เลโวโดปา (Levodopa)

สารบัญ บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ

ยาเลโวโดปา (Levodopa) เป็นสารตั้งต้นของสารสื่อประสาทในสมองที่มีชื่อว่า โดพามีน (Dopamine), นอร์อีพิเนฟริน (Norepinephrine) และอีพิเนฟริน (Epinephrine) ยานี้ถูกนำไปใช้กับสัตว์ที่มีอาการโรคพาร์กินสันครั้งแรกในปี ค.ศ. 1950 (พ.ศ. 2493) จากนั้นได้มีการปรับเปลี่ยนขนาดการใช้และพัฒนามาใช้กับมนุษย์ โดยพบว่าไม่ก่อให้เกิดพิษต่อร่างกายมนุษย์แต่อย่างใด

เส้นทางการบริหาร/การใช้ยานี้กับมนุษย์มี 2 วิธีคือ การรับประทานและการฉีดเข้าหลอดเลือดดำ ยานี้จะอยู่ในร่างกายไม่เกิน 0.75 - 1.5 ชั่วโมงก็จะถูกกำจัดออกจากกระแสเลือดของผู้ป่วย 50% โดยผ่านทิ้งไปกับปัสสาวะเสียเป็นส่วนมาก และตัวยาเลโวโดปาสามารถซึมผ่านเข้าสมอง ผ่านรก และถูกขับออกมากับน้ำนมมารดาได้

คณะกรรมการอาหารและยาของไทยได้บรรจุยาเลโวโดปาลงในบัญชียาหลักแห่งชาติ โดยกำหนดให้ผสมร่วมกับยาอื่นเช่น Benserazide (ยารักษาโรคพาร์กินสัน) หรือ Carbidopa (ยารักษาโรคพาร์กินสัน) โดยระบุวัตถุประสงค์ของการรักษากลุ่มโรคที่มีความผิดปกติเรื่องการเคลื่อนไหวของร่างกาย ผู้ป่วยที่จะใช้ยานี้ได้ต้องได้รับการคัดกรองและการตรวจร่างกายจากประสาทแพทย์ก่อน การรับประทานยานี้จะต้องเป็นไปตามคำสั่งของแพทย์ผู้รักษา ผู้ป่วยไม่ควรซื้อยาและ/หรือปรับขนาดการรับประทานยาด้วยตนเองโดยเด็ดขาด

เลโวโดปามีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?

เลโวโดปา

ยาเลโวโดปามีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคพาร์กินสัน

เลโวโดปามีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

กลไกการออกฤทธิ์ของยาเลโวโดปาคือ ตัวยาจะเพิ่มระดับของสารสื่อประสาทโดพามีนในสมอง สารนี้จะไปกระตุ้นตัวรับ (Receptor) ซึ่งถูกเรียกว่า โดพามีน รีเซพเตอร์ (Dopamine receptor) จากกลไกดังกล่าวจะทำให้อาการของผู้ป่วยโรคพาร์กินสันดีขึ้นเป็นลำดับ

เลโวโดปามีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

ยาเลโวโดปามีรูปแบบการจัดจำหน่ายดังนี้เช่น

ก. ยาเม็ดที่ผสมร่วมกับ Carbidopa เช่น

  • Carbidopa 25 มิลลิกรัม + Levodopa 100 มิลลิกรัม
  • Carbidopa 25 มิลลิกรัม + Levodopa 250 มิลลิกรัม

ข. ยาเม็ดที่ผสมร่วมกับ Benserazide เช่น

  • Levodopa 200 มิลลิกรัม + Benserazide base 50 มิลลิกรัม
  • Levodopa 100 มิลลิกรัม + Benserazide base 25 มิลลิกรัม

ค. ยาแคปซูลที่ผสมร่วมกับ Benserazide เช่น

  • Levodopa 100 มิลลิกรัม + Benserazide base 25 มิลลิกรัม

ง. ยาเม็ดที่ผสมร่วมกับ Carbidopa และ Entacapone (ยารักษาโรคพาร์กินสัน) เช่น

  • Carbidopa 12.5 มิลลิกรัม + Levodopa 50 มิลลิกรัม + Entacapone 200 มิลลิกรัม
  • Carbidopa 25 มิลลิกรัม + Levodopa 100 มิลลิกรัม + Entacapone 200 มิลลิกรัม
  • Carbidopa 37.5 มิลลิกรัม + levodopa 150 มิลลิกรัม + entacapone 200 มิลลิกรัม
  • Carbidopa 50 มิลลิกรัม + levodopa 200 มิลลิกรัม + entacapone 200 มิลลิกรัม

เลโวโดปามีขนาดรับประทานอย่างไร?

ยาเลโวโดปามีขนาดรับประทานดังนี้เช่น

  • ผู้ใหญ่: เริ่มต้นรับประทาน 125 มิลลิกรัมวันละ 2 ครั้งเช้า - เย็น และค่อยๆปรับเพิ่มขนาดรับ ประทานทุกๆ 3 - 7 วัน ขนาดรับประทานสูงสุดไม่เกิน 8 กรัม/วันโดยแบ่งรับประทาน

*อนึ่ง:

  • ควรรับประทานยานี้พร้อมอาหารเพื่อลดอาการข้างเคียง (ผลข้างเคียง) ที่ทำให้รู้สึกไม่สบายในกระเพาะอาหารและลำไส้
  • โรคพาร์กินสันเป็นโรคของผู้สูงอายุจึงไม่มีการใช้ยานี้ในเด็ก

*****หมายเหตุ:

  • ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้นไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ก่อนเสมอ

เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดที่รวมถึงยาเลโวโดปา ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรดังนี้

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิดเช่น กินยาแล้วคลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
  • มีโรคประจำตัวต่างๆรวมทั้งกำลังกินยาอะไรอยู่ เพราะยาเลโวโดปาอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรือเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กินอยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรกและเข้าสู่ทารก จนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?

หากลืมรับประทานยาเลโวโดปาสามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า

เลโวโดปามีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

ยาเลโวโดปาสามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์ (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) ดังนี้เช่น มีอาการไม่สบายในกระเพาะอาหาร - ลำไส้หลังรับประทานยา และอาจพบอาการคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหารติดตามมา หากใช้ยานี้กับผู้ที่มีแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก (แผลเปบติค) อาจทำให้มีเลือดออกในกระเพาะอาหารได้ มีภาวะความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นผิดจังหวะ มีภาวะอารมณ์ซึมเศร้าจนอาจถึงขั้นทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย อาจทำให้เกิดภาวะประสาทหลอน รวมถึงการตรวจเลือดอาจพบมีค่าเอนไซม์การทำงานของตับสูงขึ้นได้เล็กน้อย สามารถทำให้เกิดภาวะเม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดต่ำ

อาการที่ผู้ป่วยได้รับยาเกินขนาดสามารถพบอาการดังนี้เช่น มีอาการความดันโลหิตสูงในช่วงแรกๆ และติดตามมาด้วยอาการความดันโลหิตต่ำ จากนั้นจะพบอาการหัวใจเต้นเร็วผิดจังหวะ (Sinus tachycardia) หงุดหงิด กระสับกระส่าย และนอนไม่หลับ หากพบอาการดังกล่าวควรรีบพาผู้ป่วยไปพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลก่อนนัดเพื่อรักษาอาการที่เกิดขึ้น

มีข้อควรระวังการใช้เลโวโดปาอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้ยาเลโวโดปาดังนี้เช่น

  • ห้ามใช้ในผู้แพ้ยานี้
  • ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยโรคต้อหินชนิด Angle closure glaucoma
  • ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา (Malignant melanoma)
  • ไม่ควรปรับขนาดรับประทานยาหรือหยุดยานี้ด้วยตนเอง
  • ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วยโรคหัวใจ ผู้ป่วยโรคตับ โรคไต ผู้ป่วยโรคปอด ผู้ป่วยโรคลมชัก ผู้ป่วยโรคทางจิตประสาท ผู้ป่วยโรคต้อหินชนิด Open-angle glaucoma ผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นแผลในกระเพาะอาหาร
  • ระหว่างที่มีการใช้ยานี้ควรต้องตรวจและควบคุมการทำงานของอวัยวะต่างๆดังนี้เช่น ตับ ไต หัวใจ ไขกระดูก รวมถึงภาวะทางจิตใจของผู้ป่วย
  • ระวังเรื่องการทำงานเกี่ยวกับการควบคุมเครื่องจักรหรือการขับขี่ยวดยานพาหนะด้วยผู้ป่วยที่ใช้ยานี้จะมีสมรรถนะของการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายไม่ดีเท่ากับคนปกติ
  • ระวังการใช้ยานี้กับสตรีตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร และผู้สูงอายุ
  • ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ

***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาเลโวโดปาด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน

เลโวโดปามีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ยาเลโวโดปามีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นดังนี้เช่น

  • ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาเลโวโดปาร่วมกับยา Methyldopa ด้วยจะก่อให้เกิดพิษต่อระบบประสาทส่วนกลางหรือสมอง
  • หากใช้ยาเลโวโดปาร่วมกับยา Metoclopramide จะก่อให้เกิดอาการของโรคพาร์กินสันรุนแรงขึ้นจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
  • การรับประทานยาเลโวโดปาร่วมกับยาหลายตัวสามารถลดประสิทธิภาพของการรักษาในยากลุ่มดังกล่าว หากจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกันแพทย์จะปรับขนาดการใช้ยาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยเป็นรายบุคคลไป ยากลุ่มดังกล่าวเช่น Phenothiazine, Butyrophenones, Thioxanthenes, Reserpine และ Papaverine
  • ยาเลโวโดปาสามารถลดการดูดซึมของยากลุ่ม TCAs หากมีความจำเป็นต้องรับประทานร่วมกัน แพทย์ปรับขนาดหรือปรับช่วงเวลารับประทานยาให้เหมาะสมเป็นกรณีๆไป

ควรเก็บรักษาเลโวโดปาอย่างไร?

ควรเก็บยาเลโวโดปาที่อุณหภูมิระหว่าง 20 - 25 องศาเซลเซียส (Celsius) ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์ เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสงแดด ความร้อนและความชื้น และเก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

เลโวโดปามีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยาเลโวโดปาที่จำหน่ายในประเทศไทย มียาชื่อการค้าอื่นและบริษัทผู้ผลิตเช่น

ชื่อการค้า บริษัทผู้ผลิต
Duodopa (ดูโอโดปา) Pond’s Chemical
Levomed (ลีโวเมด) Medochemie
Levomet (ลีโวเมท) Unison
Madopar 250/Madopar HBS/Madopar Dispersible 125 (มาโดพาร์ 250/มาโดพาร์ เฮชบีเอส/มาโดพาร์ ดิสเพอร์ซิเบิล 125) Roche
Sinemet (ซายน์เมท) M & H Manufacturing
Stalevo (สเตลีโว) Novartis
Vopar (โวพาร์) Unison

บรรณานุกรม

1 http://en.wikipedia.org/wiki/L-DOPA [2015, Jan 24] [2015, Jan 24]
2 http://drug.fda.moph.go.th:81/nlem.in.th/medicine/essential/list/81#item-8565 [2015, Jan 24]
3 http://www.mims.com/USA/drug/info/levodopa/?type=full&mtype=generic#Dosage [2015, Jan 24]
4 http://www.mims.com/THAILAND/Home/GatewaySubscription/?generic=levodopa [2015, Jan 24]
5 http://www.mims.com/Thailand/drug/search/?q=levodopa [2015, Jan 24]