โตแล้วก็มีพยาธิได้ (ตอนที่ 3 และตอนจบ)

โตแล้วก็มีพยาธิได้-3

      

ปัจจัยเสี่ยงของโรคพยาธิสตรองจิลอยด์ ได้แก่

  • ผู้ที่เดินเท้าเปล่า
  • ผู้ที่สัมผัสกับสิ่งปฏิกูลหรือของเสียของมนุษย์
  • อาชีพที่ทำงานสัมผัสกับดิน เช่น เกษตรกรรม เหมืองถ่านหิน
  • ผู้ที่ติดเชื้อไวรัส HTLV-1

การวินิจฉัยโรคพยาธิสตรองจิลอยด์ทำได้ด้วยการ

  • ตรวจเลือดซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุด
  • ตรวจอุจจาระเพื่อหาตัวอ่อนพยาธิ (มักพบประมาณสัปดาห์ที่ 3-4 หลังการติดเชื้อหรืออาจไม่พบเลย)

สำหรับการรักษา แนะนำให้ผู้ที่ติดเชื้อทุกคนเข้ารับการรักษาแม้ว่าจะไม่แสดงอาการแต่อย่างไร ทั้งนี้เพราะจะมีความเสี่ยงในการพัฒนาไปเป็น Hyperinfection syndrome และ/หรือ อาจก่อให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อได้ โดยยาที่ใช้คือ ยาถ่ายพยาธิ ซึ่งได้แก่

  • Ivermectin
  • Thiabendazole
  • Albendazole

และควรทำการตรวจซ้ำหลังการรักษา 2-4 สัปดาห์ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเชื้อแล้ว ซึ้งหากยังพบตัวอ่อนอีกก็ต้องทำการรักษาอีก

นอกจากนี้ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย จึงมีการแนะนำให้ผู้ป่วยที่จะใช้วิธีการรักษากดภูมิคุ้มกัน (Immunosuppressive therapy) โดยเฉพาะการใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) ได้ทำการตรวจหาพยาธินี้ก่อนเริ่มทำการรักษา

ส่วนการป้องกันทำไดโดย

  • สวมรองเท้าเมื่อเดินบนดิน
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับอุจจาระหรือสิ่งปฏิกูล
  • มีระบบการกำจัดสิ่งปฏิกูลและอุจจาระที่ดี

แหล่งข้อมูล:

  1. Strongyloidiasis. https://www.cdc.gov/parasites/strongyloides/ [2020, January 10].
  2. Strongyloidiasis. https://www.who.int/intestinal_worms/epidemiology/strongyloidiasis/en/ [2020, January 10].