เรื่องช้ำๆ ของเท้า (ตอนที่ 1)

เรื่องช้ำๆของเท้า-1

      

นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรครองช้ำหรือโรคพังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบ เป็นโรคที่พบบ่อยในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากไขมันส้นเท้าจะบางกว่า นอกจากนี้ เอ็น กล้ามเนื้อน่อง และฝ่าเท้าจะไม่แข็งแรงเท่าผู้ชาย โดยนักวิ่งที่ต้องใช้เท้าและส้นเท้าเป็นเวลานาน และคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะที่มีน้ำหนักมาก ต้องยืนนาน เดินนาน ซึ่งจะมีอาการปวดและกดเจ็บบริเวณส้นเท้า

ระยะแรกอาจเกิดหลังการออกกำลังกาย เดิน หรือยืนเป็นเวลานาน แต่เมื่ออาการมากขึ้นจะรู้สึกปวดส้นเท้าตลอดเวลา ทั้งนี้อาการจะชัดเจนเมื่อลุกขึ้นเดิน 2-3 ก้าวแรกหลังจากตื่นนอนในตอนเช้า หรือหลังจากนั่งพักขาเป็นเวลานาน จะรู้สึกเจ็บบริเวณส้นเท้า เนื่องจากการกระชากของเอ็นฝ่าเท้าที่อักเสบอย่างทันทีทันใด

นพ.สมพงษ์ ตันจริยภรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเลิดสิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจัยเสี่ยงของโรครองช้ำเกิดจากการใช้งานฝ่าเท้ามากเกินไป เช่น การฝึกวิ่งที่หักโหม วิ่งในระยะทางที่ไกลเกินไป การสวมรองเท้าที่ไม่มีพื้นบุรองส้นเท้า หรือบางเกินไป หรือสวมรองเท้าไม่เหมาะกับรูปเท้า คนที่มีน้ำหนักตัวมาก คนที่มีลักษณะเท้าแบน อุ้งเท้าสูง รวมถึงผู้ที่ป่วยเป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์หรือข้อสันหลังอักเสบ

โรครองช้ำสามารถดูแลด้วยตนเองได้ในเบื้องต้น โดยการยืดพังผืดฝ่าเท้าสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่น สำหรับคนที่พังผืดตึงมากควรแช่เท้าในน้ำอุ่นก่อนทำการยืดประมาณ 15-20 นาที จะช่วยลดอาการเจ็บขณะบริหาร

นอกจากนี้ควรเลือกรองเท้าที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดแรงกดทับบริเวณที่อักเสบ ลดน้ำหนักโดยการออกกำลังกายที่ไม่มีการกระแทกบริเวณส้นเท้า เช่น ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน ถ้าผู้ป่วยอาการไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์ ซึ่งปัจจุบันสามารถรักษาโดยฉีดสเตียรอยด์เฉพาะที่ลดการอักเสบ รักษาด้วยคลื่นกระแทกบริเวณที่ปวดโดยตรง และการผ่าตัด ซึ่งจะใช้วิธีนี้ต่อเมื่อผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ แล้วไม่ได้ผล

โรครองช้ำ (Plantar fasciitis) เป็นการอักเสบของเนื้อเยื่อหรือพังผืด (Fascia) ที่ใต้ฝ่าเท้า มักเกิดมากในหมู่นักวิ่งและคนที่มีเท้าแบน อุ้งเท้าสูง (High arches) มีน้ำหนักตัวมาก หรือผู้ที่ใช้เท้ามาก โดยในแต่ละปีมีผู้เป็นโรครองช้ำประมาณ 2 ล้านคน

อาการของโรครองช้ำมักปวดใต้เท้าที่ด้านหน้าหรือตรงกลางบริเวณกระดูกส้นเท้า ซึ่งสังเกตได้ถึงอาการปวดก้าวแรกในตอนเช้าหลังจากตื่นนอน (“first-step pain”) หรือหลังการขับรถเป็นเวลานาน หรือยืนเป็นเวลานาน อาจปวดตึบๆ หรือปวดแปลบๆ หรือบางคนอาจปวดแสบปวดร้อน แต่อาการปวดจะค่อยลดลงเมื่อมีการเดินไปได้สักระยะเวลาหนึ่ง

แหล่งข้อมูล:

  1. แพทย์เตือนปวดส้นเท้าบ่อยเสี่ยงเป็น "โรครองช้ำ". https://news.thaipbs.or.th/content/284619 [2020, January 4].
  2. What Is Plantar Fasciitis? https://www.webmd.com/fitness-exercise/understanding-plantar-fasciitis-basics [2020, January 4].
  3. Plantar Fasciitis and Bone Spurs. https://orthoinfo.aaos.org/en/diseases--conditions/plantar-fasciitis-and-bone-spurs [2020, January 4].