เรวิพาริน (Reviparin)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 29 พฤษภาคม 2561
- Tweet
- บทนำ
- เรวิพารินมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
- เรวิพารินมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- เรวิพารินมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- เรวิพารินมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?
- เรวิพารินมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้เรวิพารินอย่างไร?
- เรวิพารินมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาเรวิพารินอย่างไร?
- เรวิพารินมีชื่ออื่นอีกไหม?ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- ยาต้านการแข็งตัวของเลือด: ยากันเลือดแข็งตัว (Anticoagulants)
- ยาต้านเกล็ดเลือด (Antiplatelet drug)
- เฮพารินโมเลกุลเล็ก (Low molecular weight heparin)
- ยาเฮพาริน (Heparin)
- ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ (Thrombocytopenia)
- ภาวะลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ (Venous thrombosis)
บทนำ
ยาเรวิพาริน (Reviparin หรือ Reviparin Sodium หรือ Reviparin Na) เป็นยาต้านการแข็งตัวของเลือดประเภทเฮพารินโมเลกุลเล็ก(Low molecular weight heparin ย่อว่า LMWH) ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยของยาเฮพารินโมเลกุลเล็ก เช่น ไม่จำเป็นต้องทดสอบการแข็งตัวของเลือดผู้ป่วยก่อนได้รับยานี้ และยังก่อให้เกิดความเสี่ยงน้อยต่อภาวะเลือดออกง่าย ทางคลินิกจึงนำมาใช้เป็นยาป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำขณะทำการผ่าตัด รูปแบบเภสัชภัณฑ์ของยาเรวิพารินเป็นแบบยาฉีด หลังการฉีดยาเข้าใต้ผิวหนังไปแล้วประมาณ 3 ชั่วโมง จะทำให้ตัวยาถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้มากที่สุดและร่างกายก็ต้องใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเช่นเดียวกันเพื่อการกำจัดยาชนิดนี้/ยานี้ทิ้งไปกับปัสสาวะ
อย่างไรก็ตาม มีผู้ป่วยบางกลุ่มจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการใช้ยาเรวิพาริน และเป็นเหตุผลให้แพทย์ไม่สามารถใช้ยาเรวิพารินกับผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าวได้ เช่น ผู้ที่มีระดับเกล็ดเลือดในร่างกายต่ำ/ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ผู้ป่วยโรคแผลในกระเพาะอาหาร ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูง/โรคความดันโลหิตสูง ผู้ที่มีการติดเชื้อที่เยื่อหุ้มหัวใจ/ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ผู้ที่เพิ่งได้รับการผ่าตัดมาใหม่ๆ ผู้ป่วยโรคไต หรือโรคตับในระยะโรคที่รุนแรง ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับการใส่ลิ้นหัวใจ (Prosthetic heart valves) ตลอดจนกระทั่งผู้ป่วยที่มีระดับเกล็ดเลือดต่ำ ทุกครั้งเมื่อใช้ยาในกลุ่มเฮพารินก็จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่ห้ามใช้ยาเรวิพารินด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้การใช้ยาเรวิพารินกับ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคไต สตรีในภาวะให้นมบุตรและเด็ก จะต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะเป็นกลุ่มที่สามารถได้รับผลข้างเคียงของยาเรวิพารินมากกว่าผู้ป่วยกลุ่มอื่นๆ
ในวงการแพทย์จัดให้ยาเรวิพารินเป็นยาต้านการแข็งตัวของเลือดอีกหนึ่งทางเลือกซึ่งจะพบเห็นการใช้ยาชนิดนี้แต่ในสถานพยาบาลเท่านั้น
เรวิพารินมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
ยาเรวิพารินมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้ เช่น
- ใช้ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำขณะทำการผ่าตัด
- รักษาภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือด(Thromboembolic disorders)
เรวิพารินมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
ยาเรวิพาริน มีกลไกการออกฤทธิ์โดย ตัวยาจะกระตุ้นสารชีวะโมเลกุลในหลอดเลือดที่คอยต่อต้านกระบวนการรวมตัวของเกล็ดเลือดที่มีชื่อเรียกว่า แอนตี้ทรอมบิน ทรี (Antithrombin III) สารชีวโมเลกุลนี้จะเข้ายับยั้งการทำงานของทรอมบิน (Thrombin) และแฟคเตอร์ เทนเอ (Factor Xa)ซึ่งล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญในกระบวนการรวมตัวของเกล็ดเลือด และจากกระบวนการเหล่านี้จึงเกิดกลไกป้องกันการเกิดลิ่มเลือดได้ตามสรรพคุณ
เรวิพารินมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาเรวิพารินมีรูปแบบการจัดจำหน่ายเป็นยาฉีดที่บรรจุตัวยา Reviparin sodium ขนาด
- 1,432 แอนตี้แฟคเตอร์ เทนเอ อินเตอร์เนชั่นแนล ยูนิต(Antifactor Xa international unit ย่อว่า IU) x 0.25 มิลลิลิตร และ
- 3,436 แอนตี้แฟคเตอร์ เทนเอ อินเตอร์เนชั่นแนล ยูนิต x 0.60 มิลลิลิตร
เรวิพารินมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
ยาเรวิพารินมีขนาดการบริหารยา/ใช้ยา เช่น
ก. ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดที่มีความเสี่ยงเกิดระดับปานกลางขณะผ่าตัด:
- ผู้ใหญ่: แพทย์จะฉีดยาเรวิพารินเข้าใต้ผิวหนังก่อนเข้ารับการผ่าตัด 2 ชั่วโมง ขนาด 1,750 แอนตี้แฟคเตอร์ เทนเอ อินเตอร์เนชั่นแนล ยูนิต จากนั้น แพทย์อาจให้ยาอีกวันละ1ครั้งจนกระทั่งผู้ป่วยสามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้เป็นปกติ
ข. ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดที่มีความเสี่ยงเกิดระดับสูงขณะผ่าตัด:
- ผู้ใหญ่: ฉีดยาเรวิพารินเข้าใต้ผิวหนังก่อนเข้ารับการผ่าตัด 12 ชั่วโมง ขนาด 4,200 แอนตี้แฟคเตอร์ เทนเอ อินเตอร์เนชั่นแนล ยูนิต จากนั้นแพทย์อาจให้ยาอีกวันละ1ครั้งจนกระทั่งผู้ป่วยสามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้เป็นปกติ
ค. สำหรับรักษาภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือด:
- ผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักตัว 35–45 กิโลกรัม: ฉีดยาใต้ผิวหนัง 3,500 แอนตี้แฟคเตอร์ เทนเอ อินเตอร์เนชั่นแนล ยูนิตวันละ 2 ครั้ง
- ผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักตัว 46–60 กิโลกรัม: ฉีดยาใต้ผิวหนัง 4,200 แอนตี้แฟคเตอร์ เทนเอ อินเตอร์เนชั่นแนล ยูนิต วันละ 2 ครั้ง
- ผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักตัวมากกว่า 60 กิโลกรัม: ฉีดยาใต้ผิวหนัง 6,300 แอนตี้แฟคเตอร์ เทนเอ อินเตอร์เนชั่นแนล ยูนิต วันละ 2 ครั้ง
ทั้งนี้:
- แพทย์อาจให้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดชนิดรับประทานร่วมด้วย
- ทั่วไป การใช้ยาเรวิพารินรักษาภาวะลิ่มเลือดอุดตันจะใช้เวลาเวลาประมาณ 5–7 วัน
*อนึ่ง: เด็ก: การใช้ยานี้และขนาดยานี้ในเด็กในทุกกรณี แพทย์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป *****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่ง เท่านั้นไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสม ควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาเรวิพาริน ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร ดังนี้
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจขัด/หายใจลำบาก
- มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ โดยเฉพาะยาแอสไพรินหรือ ยาต้านเกล็ดเลือด เพราะยาเหล่านั้นอาจส่งผลให้อาการของโรครุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาเรวิพารินกับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
เรวิพารินมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาเรวิพารินสามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์จากยา( ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกายดังนี้ เช่น
- ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก เลือดออกในทางเดินอาหาร
- ผลต่อระบบทางเดินหายใจ: เช่น หอบหืด เยื่อจมูกอักเสบ
- ผลต่อผิวหนัง: เช่น เลือดออกตามผิวหนัง เลือดออกตามเยื่อเมือกของร่างกาย ผมร่วงเป็นหย่อมๆ เกิดผื่นคัน ลมพิษ
- ผลต่อระบบประสาท: เช่น ปวดศีรษะ มีไข้ ปวดตามร่างกาย
- ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด: เช่น ความดันโลหิตต่ำ
- ผลต่อระบบการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย: เช่น เกิดภาวะโปแตสเซียมในเลือดสูง
- ผลต่อระบบเลือด: เช่น เกิดภาวะเกล็ดเลือดต่ำอย่างรุนแรง มีภาวะเลือดออกง่าย
*อนึ่ง การได้รับยาเรวิพารินเกินขนาด จะส่งผลให้เกิดเลือดออกง่ายตามร่างกาย ที่แพทย์จะรักษาอาการดังกล่าวโดยให้ยา Protamine sulfate เข้าทางหลอดเลือดดำอย่างช้าๆ
มีข้อควรระวังการใช้เรวิพารินอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาเรวิพาริน เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้หรือส่วนประกอบอื่นในสูตรตำรับยานี้
- ห้ามฉีดยานี้เข้ากล้ามเนื้อ หรือเข้าหลอดเลือด ให้ฉีดยาเข้าใต้ผิวหนังตามคำสั่งแพทย์
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะมีเลือดออกหรือขณะตกเลือด
- ห้ามใช้ยานี้กับ สตรีมีครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร เด็ก และผู้สูงอายุ นอกจาก มีคำสั่งแพทย์
- ห้ามใช้ยาที่มีสภาพเปลี่ยนไปจากเดิม เช่น มีเศษผงปนเปื้อนในยา
- ระหว่างได้รับยานี้แล้วเกิดภาวะเลือดออกง่าย หรือพบเลือดปนมากับอุจจาระ/อุจจาระเป็นเลือด ปัสสาวะเป็นเลือด ต้องหยุดการใช้ยานี้ทันที แล้วรีบมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด ไม่ต้องรอจนถึงวันแพทย์นัด
- หลีกเลี่ยงการเกิดบาดแผลต่างๆด้วยอาจเกิดภาวะเลือดไหลออกเป็นปริมาณมาก
- ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของ แพทย์ พยาบาล เภสัชกร อย่างเคร่งครัด และมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลตามแพทย์นัดทุกครั้ง
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาเรวิพารินด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้ง ควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ
เรวิพารินมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาเรวิพารินมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาเรวิพารินร่วมกับยาNitroglycerin ด้วยจะทำให้ประสิทธิภาพของยาเรวิพารินด้อยลง
- ห้ามรับประทานยาAspirin ขณะที่ได้รับยาเรวิพาริน ด้วยเสี่ยงต่อภาวะเลือดออกง่ายมากยิ่งขึ้น
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาเรวิพารินร่วมกับยาACE inhibitor หรือ Angiotensin II receptor antagonists เพราะเสี่ยงต่อภาวะโปแตสเซียมในเลือดสูงผิดปกติ
ควรเก็บรักษาเรวิพารินอย่างไร?
ควรเก็บรักษายาเรวิพารินตามเงื่อนไขในเอกสารกำกับยา ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งตู้เย็น เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อนและความชื้น และเก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
เรวิพารินมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาเรวิพาริน มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น
เรวิพารินมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาเรวิพาริน มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
CLIVARINE (คลิวารีน) | Abbott |
บรรณานุกรม
- https://en.wikipedia.org/wiki/Reviparin_sodium [2018,May12]
- http://www.mims.com/thailand/drug/info/reviparin%20sodium/?type=brief&mtype=generic [2018,May12]
- https://www.drugs.com/international/reviparin-sodium.html [2018,May12]
- https://www.drugbank.ca/drugs/DB09259 [2018,May12]
- https://www.google.co.th/search?q=antithrombin+iii+flow+chart&tbm=isch&tbo=u&source=univ&sa=X&ved=0ahUKEwi89tGY2aDaAhXHKo8KHXHECvYQsAQIJQ&biw=1920&bih=949#imgdii=7EELA16cQ6f7eM:&imgrc=dSUSLt8mvsMH7M: [2018,May12]