เท้าเหม็นช่วยได้ (ตอนที่ 2)
- โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
- 19 กันยายน 2562
- Tweet
ส่วนเชื้อที่พบได้น้อย เช่น
- Acinetobacter
- Clostridium
- Klebsiella
- Pseudomonas
โดยแบคทีเรียเหล่านี้สามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาวะที่ชื้นหรือเปียก ดังนั้นคนที่ปล่อยให้เท้าอับชื้นอยู่บ่อยๆ จึงมีโอกาสเป็นโรคนี้
แบคทีเรียที่ฝ่าเท้าและฝ่ามือจะสร้างเอนไซม์โปรตีเอส (Protease enzymes) มาย่อยผิวชั้นบนของหนังกำพร้า (Epidermis) ให้เป็นรูๆ นอกจากนี้แบคทีเรียยังสร้างสารประกอบกำมะถัน (Sulfur compounds) ที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นด้วย
อาการหลักของโรคเท้าเหม็นก็คือ มีกลิ่นไม่พึงประสงค์จากเท้า ฝ่าเท้าหรือฝ่ามือมักจะมีกลุ่มของรูที่ถูกเจาะ (Punched-out) ซึ่งสังเกตเห็นได้ชัดขณะที่ผิวเปียก และบางครั้งรูเหล่านี้สามารถเชื่อมต่อกัน (Coalesce) จนกลายเป็นแผลที่ใหญ่ขึ้น หรือบางทีก็ทำให้ผิวแดง รู้สึกปวด หรือคัน เมื่อมีแรงกดทับที่เท้าขณะเดิน
ปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคเท้าเหม็น ได้แก่
- อากาศที่ร้อนชื้น
- รองเท้าที่ปิด เช่น รองเท้าบูทยาง รองเท้านิรภัย
- เหงื่อออกมากที่ฝ่ามือและฝ่าเท้า(Hyperhidrosis)
- ผิวที่ฝ่ามือและฝ่าเท้าหนาผิดปกติ (Keratoderma)
- โรคเบาหวาน (Diabetes mellitus)
- อายุมาก
- ภูมิคุ้มกันบกพร่อง (Immunodeficiency)
โรคเท้าเหม็นเป็นโรคที่รักษาและป้องกันได้ง่าย และอาการมักจะหายในประมาณ 4 สัปดาห์ โดยอาชีพที่มีความเสี่ยง คือ
- ชาวนา
- นักกีฬา
- ลูกเรือหรือชาวประมง
- ผู้ที่ทำงานโรงงานอุตสาหกรรม
- ทหาร
แหล่งข้อมูล:
- Pitted Keratolysis. https://www.healthline.com/health/pitted-keratolysis [2019, September 17].
- Pitted keratolysis. https://www.dermnetnz.org/topics/pitted-keratolysis/ [2019, September 17].
- Pitted keratolysis https://en.wikipedia.org/wiki/Pitted_keratolysis [2019, September 17]. .