ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจน (Conjugated estrogens) หรือ พรีมาริน (Premarin)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 29 มีนาคม 2563
- Tweet
- บทนำ
- ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
- ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนมีขนาดรับประทานหรือการใช้อย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนอย่างไร?
- ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนอย่างไร?
- ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- วัยหมดประจำเดือน (Menopause)
- การตัดมดลูก (Hysterectomy)
- ภาวะช่องคลอดแห้ง (Vaginal dryness) / ภาวะร้อนวูบวาบในวัยหมดประจำเดือน (Hot flashes in postmenopause)
- กระดูกพรุน โรคกระดูกบาง (Osteoporosis and Osteopenia)
- เอสโทรน (Estrone)
- มะเร็งเต้านม (Breast cancer)
บทนำ
ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจน (Conjugated estrogens) หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อยาฮอร์โมน พรีมาริน (Premarin) เป็นฮอร์โมนที่นำมาให้ทดแทนในสตรีที่มีภาวะขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งวัตถุดิบที่นำมาผลิตฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจน คือ ปัสสาวะของม้าเพศเมียที่อยู่ในภาวะตั้งครรภ์ โดยการสกัดออกมาซึ่งจะได้ส่วนประกอบของฮอร์โมนเอสโตรเจน 3 กลุ่ม คือ Estrone, Equilin, และ Equilenin โดยเฉพาะ Estrone เป็นตัวที่สกัดได้เปอร์เซ็นต์มากที่สุด เมื่อนำมาผลิตเป็นยาจะอยู่ในรูป Estrone sulfate ซึ่งสามารถดูดซึมได้ดีจากระบบทางเดินอาหาร
รูปแบบยาแผนปัจจุบันของฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจน มีทั้ง ยาเม็ด ยาฉีด และยาครีม คณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขของไทยได้บรรจุฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนลงในบัญชียาหลักแห่งชาติทั้ง 3 รูปแบบ (ยาเม็ด ยาฉีด ยาครีม)
ด้วยยาฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนเป็นยากลุ่มฮอร์โมน จึงมีความไวในการเกิดปฏิกิริยากับ ร่างกายคนมาก การใช้ที่ปลอดภัยจึงต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้รักษาเท่านั้น
ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้ เช่น
- บรรเทาอาการภายหลังหมดประจำเดือน (วัยหมดประจำเดือน) ด้วยมีฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำ
- บรรเทาอาการโรคกระดูกพรุนในหญิงวัยหมดประจำเดือน
- บรรเทาอาการแห้ง แสบคันของช่องคลอด (ภาวะช่องคลอดแห้ง)
ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
กลไกการออกฤทธิ์ของยาฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนคือ ตัวยาจะเข้าไปที่อวัยวะที่ตอบ สนองต่อฮอร์โมนนี้ เช่น อวัยวะเพศ เต้านม สมองส่วนไฮโปทาลามัส ต่อมใต้สมองโดยจะเข้าไปจับกับตัวรับฮอร์โมน (Hormone receptor) และช่วยให้มีการสังเคราะห์สารพันธุกรรม เช่น DNA และ RNA นอกจากนี้ยังช่วยให้เกิดการสังเคราะห์โปรตีนบางตัวในร่างกายอีกด้วย ด้วยความเกี่ยว เนื่องจากกลไกที่กล่าวมาข้างต้น จึงทำให้ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนมีฤทธิ์ในการรักษาตามสรรพคุณ
ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนมีรูปแบบการจัดจำหน่าย เช่น
- รูปแบบยาเม็ด ขนาด 0.3 และ 0.625 มิลลิกรัม/เม็ด
- รูปแบบยาฉีด ขนาด 25 มิลลิกรัม
- รูปแบบยาครีม ขนาด 625 ไมโครกรัม/กรัม
ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนมีขนาดรับประทานหรือการใช้อย่างไร?
ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนมีขนาดรับประทานหรือการใช้ เช่น
ก. รักษาอาการหลังวัยหมดประจำเดือน: เช่น รับประทานวันละ 0.625 - 1.25 มิลลิกรัม/วัน
ข. รักษาภาวะ/โรคกระดูกพรุน: เช่น รับประทานวันละ 0.625 มิลลิกรัม/วัน
ค. รักษาภาวะฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำในสตรีเพศ: เช่น รับประทานวันละ 0.3 - 1.25 มิลลิ กรัม/วัน
ง. บรรเทาอาการ แห้ง แสบคันบริเวณช่องคลอด/ ช่องคลอดแห้ง : เช่น รับประทานวันละ 0.3 - 1.25 มิลลิ กรัม/วัน
อนึ่ง สามารถรับประทานฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ ขนาดรับ ประทานควรเป็นไปตามคำแนะนำของแพทย์ ห้ามมิให้ผู้ป่วยปรับขนาดรับประทานเอง
จ. ยาครีมทาบรรเทาอาการแห้ง แสบคันบริเวณช่องคลอด: เช่น ทาภายในช่องคลอด 0.5 - 2 กรัม/วัน โดยทา 3 สัปดาห์และหยุด 1 สัปดาห์
ฉ. ยานี้ในรูปแบบยาฉีด ใช้เพื่อการรักษาภาวะเลือดออกจากมดลูกผิดปกติ: ซึ่งการสั่งใช้ยาจะต้องอยู่ในดุลพินิจของแพทย์เท่านั้น
*****หมายเหตุ: ขนาดยา และระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ผู้รักษาได้ การใช้ยาที่เหมาะสม ควรต้องปรึกษา แพทย์ หรือเภสัชกร ก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดที่รวมถึงฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจน ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรดังนี้ เช่น
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
- มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาหรืออาหารเสริมอะไรอยู่ เพราะยาฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆและ/หรืออาหารเสริมที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารก จนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
หากลืมรับประทานยาฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจน สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนสามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์จากยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) เช่น
- เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน
- ปวดท้อง
- ตับอ่อนอักเสบ
- มีเลือดซึมบริเวณอวัยวะเพศ
- เจ็บหน้าอกจาก เต้านมคัดตึง และมีการขยายของหน้าอก (เต้านม)
- มีภาวะนิ่วในถุงน้ำด
- ผื่นคัน
- ปวดศีรษะ
- ไมเกรน
- วิงเวียน
- อารมณ์แปรปรวน
- ซึมเศร้า
- ผมร่วง
- มีลมพิษ และผื่นผิวหนังที่ขึ้น บวม
- มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
มีข้อควรระวังการใช้ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจน เช่น
- ห้ามช้กับผู้แพ้ยานี้
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยที่มีประวัติเนื้องอก เนื่องมาจากฮอร์โมนเอสโตรเจนอาจส่งผลให้เนื้องอกเจริญเติบโตได้รวดเร็วขึ้น
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยที่มีประวัติหรือมีแนวโน้มป่วยด้วยโรคมะเร็งเต้านม
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยที่มีภาวะเลือดออกจากอวัยวะเพศโดยไม่ทราบสาเหตุ
- ห้ามใช้ยานี้กับ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยด้วยโรคตับ
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ที่มีภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ
- ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วยด้วย โรคหัวใจ และโรคไต ผู้ที่มีประวัติดีซ่านชนิด Cholestatic jaundice ผู้ป่วยโรคลมชัก ผู้ป่วยไมเกรน ผู้ป่วยโรคหืด
- ระวังการใช้ยานี้กับผู้ที่มีภาวะเสี่ยงของโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งเต้านม
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารแสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตาม ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน
ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- การใช้ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนร่วมกับยากลุ่มสเตียรอยด์ เช่นยา Dexamethazone สา มารถทำให้ร่างกายได้รับผลข้างเคียงของ Dexamethazone มากขึ้น แพทย์จะเป็นผู้ปรับขนาดการรับประทานให้เหมาะสมต่อคนไข้
- การใช้ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนร่วมกับยาต้านเชื้อวัณโรค เช่นยา Rifampin ยารักษาโรคลมชัก เช่นยา Phenytoin พบว่าฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนจะถูกลดความเข้มข้นและมีประ สิทธิผลในการรักษาด้อยลงไป แพทย์จะเป็นผู้ปรับขนาดรับประทานของยาทั้ง 2 กลุ่มที่เหมาะ สมให้กับคนไข้
- ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนสามารถรบกวนหรือลดประสิทธิภาพในการรักษาของยาลดน้ำตาลในเลือด (ยาเบาหวาน) เช่นยา Metformin แพทย์จะเป็นผู้ปรับขนาดรับประทานที่เหมาะสมให้กับคนไข้เป็นรายบุคคลไป
ควรเก็บรักษาฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนอย่างไร?
ควรเก็บรักษาฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจน เช่น
- ยาเม็ดและยาครีม: เก็บภายใต้อุณหภูมิ 15 - 30 องศาเซลเซียส (Celsius)
- ยาฉีด: เก็บภายใต้อุณหภูมิ 2 - 8 องศาเซลเซียส
- นอกจากนี้ การเก็บยาฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนทุกรูปแบบ: ควรเก็บดัวนี้เช่น
- ควรเก็บให้พ้นแสง/ แสงแดดและความชื้น
- เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- และไม่ควรเก็บยาในห้องน้ำ
ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจน มียาชื่อการค้าอื่น และบริษัทผู้ผลิต เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Estromon (เอสโทรมอน) | Standard Chem & Pharm |
Premarin (พรีมาริน) | Pfizer |
Premarin IV (พรีมาริน ไอวี) | Wyeth |
Premarin Vaginal Cream (พรีมาริน วาจไนอล ครีม) | Pfizer |
บรรณานุกรม
1 http://en.wikipedia.org/wiki/Premarin [2020,Mach 21]
2 http://www.mims.com/Thailand/drug/info/Premarin/[2020,Mach 21]
3 http://www.mims.com/Thailand/drug/info/Premarin%20Vaginal%20Cream/?type=brief[2020,Mach 21]
4 http://www.drugbank.ca/drugs/DB00286 [2020,Mach 21]
5 http://www.drugs.com/drug-interactions/conjugated-estrogens-index.html?filter=2[2020,Mach 21]
6 http://www.medicinenet.com/estrogens_conjugated/article.htm[2020,Mach 21]