อะดาลิมูแมบ (Adalimumab)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 24 พฤศจิกายน 2560
- Tweet
- บทนำ
- อะดาลิมูแมบมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
- อะดาลิมูแมบมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- อะดาลิมูแมบมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- อะดาลิมูแมบมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมมารับยาควรทำอย่างไร?
- อะดาลิมูแมบมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้อะดาลิมูแมบอย่างไร?
- อะดาลิมูแมบมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาอะดาลิมูแมบอย่างไร?
- อะดาลิมูแมบมีชื่ออื่นอีกไหม?ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- ยายับยั้งทีเอ็นเอฟ (TNF inhibitors)
- ข้อสันหลังอักเสบยึดติด (Ankylosing spondylitis)
- โรคข้อรูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis)
- โรคโครห์น (Crohn’s disease)
- โรคลำไส้ใหญ่อักเสบเป็นแผลเรื้อรัง (Ulcerative colitis)
บทนำ
ยาอะดาลิมูแมบ(Adalimumab) อยู่ในกลุ่มยาTumor Necrosis Factor inhibitors หรือเขียนย่อว่า TNF inhibitors(ยายับยั้งทีเอ็นเอฟ) ทางคลินิกนำยาอะดาลิมูแมบมาใช้บำบัดอาการของกลุ่มโรคภูมิคุ้มกันเล่นงานตนเอง(โรคออโตอิมมูน) เช่น ข้อสันหลังอักเสบยึดติด โรคข้อรูมาตอยด์ โรคโครห์น โรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน ลำไส้ใหญ่อักเสบเป็นแผลเรื้อรัง เป็นต้น
สำหรับ Tumor Necrosis Factor(TNF) เป็นเซลล์โปรตีนในร่างกายที่มีความเกี่ยวพันกับกระบวนการอักเสบของเนื้อเยื่อต่างๆของร่างกาย มีหน้าที่ช่วยยับยั้งการแบ่งเซลล์เนื้องอก(Inhibit tumorigenesis) ยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส และยังตอบสนองต่อต้านเมื่อร่างกายเกิดการติดเชื้อโรคต่างๆ กลไกการทำงานของ Tumor Necrosis Factor ยังช่วยกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาว ที่มีชื่อว่าMacrophage ให้คอยทำหน้าที่กินสิ่งแปลกปลอม เช่น เชื้อโรค และเซลล์มะเร็ง กระบวนการดังกล่าวนี้เองที่ทำให้เกิดสภาพการอักเสบของเนื้อเยื่อ/อวัยวะ ต่างๆในร่างกายตามมา
ทางการแพทย์พบว่า ยาอะดาลิมูแมบ มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของ Tumor Necrosis Factor ส่งผลให้บรรเทาอาการจากการอักเสบของผู้ป่วยดีขึ้นเป็นลำดับ รูปแบบเภสัชภัณฑ์ของยานี้เป็นยาฉีด โดยต้องฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ตัวยานี้จะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้ประมาณ 64% และต้องใช้เวลานานประมาณ 3–8 วัน เพื่อให้ยาอะดาลิมูแมบมีระดับสูงสุดในกระแสเลือด ร่างกายต้องใช้เวลานานประมาณ 10–20 วัน เพื่อกำจัดยานี้ออกจากร่างกาย นอกจากนั้น ยาอะดาลิมูแมบสามารถผ่านเข้ารก และน้ำนมของมารดา จึงไม่เหมาะที่จะนำมาใช้กับสตรีมีครรภ์/ตั้งครรภ์ และสตรีในภาวะให้นมบุตร
มีข้อควรระวัง-ข้อห้ามใช้ ของยาอะดาลิมูแมบที่ผู้บริโภค/ผู้ป่วยควรทราบ ดังนี้ เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยาหรือแพ้ส่วนประกอบของยาอะดาลิมูแมบ
- ห้ามใช้ยาอะดาลิมูแมบกับผู้ที่มีการติดเชื้อ ไวรัสตับอักเสบ บี วัณโรค โรคหวัด โรคไข้หวัดใหญ่ ฯลฯ เพราะจะทำให้อาการของโรคดังกล่าวมีอาการรุนแรงจนส่งผลเสียต่อผู้ป่วยได้มากขึ้น
- ยาอะดาลิมูแมบสามารถทำให้เกิดภาวะเลือดออกง่าย ผู้ที่ได้รับยานี้ต้องหลีกเลี่ยง กิจกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุที่จะส่งผลให้เลือดออกมาก
- ห้ามฉีดวัคซีนขณะได้รับยานี้ นอกจากการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน(ภูมิคุ้มกันต้านทานโรค)จะล้มเหลวแล้ว ผู้ป่วยยังอาจติดเชื้อจากวัคซีนดังกล่าวเสียเอง
- เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะยาตีกัน(ปฏิกิริยาระหว่างยา)กับยาชนิดอื่นๆกับยาอะดาลิมูแมบ ผู้ป่วยต้องแจ้ง แพทย์ พยาบาล เภสัชกร ทุกครั้งที่มีการใช้ยาชนิดใดๆอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเข้ารับการตรวจรักษาทุกครั้ง
- ผู้ป่วยกลุ่มสูงวัย (65 ปีขึ้นไป) อาจได้รับผลข้างเคียงจากการใช้ยาอะดาลิมูแมบ ได้มากกว่าผู้ป่วยกลุ่มอื่น
- ผู้ป่วยที่ใช้ยาอะดาลิมูแมบ จะมีโอกาสเกิดโรคติดเชื้อต่างๆได้ง่ายกว่าปกติ อาจสังเกตอาการของร่างกายที่ได้รับเชื้อที่ก่อโรคจากอาการต่างๆต่อไปนี้ เช่น มีไข้ หนาวสั่น เป็นแผลในคอหรือช่องปาก ปวดโพรงไซนัสต่างๆ ไอ เสมหะมาก ปวดขณะปัสสาวะ/ปัสสาวะขัด หรือกรณีเป็นแผลติดเชื้อ แผลจะมีอาการลุกลามมากขึ้น หากพบเหตุการณ์เหล่านี้ ต้องรีบนำผู้ป่วยมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลทันที
- *สำหรับผู้ป่วยที่อาจมีโอกาสแพ้ยาอะดาลิมูแมบ ให้สังเกตจากอาการ ผื่นคัน มีแผล พุพองเกิดขึ้น หรือเกิดผิวหนังลอก แน่นหน้าอก หายใจมีเสียงวี๊ด หายใจขัด/หายใจลำบาก ใบหน้า-ปาก-ริมฝีปาก-คอ-ลิ้นเกิดอาการบวม กรณีที่พบว่ามีอาการแพ้ยานี้ต้องรีบส่งตัวผู้ป่วยไปโรงพยาบาลทันที/ฉุกเฉิน
- ความเสี่ยงของการใช้ยาอะดาลิมูแมบอีกประการหนึ่งคือ สามารถทำให้ผู้ป่วยเกิดโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง รวมถึงมะเร็งชนิดอื่นๆได้ ถ้าใช้ยาต่อเนื่องเป็นเวลานาน ทั้งนี้เป็นด้วยฤทธิ์ของยาอะดาลิมูแมบที่ยับยั้งกระบวนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายนั่นเอง
ขณะที่ใช้ยาอะดาลิมูแมบ แพทย์จะนัดผู้ป่วยมาตรวจร่างกาย เพื่อดูความก้าวหน้าของการรักษา รวมถึงดูภาวะแทรกซ้อน(ผลข้างเคียง)ต่างๆ ตลอดจนตรวจสอบว่า มีการติดเชื้อใดๆเกิดขึ้นหรือไม่
ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยการใช้ยาอะดาลิมูแมบเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้จากแพทย์หรือจากเภสัชกรในสถานพยาบาลที่เข้ารับการรักษาได้ตลอดเวลา
อะดาลิมูแมบมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
ยาอะดาลิมูแมบมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้เพื่อ บำบัดอาการของกลุ่มโรคภูมิคุ้มกันเล่นงานตนเอง(โรคออโตอิมูน) อาทิ
- ข้อสันหลังอักเสบยึดติด(Ankylosing spondylitis)
- โรคข้อรูมาตอยด์(Rheumatoid arthritis)
- โรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน(Psoriatic arthritis)
- โรคโครห์น(Crohn's disease)
- ลำไส้ใหญ่อักเสบเป็นแผลเรื้อรัง(Ulcerative colitis)
- การอักเสบของยูเวีย(Uveitis)
- โรคสะเก็ดเงินชนิดผื่นหนา(Plaque psoriasis)
- การอักเสบของต่อมเหงื่ออะโปคราย (Hidradenitis suppurativa)
อะดาลิมูแมบมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
กลไกการออกฤทธิ์ของยาอะดาลิมูแมบคือ ตัวยาจะเข้ารวมตัวกับสารโปรตีนในร่างกายซึ่งทำงานเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายที่มีชื่อเฉพาะว่า Tumor necrosis factor ส่งผลให้ระบบภูมิต้านทาน/ระบบภูมิคุ้มกัน หรือกระบวนการทำงานเม็ดเลือดขาวที่กระตุ้นการอักเสบ หยุดการทำลายเซลล์ของร่างกาย จึงทำให้อาการป่วยทุเลาลง
อะดาลิมูแมบมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาอะดาลิมูแมบ มีรูปแบบการจัดจำหน่าย เช่น
- ยาฉีดที่มีส่วนประกอบของ Adalimumab ขนาด 40 มิลลิกรัม/0.8 มิลลิลิตร
อะดาลิมูแมบมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
ยาอะดาลิมูแมบมีขนาดการบริหารยา/ใช้ยา เช่น
ก. สำหรับรักษาอาการโรคข้อรูมาตอยด์:
- ผู้ใหญ่: ฉีดยาเข้าใต้ผิวหนังขนาด 40 มิลลิกรัม/สัปดาห์ โดยทั่วไปแพทย์จะให้ยาผู้ป่วยสัปดาห์เว้นสัปดาห์ แต่เมื่อใช้ในลักษณะยาเดี่ยว แพทย์อาจปรับขนาดการใช้ยาเป็น สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
ข.สำหรับรักษาโรคข้อสันหลังอักเสบยึดติด หรือโรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน:
- ผู้ใหญ่: ฉีดยาเข้าใต้ผิวหนังขนาด 40 มิลลิกรัม/สัปดาห์ การให้ยาเป็นแบบสัปดาห์เว้นสัปดาห์
ค. สำหรับรักษาโรคสะเก็ดเงินชนิดผื่นหนา:
- ผู้ใหญ่: เริ่มต้นฉีดยาเข้าใต้ผิวหนังขนาด 80 มิลลิกรัม หลังจากได้รับยาเข็มแรก 1 สัปดาห์ แพทย์อาจปรับลดการฉีดยาเป็น 40 มิลลิกรัม/สัปดาห์ และการให้ยาเป็นแบบสัปดาห์เว้นสัปดาห์
ง. สำหรับรักษาโรคโครห์น หรือโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเป็นแผลเรื้อรัง:
- ผู้ใหญ่: กรณีมีอาการรุนแรงตั้งแต่ระดับกลางขึ้นไป แพทย์อาจเริ่มฉีดยาเข้าใต้ผิวหนัง 160 มิลลิกรัม โดยแบ่งฉีดเป็น 4 ครั้งใน 1 วัน หรืออาจจะฉีดครั้งละ 40 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง 2 วันติดต่อกัน จากนั้น เว้นเวลา 2 สัปดาห์แล้วฉีดยา 80 มิลลิกรัม อีก 2 สัปดาห์ถัดมาให้ฉีดยาครั้งละ 40 มิลลิกรัม สัปดาห์เว้นสัปดาห์
อนึ่ง:
- อาจใช้ยานี้ร่วมกับยาอื่นเช่นยา Methotrexate โดยเป็นไปตามดุลยพินิจของแพทย์
- เด็ก: การใช้ยานี้ในเด็ก จะอยู่ในดุลพินิจของแพทย์เป็นกรณีๆไป โดยขึ้นกับหลายปัจจัย เช่น ชนิดโรค ความรุนแรงโรค อายุ น้ำหนักตัว
*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียง ตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาอะดาลิมูแมบ ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร ดังนี้
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
- มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาอะดาลิมูแมบอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยา อื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านเข้าน้ำนมหรือรก และผ่านเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมมารับยาควรทำอย่างไร?
เพื่อประสิทธิผลของการรักษา ควรมารับยาอะดาลิมูแมบตรงเวลา หากลืมมารับยานี้ ควรรีบแจ้งให้ แพทย์/พยาบาล ทราบโดยเร็ว
อะดาลิมูแมบมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาอะดาลิมูแมบอาจก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์จากยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกาย ดังนี้ เช่น
- ผลต่อระบบภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของร่างกาย: เช่น ทำให้มีการติดเชื้อไวรัสต่างๆ ได้ง่ายขึ้น เช่น ไข้หวัดใหญ่
- ผลต่อระบบทางเดินปัสสาวะ: เช่น ทางเดินปัสสาวะอักเสบ/โรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ ปัสสาวะมีเลือดป/ปัสสาวะเป็นเลือด
- ผลต่อระบบทางเดินหายใจ: เช่น เกิดโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจส่วนบน ไซนัสอักเสบ ปอดบวม หลอดลมอักเสบ หอบหืด หายใจลำบาก การทำงานของปอดแย่ลง
- ผลต่อระบบประสาท: เช่น ปวดศีรษะ ตัวสั่น ความรู้สึกสัมผัสเพี้ยน
- ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น ท้องเสีย คลื่นไส้ ปวดท้อง อาเจียน ลำไส้อักเสบ กระเพาะอาหารอักเสบ เกิดแผลในช่องปาก มีเลือดออกในทางเดินอาหาร อาหารไม่ย่อย
- ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด: เช่น ความดันโลหิตสูง เจ็บหน้าอก หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจหยุดเต้น กล้ามเนื้อหัวใจตาย ชีพจรเต้นผิดปกติ หัวใจล้มเหลว เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ หลอดเลือดอักเสบ หัวใจเต้นเร็ว
- ผลต่อผิวหนัง: เช่น มีผื่นคัน ลมพิษ Stevens-Johnson syndrome ผมร่วง
- ผลต่อตับ: เช่น ตับวาย ตับอักเสบ เอนไซม์การทำงานของตับในเลือดสูง
- ผลต่อกล้ามเนื้อ: เช่น ปวดหลัง ข้ออักเสบ กระดูกหักง่าย ปวดเชิงกราน ข้ออักเสบ
- ผลต่อไต: เช่น ปวดไต เกิดนิ่วในไต กรวยไตอักเสบ
- ผลต่อระบบต่อมไร้ท่อ: เช่น ต่อมพาราไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- ผลต่อตา: เช่น เกิดต้อกระจก ประสาทตาอักเสบ
- ผลต่อสภาวะทางจิตใจ: เช่น อารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้า วิตกกังวล นอนไม่หลับ
- ผลต่อระบบการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย: เช่น คอเลสเตอรอลในเลือดเพิ่มขึ้น ไขมันในเลือดสูง เกิดภาวะขาดน้ำ ภาวะเลือดเป็นกรด
มีข้อควรระวังการใช้อะดาลิมูแมบอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาอะดาลิมูแมบ เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ที่อยู่ในภาวะติดเชื้อต่างๆ
- ห้ามใช้ยานี้กับสตรีมีครรภ์ สตรีในภาวะให้นมบุตร และเด็ก นอกจากมีคำสั่งแพทย์
- แจ้ง แพทย์ พยาบาล เภสัชกร ทุกครั้งว่า มีการเจ็บป่วยติดเชื้อ หรือได้รับวัคซีนมาหรือไม่
- ระหว่างที่ใช้ยานี้ ต้องมารับการตรวจเลือดตามแพทย์นัดทุกครั้ง
- หากพบอาการป่วยหรือมีการติดเชื้อต่างๆเกิดขึ้น ให้รีบเข้ามาแพทย์/มาโรงพยาบาลโดยทันที
- ระหว่างการใช้ยานี้ หากพบอาการ อึดอัด/แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก/หายใจลำบาก มีผื่นคันขึ้นเต็มตัว ต้องรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที/ฉุกเฉิน
- ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของ แพทย์/พยาบาล/เภสัชกร อย่างเคร่งครัด
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด(รวมยาอะดาลิมูแมบด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้ง ควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ
อะดาลิมูแมบมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
อะดาลิมูแมบมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- การใช้ยาอะดาลิมูแมบร่วมกับ ยา Methyprednisolone, Hydrocortisone และZidovudine เพราะอาจทำให้มีการติดเชื้อต่างๆในระดับรุนแรงตามมา หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาอะดาลิมูแมบร่วมกับ วัคซีนบีซีจี(BCG) ด้วยมีความเสี่ยงที่จะ ทำให้ผู้ป่วยได้รับยานี้เกิดการติดเชื้อจากการใช้วัคซีนบีซีจี
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาอะดาลิมูแมบร่วมกับยา Clozapine , Leflunomide เพราะจะ สร้างผลกระทบ(ผลข้างเคียง)ต่อการทำงานของไขกระดูก และทำให้ปริมาณเม็ดเลือดขาวในร่างกายต่ำลง
ควรเก็บรักษาอะดาลิมูแมบอย่างไร?
ควรเก็บยาอะดาลิมูแมบ ในช่วงอุณหภูมิ 2–8 องศาเซลเซียส(Celsius)หรือ ตามเอกสารกำกับยา ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งตู้เย็น เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อนและความชื้น และเก็บยาให้พ้นมือเด็ก และสัตว์เลี้ยง
อะดาลิมูแมบมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาอะดาลิมูแมบ มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Humira (ฮิวมิรา) | AbbVie Inc. |
Exemptia (เอ็กซ์เซมป์เทีย) | Zydus |
อนึ่ง ยาชื่อการค้าอื่นของยานี้ เช่น Amjevita, Adalimumab-atto , Cyltezo
บรรณานุกรม
- https://en.wikipedia.org/wiki/Tumor_necrosis_factor_alpha [2017,Nov4]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Adalimumab [2017,Nov4]
- https://www.drugs.com/cdi/adalimumab-prefilled-pens-and-syringes.html [2017,Nov4]
- http://www.mims.com/thailand/drug/info/adalimumab/?type=brief&mtype=generic [2017,Nov4]
- https://www.drugs.com/dosage/humira.html [2017,Nov4]
- https://www.drugs.com/sfx/humira-side-effects.html [2017,Nov4]
- https://www.drugs.com/drug-interactions/adalimumab- index.html?filter=3&generic_only=#M [2017,Nov4]
- http://www.rxabbvie.com/pdf/humira.pdf [2017,Nov4]
- http://exemptia.com/wp-content/uploads/2014/11/Open_PI_Exemptia_PFS_Injection_40mg_8ml_Sale.pdf [2017,Nov4]