เทลมิซาร์แทน (Telmisartan)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 7 ธันวาคม 2559
- Tweet
- บทนำ
- เทลมิซาร์แทนมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
- เทลมิซาร์แทนมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- เทลมิซาร์แทนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- เทลมิซาร์แทนมีขนาดรับประทานอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- เทลมิซาร์แทนมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้เทลมิซาร์แทนอย่างไร?
- เทลมิซาร์แทนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาเทลมิซาร์แทนอย่างไร?
- เทลมิซาร์แทนมีชื่ออื่นอีกไหม?ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- ความดันโลหิตสูง (Hypertension)
- แอนจิโอเทนซิน II รีเซพเตอร์ แอนตาโกนิสต์ (Angiotensin II receptor antagonist)
- โรคหัวใจ: โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary artery disease)
- โรคหลอดเลือด โรคเส้นเลือด (Blood vessel disease)
- ยาลดความดัน ยาลดความดันเลือดสูง ยาลดความดันโลหิตสูง (Antihypertensive drug)
- โรคหัวใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด (Heart disease หรือ Cardiovascular disease)
บทนำ
ยาเทลมิซาร์แทน(Telmisartan) เป็นยาในกลุ่ม แอนจิโอเทนซิน II รีเซพเตอร์ แอนตาโกนิสต์ (Angiotensin II receptor antagonist) ทางคลินิกนำมารักษาโรคความดันโลหิตสูง (Essential hypertension) มีวางจำหน่ายตั้งแต่ ปีค.ศ.1999 (พ.ศ.2542) ภายใต้ชื่อการค้าว่า “Micardis” รูปแบบผลิตภัณฑ์ยานี้จะเป็นยาชนิดรับประทาน โดยหลังการดูดซึมจากระบบทางเดินอาหาร ยาเทลมิซาร์แทนจะกระจายตัวในกระแสเลือดได้ ประมาณ 42 – 100% จากนั้นจะเข้ารวมตัวกับพลาสมาโปรตีนได้มากกว่า 99.5% ปกติร่างกายต้องใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมง เพื่อกำจัดยานี้ออกจากกระแสเลือด โดยผ่านไปกับอุจจาระ
ยาเทลมิซาร์แทน ถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับผู้ใหญ่เท่านั้น ห้ามใช้กับสตรีตั้งครรภ์ด้วยตัวยาสามารถผ่านรกและเข้าถึงทารก จนอาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและการทำงานของไตของทารกในครรภ์จนถึงขั้นทำให้ทารกเสียชีวิตได้ และยาเทลมิซาร์แทนยังสามารถขับผ่านออกทางน้ำนมมารดา จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้กับสตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตรด้วยเช่นกัน
ข้อจำกัดอื่นของการใช้ยาเทลมิซาร์แทนที่ผู้ที่บริโภค/ผู้ป่วย ควรทราบเพิ่มเติมมีดังนี้ เช่น
- หยุดการใช้ยานี้ แล้วมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลทันที/ฉุกเฉิน เมื่อพบว่ามีความดันโลหิตต่ำ หรือมีอาการบวมตามร่างกาย เช่น มือ-ใบหน้า-ปาก-ลิ้น และ/หรือหายใจลำบาก
- การใช้ยาเทลมิซาร์แทนร่วมกับยาอื่นๆ ต้องขอคำปรึกษาจากแพทย์เท่านั้น ด้วยยาเทลมิซาร์แทน สามารถก่อให้เกิดภาวะยาตีกัน(ปฏิกิริยาระหว่างยา)กับยาอื่นๆได้ อย่างเช่น ยาขับปัสสาวะ, ยากลุ่มACE inhibitor, NSAID, Digoxin รวมถึงยาอื่นๆอีกหลายรายการที่ไม่สามารถระบุในบทความนี้ได้หมด
- ยานี้สามารถก่อให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะจนถึงขั้นเป็นลม จึงห้ามรับประทานร่วมกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ ด้วยจะทำให้ผลข้างเคียงดังกล่าว รุนแรงขึ้น
- ห้ามปรับขนาดรับประทานโดยมิได้ขอคำปรึกษาจากแพทย์ ด้วยเสี่ยงต่อ ผลข้างเคียงที่อาจตามมา หรือทำให้การลดความดันโลหิตล้มเหลว
- การรับประทานยาเทลมิซาร์แทนเมื่อร่างกายอยู่ในภาวะเสียน้ำ/ภาวะขาดน้ำ เช่น ท้องเสีย จะสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดความดันโลหิตต่ำ จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาเทลมิซาร์แทนเมื่อมีอาการท้องเสีย หรือมีภาวะร่างกายขาดน้ำ
- รับประทานยานี้ตรงตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด การรับประทานยานี้เกินขนาดจะทำให้เกิดอาการเป็นลม ชีพจรเต้นเร็วหรือไม่ก็ช้า วิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรง ซึ่งผู้ที่ได้รับยานี้เกินขนาด ควรต้องนำส่งโรงพยาบาลทันที/ฉุกเฉิน
- การใช้ยาลดความดันโลหิตที่รวมถึงยาเทลมิซาร์แทน ผู้ป่วยจะต้องมารับการตรวจร่างกายตามที่แพทย์นัดหมายทุกครั้ง ทั้งนี้เพื่อติดตามผลการรักษา และเพื่อการตรวจเลือดเพื่อดูสมดุลของสารอิเล็กโทรไลต์(Electrolyte)ภายในเลือดที่อาจผิดปกติจากการใช้ยานี้ได้
- ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว อย่างเช่น หัวใจล้มเหลว โรคหลอดเลือด โรคตับ โรคไต โรคเบาหวาน โรคถุงน้ำดีอักเสบ ควรต้องแจ้ง แพทย์ พยาบาล เภสัชกร ทราบทุกครั้งเมื่อเข้ามาตรวจรักษา ด้วยอาการโรคประจำตัวดังกล่าว อาจได้รับผลกระทบ(อาการแย่ลง)มากขึ้นเมื่อใช้ยาเทลมิซาร์แทน
- ผู้ที่มีประวัติแพ้ยากลุ่มซาร์แทน
ยาเทลมิซาร์แทนสามารถก่อให้เกิดอาการข้างเคียง(ผลข้างเคียง)ที่พบเห็นได้บ่อย เช่น ปวดหลัง ท้องเสีย ปวดไซนัส และแน่น/คัดจมูก
สำหรับตลาดยาของบ้านเรา อาจพบเห็นผลิตภัณฑ์ยาทลมิซาร์แทนที่มีสูตรตำรับเป็นยาเดี่ยว หรือประเภทที่มียาลดความดันโลหิตชนิดอื่นอย่าง Amlodipine ผสมอยู่ด้วย การจะเลือกใช้เป็นลักษณะยาเดี่ยวหรือใช้สูตรตำรับผสมนั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา ประกอบกับยาเทลมิซาร์แทนถูกจัดอยู่ในหมวดยาอันตราย ผู้ป่วย/ผู้บริโภค จึงจำเป็นต้องใช้ยานี้ตามคำสั่งแพทย์แต่เพียงผู้เดียว
เทลมิซาร์แทนมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
ยาเทลมิซาร์แทนมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้ เช่น
- รักษาโรคความดันโลหิตสูง
- ลดความเสี่ยงของการเกิด โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือด
เทลมิซาร์แทนมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
ยาเทลมิซาร์แทนมีกลไกการออกฤทธิ์โดย ตัวยาจะออกฤทธิ์กับตัวรับ(Receptor) ที่อยู่ในผนังหลอดเลือดซึ่งถูกเรียกว่า AT1 receptor (Angiotensin 1 receptor) ส่งผลที่ต่อเนื่องทำให้สาร Angiotensin II ไม่สามารถแสดงฤทธิ์ที่ทำให้ หลอดเลือดหดตัว จึงเกิดการคลายตัวของหลอดเลือดตามมา นอกจากนี้ยังส่งผลลดการหลั่งสาร Aldosterone ซึ่งเป็นฮอร์โมนจากต่อมหมวกไตที่ทำให้ร่างกายมีการคั่งของเกลือโซเดียมและน้ำ(ส่งผลเกี่ยวข้องกับการควบคุมความดันโลหิตของร่างกาย) จากกลไกดังกล่าวมาแล้วทั้งหมด ทำให้ยานี้มีฤทธิ์สนับสนุนการลดความดันโลหิตได้ตามสรรพคุณ
เทลมิซาร์แทนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาเทลมิซาร์แทนมีรูปแบบการจัดจำหน่าย เช่น
- ยาเม็ดชนิดรับประทานขนาด 20, 40, และ 80 มิลลิกรัม / เม็ด
- ยาเม็ดชนิดรับประทานที่ผสมร่วมกับยาอื่น เช่น Telmisartan 40 มิลลิกรัม + Amlodipine besilate 5 มิลลิกรัม / เม็ด, Telmisartan 40 มิลลิกรัม + Amlodipine besilate 10 มิลลิกรัม / เม็ด, Telmisartan 80 มิลลิกรัม + Amlodipine besilate 5 มิลลิกรัม / เม็ด, Telmisartan 80 มิลลิกรัม + Amlodipine besilate 10 มิลลิกรัม / เม็ด
เทลมิซาร์แทนมีขนาดรับประทานอย่างไร?
ยาเทลมิซาร์แทนมีขนาดรับประทาน เช่น
ก. รักษาโรคความดันโลหิตสูง:
- ผู้ใหญ่: เริ่มต้นรับประทานยา 40 มิลลิกรัม วันละครั้ง ขนาดที่คงระดับการรักษาอยู่ที่ 40 – 80 มิลลิกรัม วันละครั้ง
ข.ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือด:
- ผู้ใหญ่: รับประทานยา 80 มิลลิกรัม วันละครั้ง
อนึ่ง:
- สามารถรับประทานยานี้ ก่อนหรือหลัง อาหารก็ได้
- เด็ก: ยังไม่มีข้อมูลทางคลินิกด้านความปลอดภัยและขนาดยานี้ในเด็ก การใช้ยานี้ในเด็กจึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีๆไป
- หลังการใช้ยานี้ ตัวยาจะเริ่มแสดงฤทธิ์การลดความดันโลหิต ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อการปรับขนาดรับประทานที่เหมาะสม และจะเห็นประสิทธิผลสูงสุดของการใช้ยานี้ แพทย์จึงมักนัดผู้ป่วยประมาณ 4 สัปดาห์ หลังเริ่มรับประทานยานี้
- การใช้เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด แพทย์มักพิจารณาใช้ยานี้กับกลุ่มผู้ป่วยที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป
- ไม่ต้องปรับขนาดรับประทานในผู้ป่วยโรคไต และผู้ที่ต้องฟอกเลือดล้างไต
- สำหรับผู้ป่วยโรคตับ แพทย์มักให้เริ่มรับประทานยานี้ในขนาดต่ำๆก่อน แล้วจึงค่อยๆพิจารณาปรับขนาดยาตามความเหมาะสมกับผู้ป่วยเป็นกรณีๆไป
- ขณะใช้ยานี้แล้วเกิดการตั้งครรภ์ขึ้นมา ต้องหยุดใช้ยานี้ แล้วรีบมาพบสูติแพทย์เพื่อการฝากครรภ์คลอด พร้อมกับปรับแนวทางการรักษาโรคความดันโลหิตสูง
*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียง ตัวอย่างหนึ่งเท่านั้นไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาเทลมิซาร์แทน ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร ดังนี้
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
- มีโรคประจำตัวต่างๆ อย่างเช่น หัวใจล้มเหลว โรคหลอดเลือด โรคตับ โรคไต โรคเบาหวาน โรคถุงน้ำดี/โรคถุงน้ำดีอักเสบ รวมถึงกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาเทลมิซาร์แทน อาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรี ควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนม หรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
หากลืมรับประทานยาเทลมิซาร์แทน สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มขนาดรับประทานเป็น 2เท่า
อย่างไรก็ดี เพื่อประสิทธิผลของการรักษา ควรรับประทานยาเทลมิซาร์แทน ให้ตรงเวลา
เทลมิซาร์แทนมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาเทลมิซาร์แทนสามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์(ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกายดังนี้ เช่น
- ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น ท้องเสียหรือท้องผูก อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้ ปวดท้อง ท้องอืด อาเจียน ปากแห้ง รู้สึกไม่สบายในช่องท้อง กระเพาะอาหารอักเสบ เกิดริดสีดวงทวาร ลำไส้อักเสบ กรดไหลย้อน ปวดฟัน
- ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด: เช่น ความดันโลหิตต่ำหรือไม่ก็สูง ชีพจรเต้นผิดปกติ หัวใจเต้นผิดจังหวะ(Atrial fibrillation) หัวใจล้มเหลว
- ผลต่อระบบทางเดินหายใจ: เช่น ไอ โรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน ไซนัสอักเสบ คออักเสบ หลอดลมอักเสบ หอบหืด เยื่อจมูกอักเสบ หยุดหายใจ
- ผลต่อกล้ามเนื้อ: เช่น ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ กล้ามเนื้อเกร็งตัว/เป็นตะคริว ปวดเส้นเอ็น อาจเกิดภาวะกล้ามเนื้อลายสลาย
- ผลต่อระบบประสาท: เช่น ปวดศีรษะ วิงเวียน ง่วงนอน ปวดศีรษะไมเกรน ความรู้สึกสัมผัสเพี้ยน
- ผลต่อผิวหนัง: เช่น มีผื่นคัน เป็นแผลที่ผิวหนังง่าย ผื่นผิวหนังอักเสบ ลมพิษ
- ผลต่อระบบทางเดินปัสสาวะ: เช่น ท่อปัสสาวะอักเสบ หลั่งน้ำอสุจิลำบาก
- ผลต่อระบบภูมิคุ้มกันต้านทานโรค: เช่น เกิดการติดเชื้อ อย่างเชื้อราได้ง่าย เกิดฝีได้ง่าย หูชั้นกลางอักเสบ
- ผลต่อระบบการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย: เช่น เกิดภาวะเบาหวาน ระดับเกลือโพแทสเซียมในเลือดสูง และ คอเลสเตอรอลในเลือดสูง ผู้ป่วยบางรายอาจมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
- ผลต่อระบบเลือด: เช่น โลหติจาง เกิดภาวะ Eosinophilia(เม็ดเลือดขาวชนิด Eosinophil ในเลือดสูง) Thrombocytopenia(ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ)
- ผลต่อไต: เช่น ไตวายเฉียบพลัน ค่าครีเอตินิ(Creatinine)ในเลือดเพิ่มสูง
- ผลต่อตับ: เช่น ตับทำงานผิดปกติ/ตับอักเสบ ค่าเอนไซม์การทำงานของตับในเลือดสูงขึ้น
- ผลต่อตา: เช่น เยื่อตาอักเสบ
มีข้อควรระวังการใช้เทลมิซาร์แทนอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาเทลมิซาร์แทน เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
- ห้ามใช้กับสตรีตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร และเด็ก
- ห้ามปรับขนาดรับประทานด้วยตนเอง
- ระหว่างการรักษาโรคความดันโลหิตสูง ควรต้องควบคุมอาหาร พักผ่อน ออกกำลังกาย ตามคำแนะนำของ แพทย์ พยาบาล เภสัชกร เสมอ
- ตรวจวัดความดันโลหิตด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของแพทย์ พยาบาล เภสัชกร หากพบว่ามีภาวะความดันโลหิตต่ำหรือสูงขณะที่มีการใช้ยาเทลมิซาร์แทน ให้ผู้ป่วยรีบมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลก่อนนัด เพื่อแพทย์พิจารณาปรับแนวทางการรักษา
- แจ้ง แพทย์ พยาบาล เภสัชกร ทุกครั้งว่ามีการใช้ยาอื่นๆอะไรอยู่บ้าง เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะยาตีกัน(ปฏิกิริยาระหว่างยา)กับยาทลมิซาร์แทน
- มาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลตามแพทย์นัดทุกครั้ง
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาเทลมิซาร์แทนด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิด อาหารเสริมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และสมุนไพร ต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้ง ควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บhaamor.comบทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมถึงต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ
เทลมิซาร์แทนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาเทลมิซาร์แทนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- ห้ามรับประทานยาเทลมิซาร์แทนร่วมกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ด้วยจะทำให้เกิดความดันโลหิตต่ำ ปวดศีรษะ วิงเวียน เป็นลม และหัวใจเต้นผิดปกติ
- ห้ามใช้ยาเทลมิซาร์แทนร่วมกับยา Aliskiren ด้วยจะเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายกับไต/ไตอักเสบ ความดันโลหิตต่ำ ระดับเกลือโพแทสเซียมในเลือดสูง กล้ามเนื้อเป็นอัมพาต หัวใจเต้นผิดจังหวะ จนถึงขั้นหัวใจหยุดเต้น
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาเทลมิซาร์แทนร่วมกับยา Spironolactone ด้วยจะทำให้ระดับ เกลือโพแทสเซียมในเลือดสูง และทำให้มีภาวะไตวายตามมา กล้ามเนื้อเป็นอัมพาต หัวใจเต้นผิดจังหวะ จนถึงขั้นหยุดเต้น
ควรเก็บรักษาเทลมิซาร์แทนอย่างไร?
ควรเก็บยาเทลมิซาร์แทนภายใต้อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส(Celsius) ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสงแดด ความร้อนและความชื้น ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์ และเก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
เทลมิซาร์แทนมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาเทลมิซาร์แทนที่จำหน่ายในประเทศไทย มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Micardis (ไมคาร์ดิส) | Boehringer Ingelheim |
Twynsta (ทวินสตา) | Boehringer Ingelheim |
อนึ่ง ยาชื่อการค้าอื่นของยานี้ในต่างประเทศ เช่น Cortel-A, A2BH, Adcom H, Angitel-H, Amodep-TM, Arbitel-H, Aritel-A, Astel-H, Axeten-H, Cortel-H, Cilacar,Biotel-40H, Arbitel-H
บรรณานุกรม
- https://en.wikipedia.org/wiki/Telmisartan [2016,Nov19]
- http://www.mims.com/thailand/drug/info/twynsta/?type=brief [2016,Nov19]
- http://www.mims.com/thailand/drug/info/telmisartan/?type=brief&mtype=generic [2016,Nov19]
- https://www.drugs.com/pro/telmisartan.html [2016,Nov19]
- http://docs.boehringer-ingelheim.com/Prescribing%20Information/PIs/Micardis%20Tabs/MICARDIS20-40-80mg.PDF [2016,Nov19]
- http://www.mims.com/malaysia/drug/info/micardis [2016,Nov19]