู้เสพติดสุราเรื้อรัง (Alcoholic) ในหน่วยดูแลวิกฤต (Intensive care unit: ICU) โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคตับแข็ง (Cirrhosis) และโรคดีซ่าน (Jaundice) ที่ต้องอาศัยเครื่องช่วยหายใจ (Ventilator)
แหล่งข้อมูล -
