สาระน่ารู้จากหมอตา ตอน สารหลักในน้ำตาเทียม
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง สกาวรัตน์ คุณาวิศรุต
- 9 มกราคม 2563
- Tweet
ตาแห้งเป็นภาวะที่พบบ่อยในยุคปัจจุบัน การชดเชยด้วยน้ำตาเทียมเป็นการรักษาเบื้องต้นที่ใช้กันทั่วไป น้ำตาเทียมทำหน้าที่หล่อลื่นผิวดวงตาที่พอได้ผล แม้ว่ามันจะมีคุณสมบัติไม่ดีเท่าน้ำตาของเรา น้ำตาเทียมมีองค์ประกอบที่สำคัญ ได้แก่
1. สารที่ให้ความชุ่มชื้น
2. เกลือแร่
3. สารที่ปรับความเข้มข้น (crystalloid osmolarity)
4. สารช่วยปรับความเป็นกรดด่าง
5. สารกันเสีย (preservative) เฉพาะน้ำตาเทียมที่ใช้ได้หลาย ๆ ครั้ง หรือเป็นขวด
สารที่สำคัญสุดที่เป็นหลักในน้ำตาเทียม ได้แก่ สารที่ให้ความชุ่มชื้น US-FDA ได้แบ่งสารที่ให้ความชุ่มชื้นออกเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่
1. Cellulose derivative เป็นสารที่นำมาผลิตน้ำตาเทียมแพร่หลายที่สุด อาจจะเป็น hydroxypropyl methylcellulose (HPMC) หรือ carboxymethylcellulose (CMC) ได้แก่ น้ำตาเทียมที่มีขายในประเทศไทยชื่อ Opsil tear, Genteal, Tear naturale, cellufresh, Optive เป็นต้น
2. Liquid polyols (polyhydric alcohols) สารในกลุ่มนี้ที่นำมาทำน้ำตาเทียม ได้แก่ Propylene (PG), Polyethylene glycol (PEG), Glycerin, Polysorbate สารในกลุ่มนี้ หากนำ Hydroxypropyl-guar (HP-guar) มาผสมจะได้น้ำตาเทียมที่ยึดเกาะผิวตาได้ดีขึ้น แม้ว่าตัวยาจะไม่หนืดมาก ตัวอย่างน้ำตาเทียมในกลุ่มนี้ที่มีขายในประเทศไทย ได้แก่ Systane, Systane ultra
3. Polyvinyl alcohol (PVA) ตัวนี้อาจนำ Povidone มาผสมด้วย ตัวอย่างได้แก่ Liquifilm tear, Hypotear
4. Hyaluronic acid สารตัวนี้พบตามธรรมชาติในร่างกายเรา เช่น น้ำไขข้อ น้ำวุ้นตา aqueous มีคุณสมบัติเป็นตัวให้ความหนืด อุ้มน้ำและยึดติดกับผิวตาได้ดี อีกทั้งยังช่วยเร่งการหายของผิวกระจกตาได้ดี (ในความเข้มข้น 0.2% หรือต่ำกว่า) ตัวอย่างของยากลุ่มนี้ ได้แก่ Hialid, Vislube
5. Carbomer (polyacrylic acid) มักทำเป็น gel เช่น Lacryvisc, Vidisic gel
6. Oil-based emulsion เป็นน้ำตาเทียมที่มีไขมันเป็นองค์ประกอบที่มักอยู่ในรูป emulsion ซึ่งหมายถึงมีของเหลวชนิดหนึ่งปนไปกับอีกชนิด โดยไม่มีการละลาย หยดไขมันที่ปนอยู่อาจมีขนาดใหญ่กว่า 200 นาโนเมตร (macroemulsion) ซึ่งเมื่อหยอดอาจทำให้ตาพร่ามัว ถ้ามีขนาด 20-200 นาโนเมตร (nanometer) ถ้าเล็กกว่า 20 นาโนมิเตอร์ (microemulsion) โดยที่ถ้าหยอดน้ำตาเทียมที่มีไขมันขนาดเล็กกว่า 100 นาโนเมตร หรือน้อยกว่า visible wavelength จะไม่ทำให้มีแสงแตกกระจายหลังหยอด ตาไม่มัวหลังหยอด และยาในกลุ่มนี้ต้องเขย่าเพื่อให้ไขมันกระจายตัวสม่ำเสมอ ทุกครั้งเขย่าก่อนหยอด ตัวอย่างน้ำตาเทียมในกลุ่มนี้ได้แก่ Endura, Duratears ointment น้ำตาเทียมกลุ่มนี้จะช่วยลดอัตราการระเหยของน้ำตา ปกป้องผิวตาจาก meibuem
อนึ่ง น้ำตาเทียม แม้จะช่วยให้ความชุ่มชื้นต่อผิวตาได้ แต่ยังสู้น้ำตาปกติของเราที่ไม่มี growth factor (ตัวกระตุ้นการเจริญเติบโต) และโปรตีนที่เป็น immune ป้องกันผิวตาจากเชื้อโรค และรักษาสมดุลของเซลล์ผิวตาให้แข็งแรงและทำงานได้ตามปกติ น้ำตาเทียมจึงเพียงช่วยรักษาอาการชั่วคราวที่ดี เป็นการรักษาที่เข้าถึงง่ายไม่ยุ่งยาก ค่าใช้จ่ายไม่แพง จึงเป็นที่นิยม
ต่อข้อถามที่ว่า ตัวไหนดีกว่า น้ำตาเทียมส่วนใหญ่สามารถซื้อง่ายตามร้านขายยา แต่ละยี่ห้อก็แสดงผลการทดลองของตัวเอง ไม่ได้มีการเปรียบเทียบมากนัก แม้ล่าสุดมีการทำ systemic review เป็น Cochrane database of systematic review ก็ยังไม่พบความแตกต่าง หรือมีชนิดใดที่มีคุณสมบัติโดดเด่นเหนือชนิดอื่น