โรคช่องปาก หรือ โรคของช่องปาก (Oral disease)
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
- 9 มกราคม 2563
- Tweet
- บทนำ: คือโรคอะไร? พบบ่อยไหม?
- ช่องปากเป็นโรคอะไรได้บ้าง?มีสาเหตุจากอะไร?
- อะไรเป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดโรคของช่องปาก?
- โรคของช่องปากมีอาการอย่างไร?
- ควรพบแพทย์เมื่อไร?
- แพทย์วินิจฉัยโรคของช่องปากได้อย่างไร?
- มีแนวทางรักษาโรคของช่องปากอย่างไร?
- โรคของช่องปากรุนแรงไหม?
- ดูแลตนเองอย่างไร? พบแพทย์ก่อนนัดเมื่อไหร่?
- มีการตรวจคัดกรองโรคของช่องปากไหม?
- ป้องกันโรคของช่องปากได้อย่างไร?
- บรรณานุกรม
- ปากแหว่งเพดานโหว่ (Cleft lip and cleft palate)
- มะเร็งช่องปาก (Oral cancer)
- เชื้อราช่องปาก (Oral thrush หรือ Oropharyngeal candidiasis)
- ฟันผุ
- เหงือกอักเสบ (Gingivitis)
- ลิ้นอักเสบ (Glossitis)
- แผลร้อนใน (Aphthous ulcer)
- กลิ่นปาก (Bad breath)
- ฝ้าขาว (Leukoplakia) ฝ้าแดง (Erythroplakia)
- เอชพีวี โรคติดเชื้อเอชพีวี (HPV infection)
- โรคปริทันต์ หรือ โรครำมะนาด (Periodontal Disease)
บทนำ: คือโรคอะไร? พบบ่อยไหม?
โรคช่องปาก หรือ โรคของช่องปาก(Oral disease)คือ โรค/ภาวะผิดปกติที่เกิดกับเนื้อเยื่อ/อวัยวะต่างๆของช่องปากจนส่งผลให้อวัยวะต่างๆในช่องปากทำงานที่ผิดปกติ และ/หรือมีอาการผิดปกติต่างๆจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพช่องปากและร่างกาย เช่น แผลในช่องปาก(เช่น แผลร้อนใน), ช่องปากอักเสบ เช่น ลิ้นอักเสบ, เหงือกอักเสบ, ฟันผุ, เจ็บ, อวัยวะในช่องปากบวม
ทั้งนี้โรคต่างๆของช่องปากจะเช่นเดียวกับโรคต่างๆของอวัยวะต่างๆทั่วร่างกาย ทั่วไปได้แก่
- โรคติดเชื้อ หรือ ภาวะติดเชื้อ ที่ส่วนใหญ่เกิดจาก เชื้อแบคทีเรีย, เชื้อไวรัส (โรคติดเชื้อไวรัส), และ/หรือเชื้อรา( โรคเชื้อรา)
- ความพิการแต่กำเนิด และ/หรือทางพันธุกรรม เช่น ปากแหว่งเพดานโหว่
- โรคจากความเสื่อมของเนื้อเยื่อ/อวัยวะต่างๆของช่องปากตามอายุที่มากขึ้น เช่น ปากคอแห้ง, โรคเหงือก, โรคฟัน
- อุบัติเหตุต่อช่องปาก เช่น กระดูกกรามหักจากอุบัติเหตุต่างๆที่ใบหน้า
- โรคเนื้องอก ซึ่งพบเนื้องอกช่องปากได้น้อย
- โรคมะเร็ง: มะเร็งช่องปากจัดเป็นมะเร็งพบบ่อย มักพบในประเทศยากจน และ คนที่ขาดสุขอนามัยของช่องปาก
อนึ่ง ชื่อภาษาอังกฤษอื่นของโรคช่องปาก คือ Oral disorder, Oral problem, Mouth disease, Mouth disorder, Mouth problem
ช่องปาก (Oral cavity หรือ Mouth) เป็นคำเรียกรวมของเนื้อเยื่อ/อวัยวะต่างๆในช่องปากซึ่งเกิดมาจากเนื้อเยื่อที่คล้ายคลึงกัน และเมื่อเกิดโรคต่างๆจะก่อให้เกิดอาการคล้ายคลึงกันเช่นกัน รวมทั้ง วิธีวินิจฉัยโรค, การรักษา, และความรุนแรงของโรค
ช่องปาก เป็นเนื้อเยื่อ/อวัยวะที่อยู่ในระบบศีรษะและลำคอ โดยอวัยวะ/เนื้อเยื่อของช่องปากประกอบด้วย ริมฝีปาก, กระพุ้งแก้ม, เหงือก, ฟัน, เพดาน, ลิ้น, และเนื้อเยื่อรอบๆลิ้นที่รวมถึงเนื้อเยื่อใต้ลิ้นที่เรียกว่า ‘เนื้อเยื่อพื้นปาก (Floor of mouth)’ ซึ่งช่องปากสามารถ อม/บรรจุอาหาร/น้ำดื่มได้เฉลี่ย ประมาณ 71.2 มิลลิลิตร(มล.)ในผู้ชาย ส่วนในผู้หญิงเฉลี่ยประมาณ 55.4 มล.
หน้าที่หลักของช่องปาก ได้แก่
- รับรสชาติ
- ช่วยย่อยอาหาร/เคี้ยวอาหาร
- ช่วยในการกลืน
- ช่วยในการหายใจ
- ช่วยการออกเสียงต่างๆ เช่น การพูด การร้องเพลง
- ใช้แสดงอารมณ์
- และเป็นส่วนหนึ่งของความสวยงาม
โรคของช่องปาก เป็นโรคพบบ่อย พบทั่วโลก ไม่ขึ้นกับเชื้อชาติ พบทุกเพศ ทุกวัยตั้งแต่ทารกในครรภ์ไปจนถึงผู้สูงอายุ โรคที่พบบ่อยที่สุด คือ โรคฟัน, และโรคเหงือก โดยมีรายงานจากองค์การอนามัยโลก พบว่า ทั่วโลก
- เด็ก 60%-90% มีฟันผุอย่างน้อย 1จุด
- เกือบ100% ของผู้ใหญ่ มีฟันผุ 1 จุด
- 15%-20%ของผู้ใหญ่อายุ 35-44ปี เป็นโรคเหงือกชนิดที่รุนแรง
- ประมาณ 30%ของประชากรโลกที่อายุ 65-74 ปี มีฟันธรรมชาติหลุด/หักไปหมดแล้ว
- พบมะเร็งช่องปากได้ 1-10รายต่อประชากร 1 แสนคน
- โรคของช่องปากมักพบในคนด้อยโอกาส และมีฐานะทางเศรษฐกิจไม่ดี
ช่องปากเป็นโรคอะไรได้บ้าง?มีสาเหตุจากอะไร?
โรคต่างๆของช่องปากจะเช่นเดียวกับโรคต่างๆของอวัยวะต่างๆทั่วร่างกาย สาเหตุที่ทำให้เกิด และที่พบบ่อย คือจาก
- ภาวะขาดอาหาร(ทุพโภชนา)
- สูบบุหรี่
- ดื่มสุรา
- การไม่รักษาความสะอาดของช่องปาก หรือดูแลรักษาช่องปากไม่ถูกวิธี
- มีภาวะติดเชื้อ ในช่องปาก: เป็นสาเหตุที่พบบ่อย ส่วนใหญ่จาก เชื้อแบคทีเรีย, เชื้อไวรัส(โรคติดเชื้อไวรัส), และ/หรือเชื้อรา (โรคเชื้อรา) ซึ่งที่พบบ่อยคือ
- ฟันผุ
- เหงือกอักเสบ
- เชื้อราช่องปาก
- ลิ้นอักเสบ
- ความพิการแต่กำเนิด และ/หรือ โรคทางพันธุกรรม: ที่พบบ่อย คือ
- ปากแหว่ง เพดานโหว่
- โรคจากความเสื่อมของเนื้อเยื่อ/อวัยวะต่างๆของช่องปากตามอายุที่มากขึ้น ที่พบบ่อย เช่น
- ปากคอแห้ง จากเซลล์ต่อมน้ำลายขนาดเล็กๆที่อยู่ในเนื้อเยื่อต่างๆของช่องปากเสื่อม จึงสร้างน้ำลายได้น้อยลง
- ภาวะเหงือกร่น ที่ส่งผลให้เห็นรากฟัน ส่งผลต่อเนื่องให้เกิดอาการ เสียวฟัน ฟันโยกง่าย และเกิดโรคของรากฟันได้ง่าย
- ฟันหัก/ฟันโยกหลุด
- โรคปริทันต์
- โรคกรดไหลย้อนที่รุนแรงที่กรดไหลย้อนขึ้นมาถึงช่องปาก กรดจึงทำลายเยื่อบุช่องปากรวมถึงฟัน ส่งผลให้ช่องปากอักเสบ เหงือกอักเสบ ฟันผุ ง่าย
- โรคออโตอิมมูน เช่น
- ผื่นแดงอักเสบเรื้อรังในช่องปากในโรคลูปัส-โรคเอสแอลอี (SLE)
- ผื่นแผลแตกของริมฝีปาก/ช่องปาก กรณีปากคอแห้งมากจากโรค กลุ่มอาการโจเกรน
- อุบัติเหตุต่อช่องปาก: เป็นสาเหตุพบบ่อยเช่นกัน เช่น กระดูกกรามหักจากอุบัติเหตุต่างๆที่ใบหน้า
- อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาบางชนิด: เช่น
- ปากคอแห้ง: เช่นจากยา กลุ่ม Beta blocker, ยาแก้แพ้, ยาลดน้ำมูก, ฯลฯ
- ริมฝีปาก ลิ้น บวม อาจร่วมกับมีแผล หรือตุ่มน้ำ ที่อาจเกิดจากการแพ้ยาต่างๆ: เช่น ยาปฏิชีวนะ, ยากันชักยาต้านชัก, ยาเบาหวาน, ยาต้านเชื้อรา ฯลฯ
- ช่องปากเป็นแผล: เช่น ผลข้างเคียงจากยาเคมีบำบัด เป็นต้น
- สีเยื่อบุผิวต่างๆของ ริมฝีปาก ช่องปาก เข็มขึ้น: เช่นจาก ยาต้านเอชไอวี, ยาต้านเชื้อรา, ยาปฏิชีวนะบางชนิด
- เหงือกบวม: เช่นจาก ยากดภูมิต้านทาน, ยากันชักยาต้านชัก, ยากลุ่ม Calcium channel blocker
- กระดูกกรามผุกร่อน เช่นยา Bisphosphonate
- โรคเนื้องอก: ทั่วไป พบได้น้อย
- โรคมะเร็ง: พบได้ทั้งชนิด มะเร็งคาร์ซิโนมา และ มะเร็งซาร์โคมา แต่เกือบทั้งหมดเป็นมะเร็งคาร์ซิโนมาที่ทั่วไปเรียกว่า ‘มะเร็งช่องปาก’ ซึ่งมะเร็งช่องปาก เป็นมะเร็งพบบ่อยทั่วโลก โดยรายงานในประเทศไทยปี พ.ศ. 2558 เป็นมะเร็งพบบ่อยลำดับที่ 7 ของชายไทย แต่ไม่ติด10ลำดับในเพศหญิง แนะนำอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมโรคมะเร็งนี้ในเว็บ haamor.com ในเรื่อง
- มะเร็งช่องปาก
- มะเร็งลิ้น
- มะเร็งพื้นปาก
- มะเร็งแก้ม
- มะเร็งเพดานแข็ง
- มะเร็งริมฝีปาก
- มะเร็งเหงือก
- ผลข้างเคียงจากการฉายรังสีรักษาในมะเร็งระบบศีรษะและลำคอ(แนะนำอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง การดูแลตนเองเมื่อฉายรังสีรักษาบริเวณศีรษะและลำคอ)
- ผลข้างเคียงจากยาเคมีบำบัด
*แนะนำอ่านรายละเอียดของแต่ละโรค/ภาวะ ได้จากแต่ละบทความต่างๆเหล่านั้น ในเว็บ haamor.com
อะไรเป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดโรคของช่องปาก?
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดโรคช่องปาก ได้แก่
- ขาดการดูแลช่องปาก/ขาดสุขอนามัยของช่องปาก: การดูแลรักษาสุขภาพช่องปากที่สำคัญคือ
- แปรงฟันให้ถูกวิธีวันละ 2ครั้งเมื่อ ตื่นนอนเช้า และก่อนเข้านอน
- รู้จักใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยหลังอาหารมื้อหนัก และก่อนการแปรงฟันทุกครั้งโดยเฉพาะก่อนเข้านอน
- พบทันตแพทย์ตรวจช่องปากทุก6-12เดือน หรือตามทันตแพทย์แนะนำ
- กินอาหารไม่มีประโยชน์: เซลล์/เนื้อเยื่อช่องปากจึงผิดปกติและเสื่อมได้ง่าย ทั้งนี้ อาหารมีประโยชน์คือ อาหารมีประโยชน์ห้าหมู่ที่ควรกินให้ครบถ้วนในทุกมื้ออาหาร หรืออย่างน้อยในทุกๆวัน
- สูบบุหรี่: สารนิโคตินและสารน้ำมันดิน(Tars)ในควันบุหรี่ จะส่งผลให้ฟันมีสีเหลืองเข็ม และเกิดคราบหินปูนที่เหงือก/ฟันสูง และที่สำคัญ เป็นปัจจัยเสี่ยงสูงเกิด มะเร็งช่องปาก
- ดื่มสุรา: แอลกอฮอล์จากสุรา จะส่งผลให้เกิดโรค/การอักเสบ/การเสื่อมต่อเนื้อเยื่อทุกชนิดของช่องปาก รวมถึงทำให้เกิดคราบหินปูนสูง และที่สำคัญ เป็นปัจจัยเสี่ยงสูงต่อการเกิดมะเร็งช่องปาก โดยเฉพาะเมื่อดื่มสุราร่วมกับสูบบุหรี่
- กินอาหารหวาน/น้ำตาล: ที่รวมถึง เครื่องดื่ม อาหารว่าง ทอฟฟี่ ลูกอม ขนม แบบกินจุบกินจิบ เพราะ
- น้ำตาลช่วยเพิ่มจำนวนแบคทีเรียหลายชนิดในช่องปาก ซึ่งแบคทีเรียเหล่านี้จะสร้างกรดที่เป็นปัจจัยสำคัญให้เกิดฟันผุ
- อาหารมีน้ำตาลสูงยังช่วยให้แบคทีเรียในช่องปากสะสมสร้างคราบหินปูนที่ โคนฟันได้มากขึ้น
โรคของช่องปากมีอาการอย่างไร?
อาการของโรคในช่องปากมีหลากหลายอาการ เช่น
ก. อาการที่เกิดขึ้นกับตัวช่องปากเอง: ซึ่งไม่จำเป็นต้องเกิดครบทุกอาการ ที่พบบ่อย ได้แก่
- มีแผลที่เกิดเฉียบพลัน เช่น แผลร้อนใน, แผลจากฟันขบ, หรือแผลเรื้อรัง เช่น แผลมะเร็ง
- มีตุ่มน้ำใส
- เนื้อเยื่อ /อวัยวะช่องปากมีสีคล้ำ หรือแดง ทั่วช่องปาก หรือเป็นตำแหน่งๆไป อาจเจ็บหรือไม่ก็ได้
- เจ็บ แสบ ในช่องปาก หรือที่รอยโรคต่างๆ
- อ้าปากได้เล็กลงจากอาการเจ็บ
- ปากคอแห้ง
- มีกลิ่นปาก
- ปวดฟัน
- เยื่อช่องปากเปลี่ยนเป็น สีแดง เจ็บ แสบ บวม
- มีเลือดออกตามไรฟัน เหงือก โดยเฉพาะขณะแปรงฟัน เช่นใน โรคเลือด, โรคลักปิดลักเปิด
- ช่องปาก/ริมฝีปากซีด เช่น ในภาวะโลหิตจาง/ โรคซีด
- ช่องปาก โดยเฉพาะริมฝีปาก เขียวคล้ำ เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง, โรคหัวใจแต่กำเนิด, โรคหืดเรื้อรัง, สูบบุหรี่จัด
- เกิดมี ฝ้าขาว และ/หรือ ฝ้าแดง ที่เป็นอาการเริ่มต้นของมะเร็งช่องปาก
- มีก้อนเนื้อผิดปกติในช่องปาก
ข. อาการจากโรคที่เป็นสาเหตุ: ซึ่งจะแตกต่างกันในแต่ละผู้ป่วยตามแต่ละสาเหตุ ทั้งนี้ แนะนำอ่านรายละเอียดของแต่ละโรคที่เป็นสาเหตุได้ในเว็บ haamor.com เช่น
- อาการของโรคเบาหวาน
- อาการของมะเร็งเม็ดเลือดขาว
- อาการของโรคกรดไหลย้อน
- อาการของโรคออโตอิมมูน
ควรพบแพทย์เมื่อไร?
เมื่อมีอาการดังกล่าวใน ‘หัวข้ออาการ ฯ’ ที่อาการไม่ดีขึ้น หรืออาการเลวลงหลังการดูแลตนเองในระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ควรรีบพบแพทย์/มาโรงพยาบาลเสมอ โดยเฉพาะเมื่อพบเป็นแผลเรื้อรัง หรือเป็นก้อนเนื้อ ทั้งนี้เพื่อ แพทย์วินิจฉัยหาสาเหตุตั้งแต่แรกเริ่ม ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาโดยเฉพาะเมื่อสาเหตุเกิดจากโรคมะเร็ง หรือมีปัจจัยเสี่ยงต่อมะเร็งช่องปาก โดยเฉพาะเมื่อ สูบบุหรี่ ดื่มสุรา กินหมาก อมเมี่ยง ต่อเนื่อง
แพทย์วินิจฉัยโรคของช่องปากได้อย่างไร?
แพทย์วินิจฉัยโรคของช่องปากได้จาก
- การสอบถามประวัติทางการแพทย์ของผู้ป่วย ที่สำคัญ เช่น อาการ ประวัติการคลอด การบริโภคอาหาร สูบบุหรี่ ดื่มสุรา ประวัติโรคประจำตัว อุบัติเหตุ การรักษาโรคต่างๆที่รวมถึงการใช้ยาต่างๆ
- การตรวจร่างกาย ที่รวมถึงการตรวจดูในช่องปาก การตรวจคลำต่อมน้ำเหลืองบริเวณลำคอ
- การสืบค้น ต่างๆเพิ่มเติม ตามอาการผู้ป่วยและดุลพินิจของแพทย์ เช่น
- การตรวจเลือด ดูค่าต่างๆ เช่น เม็ดเลือดต่างๆ/ CBC, ระดับน้ำตาลในเลือด(ดูโรคเบาหวาน)
- การตรวจเชื้อ อาจร่วมกับการเพาะเชื้อจากสารคัดหลั่งในช่องปาก และของรอยโรคในช่องปาก
- การตัดชิ้นเนื้อที่รอยโรคเพื่อการตรวจทางพยาธิวิทยา
- การเอกซเรย์ช่องปาก ดู ฟัน กระดูกกราม
- เอกซเรย์คอมพิวเตอร์(ซีทีสแกน) หรือ เอมอาร์ไอ ภาพช่องปาก เพื่อวินิจฉัยรอยโรค และเพื่อดูการลุกลามของรอยโรคต่างๆ
มีแนวทางรักษาโรคของช่องปากอย่างไร?
แนวทางการรักษาโรคของช่องปาก คือ การรักษาสาเหตุ และ การรักษาประคับประคองตามอาการ (การรักษาตามอาการ)
ก. การรักษาสาเหตุ: จะแตกต่างกันตามแต่ละสาเหตุ แนะนำอ่านรายละเอียดของแต่ละโรค/ภาวะ ได้จากแต่ละบทความต่างๆเหล่านั้น ได้ในเว็บ haamor.com เช่น
- แผลร้อนใน
- ฝ้าขาว-ฝ้าแดง
- ฟันผุ
- เหงือกอักเสบ
- มะเร็งช่องปาก
ข. การรักษาประคับประคองตามอาการ: เช่น
- ปรับประเภทอาหารเป็น อาหารอ่อน (แนะนำอ่านเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ประเภทอาหารทางการแพทย์)เมื่อมีแผล หรือ เจ็บในช่องปาก
- กินอาหารมีประโยชน์ห้าหมู่ให้ครบถ้วนในทุกวัน
- หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด
- ดูแลรักษาความสะอาดของช่องปาก เลือกใช้แปรงสีฟันที่ขนนุ่มมาก และยาสีฟันชนิดไม่ก่อการระคายเคืองต่อช่องปาก
- บ้วนปากด้วย น้ำสะอาด หรือน้ำเกลือเจือจาง บ่อยๆ โดยเฉพาะหลังกินอาหารทุกมื้อ
- ยาแก้ปวด กรณีมีอาการปวด
- การดื่มน้ำเพิ่มขึ้น(ถ้าไม่มีโรคที่ต้องจำกัดน้ำดื่ม) และ/หรือจิบน้ำบ่อยๆ กรณีปากคอแห้ง
โรคของช่องปากรุนแรงไหม?
ความรุนแรงหรือการพยากรณ์โรคของโรคช่องปาก มีตั้งแต่ไม่รุนแรง ดูแลรักษาหายด้วยตนเอง ไปจนถึงอาจรุนแรงมากจนตายได้ ทั้งนี้จะขึ้นกับสาเหตุ เช่น
ก. โรคไม่รุนแรง/การพยากรณ์โรคดี มักรักษาหายเสมอโดยไม่มีผลข้างเคียงตามมา เช่น แผลร้อนใน หรืออาการปากคอแห้งที่เกิดจากผลข้างเคียงของยาบางกลุ่ม(รักษาโดยการปรับเปลี่ยนขนาดยาหรือชนิดของยา)
ข. อาการเรื้อรัง แต่แพทย์/ทันตแพทย์สามารถรักษาดูแลได้ เช่น ช่องปากอักเสบ, เหงือกอักเสบ, ฟันผุ, เชื้อราช่องปาก
ค. โรครุนแรง/การพยากรณ์โรคไม่ดี เช่น สาเหตุจากมะเร็งช่องปากโดยเฉพาะโรคในระยะที่4
ดูแลตนเองอย่างไร? พบแพทย์ก่อนนัดเมื่อไหร่?
การดูแลตนเองเมื่อมีโรคของช่องปาก ที่สำคัญ คือ
- ปฏิบัติตาม แพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล แนะนำ
- กินยา/ใช้ยาต่างๆที่แพทย์ /ทันตแพทย์สั่งให้ถูกต้อง ไม่หยุดยาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ก่อน
- รักษาความสะอาดช่องปากเสมอที่รวมถึงกรณีเพื่อป้องกันโรคช่องปาก ที่สำคัญคือ
- แปรงฟันอย่างถูกวิธี วันละ2ครั้ง ก่อนเข้านอน และหลังตื่นนอนเช้า
- รู้จักใช้ไหมขัดฟัน โดยเฉพาะก่อนแปรงฟันก่อนนอน
- บ้วนปากด้วยน้ำสะอาด หรือน้ำเกลือเจือจางเสมอ หลังกินอาหารทุกครั้ง
- กินอาหารมีประโยชน์ห้าหมู่ให้ครบถ้วนในทุกวัน ลดอาหารแป้งและน้ำตาล โดยเฉพาะไม่กินอาหารจุบจิบ
- กินอาหารอ่อน
- ไม่กินอาหาร/ ดื่นเครื่องดื่ม รสจัด และอาหารที่มีอุณหภูมิสูง
- งด/เลิกบุหรี่
- งด/เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์/สุรา
- ดื่มน้ำสะอาดให้พอเพียงในแต่ละวัน เพื่อให้ช่องปากชุ่มชื้น เช่น วันละ 8-10 แก้วเมื่อไม่มีโรคต้องจำกัดน้ำดื่ม อาจร่วมกับการจิบน้ำสะอาดบ่อยๆ
- พบ แพทย์ /มาโรงพยาบาลตามแพทย์นัดเสมอ
- พบทันตแพทย์ทุก6-12เดือน หรือตามทันตแพทย์นัด
มีการตรวจคัดกรองโรคของช่องปากไหม?
ปัจจุบัน ทั่วไปการตรวจคัดกรองโรคช่องปาก คือการแนะนำเพื่อ ดูแลป้องกัน รักษาโรคของช่องปาก ได้แก่
- การพบทันตแพทย์ทุก6-12เดือน หรือ บ่อยตามคำแนะนำของทันตแพทย์
ป้องกันโรคของช่องปากได้อย่างไร?
การป้องกันโรคช่องปาก ต้องอาศัยหลายปัจจัยร่วมกัน ที่สำคัญ คือ
- หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคช่องปากดังได้กล่าวใน ‘หัวข้อ ปัจจัยเสี่ยงฯ’ โดย
- กินอาหารมีประโยชน์ห้าหมู่
- ไม่กินจุบจิบ โดยเฉพาะขนมและของหวาน
- ไม่สูบบุหรี่
- ไม่ดื่มสุรา
- ถ้าปากคอแห้งมากจากผลข้างเคียงของยา ให้รีบกลับไปพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลเพื่อแพทย์พิจารณาปรับการใช้ยานั้นๆ
- ป้องกันการเกิดโรคต่างๆที่เป็นสาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยง แนะนำอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในแต่ละโรคในเว็บ haamor.com
- รักษาความสะอาดช่องปากเสมอ ที่สำคัญคือ
- แปรงฟันอย่างถูกวิธีวันละ2ครั้ง ก่อนเข้านอน และหลังตื่นนอนเช้า
- รู้จักใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยก่อนแปรงฟันก่อนนอน
- บ้วนปากด้วยน้ำสะอาดเสมอหลังกินอาหารทุกครั้ง
- พบทันตแพทย์ตรวจช่องปากและฟันทุก 6-12 เดือน หรือบ่อยตามทันตแพทย์แนะนำ
บรรณานุกรม
- https://www.fdiworlddental.org/sites/default/files/media/documents/complete_oh_atlas.pdf [2019,Dec28]
- https://www.cda-adc.ca/en/oral_health/talk/complications/diseases/ [2019,Dec28]
- https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/oral-health [2019,Dec28]
- http://haamor.com/th/%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%81/ [2019,Dec28]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Human_mouth [2019,Dec28]
- https://emedicine.medscape.com/article/1081029-overview#showall [2019,Dec28]
- https://www.healthline.com/health/dental-and-oral-health#takeaway [2019,Dec28]