สาระน่ารู้จากหมอตา ตอน เห็นภาพซ้อน ตอน1 (diplopia I)

เรื่องน่ารู้จากหมอตา-98

      

      จักษุแพทย์ควรให้ความสนใจผู้ป่วยที่มีอาการเห็นภาพซ้อน เช่น วัตถุอันเดียวเห็นเป็น 2 อัน (diplopia) เพราะภาวะนี้อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ป่วยรุนแรงทั้ง ๆ ที่สาเหตุอาจไม่รุนแรง กล่าวคือ ผู้ป่วยที่เห็นรถคันหน้าคันเดียวเป็น 2 คัน ขณะขับรถอยู่ โอกาสเกิดอุบัติเหตุสูง เพราะไม่ทราบรถคันไหนจริง หรือก้าวเดินลงบันไดเห็นขั้นเดียวเป็นสองขั้น อาจพลาดหกล้มได้ ทั้ง ๆ ที่สาเหตุของ diplopia นั้นอาจเกิดจากเพียงแว่นที่ใส่ไม่ถูกต้อง ขาแว่น 2 ข้างไม่สมดุล ในทางตรงข้าม การเกิด diplopia นั้น อาจเกิดจากโรครุนแรง เช่น มีเลือดออกในสมอง ซึ่งมีอันตรายต่อผู้ป่วยมาก โดยสรุปคือ ภาวะ diplopia อาจเกิดจากภาวะไม่รุนแรง แต่มีผลรุนแรง, หรือเกิดจากภาวะโรคที่รุนแรงซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ ดังนั้นควรให้ความสนใจรายละเอียดเกี่ยวกับ diplopia ดังนี้

      1. เป็น diplopia จริงหรือ เห็นวัตถุเบื้องหน้าอันเดียวเป็น 2 อัน แยกกันชัดเจน จริง หรือเป็นเพียงวัตถุมันมัวไม่ชัดเจนเท่านั้น มีบ่อยครั้งที่เพียงเห็นภาพพร่ามัว แต่ผู้ป่วยจะมาแจ้งว่าเห็นเป็นสอง ผู้ป่วยควรสังเกตและแจ้งให้ชัดเจนว่ามีวัตถุ 2 อัน แยกกันชัดเจน และผู้ป่วยต้องสังเกตได้ว่า ภาพ 2 ภาพนั้น เรียงกันในแนวนอน คืออยู่ซ้ายและขวา หรือบนกับล่าง หรือภาพเอียงแบบทแยง ซึ่งบ่งให้ทราบว่ามีความผิดปกติของกล้ามเนื้อกลอกตามัดใดมัดหนึ่งในแนวนอน (medial และ lateral recti) หรือถ้าในแนวตั้ง แนวเอียง ได้แก่ความผิดปกติของ superior และ inferior recti ตลอดจน oblique muscles

      2. เมื่อผู้ป่วยมี diplopia จริง เป็นหน้าที่ของแพทย์ที่จะตรวจว่าเป็น biocular diplopia คือลืมตา 2 ข้างถึงเห็น diplopia ในกรณีนี้แพทย์ต้องตรวจต่อไป เพื่อดูว่าภาวะ binocular diplopia นี้เป็นเรื่องรีบด่วนร้ายแรงหรือไม่ แต่ถ้าปิดตาข้างหนึ่งแล้ว (ใช้ตามองข้างเดียว) ยังมี diplopia เรียกว่า monocular diplopia มักจะเป็นความผิดปกติของสายตา กระจกตา แก้วตา ซึ่งส่วนมากไม่ใช่เรื่องร้ายแรง

      3. การเกิด diplopia นั้น หากเกิดกะทันหัน และคงที่ คือเห็นเป็นสองนาน (constant) หรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนี้ มักเกิดจากโรคทางกาย ซึ่งนอกจากต้องเริ่มรับการตรวจตาอย่างละเอียดบริเวณ หนังตา ม่านตา กล้ามเนื้อกลอกตา ควรจะต้องสอบการถึงอาการทางระบบประสาทต่าง ๆ เช่น ปวดศีรษะ กล้ามเนื้ออ่อนแรง พูดไม่ชัด สับสน ปวดตา ฯลฯ ตามด้วยการตรวจเส้นประสาท (cranial nerve) โดยหมอระบบประสาท ที่อาจบ่งถึงภาวะรุนแรงของสมอง

      ภาวะ diplopia ที่เป็น binocular diplopia เกิดกะทันหัน อาจเกิดจากภาวะที่รุนแรงและอันตราย มี 2 อันที่รุนแรง ได้แก่

      1. มีขนาด pupil 2 ตา ที่ไม่เท่ากัน ต้องตรวจ MRI และ MRA/CTA อย่างรีบด่วน เพราะเสี่ยงต่อภาวะ aneurysm ตลอดจน space occupying ที่รุนแรงในสมอง

      2. ตรวจพบความผิดปกติของ cranial nerve หลายเส้น อาจเป็นจากความดันโลหิตสูง เบาหวาน (มักมีความผิดปกติเฉพาะเจาะจง (isolated cranial nerve) แต่ถ้าเป็นหลายเส้นบ่งถึง stroke ในสมอง ตลอดจนโรคของ cavernous sinus, arteriovenous fistula ฯลฯ ซึ่งบ่งถึงความรุนแรงตามมา