อยากเป็นหมอต้องอ่าน: ฐานะดี

อยากเป็นหมอต้องอ่าน-1

      

อยากเป็นหมอต้องอ่าน: ฐานะดี

ฐานะดีมี 2 ความหมาย คือ คนที่จะเป็นหมอต้องมีฐานะดี และเมื่อเป็นหมอก็จะมีฐานะดี ซึ่งผมขออธิบายที่ละความหมายนะครับ

กรณีแรก คนที่เป็นหมอต้องมีฐานะดีจริงหรือไม่ ผมขอบอกว่าไม่เป็นความจริงเลย คนที่จะเรียนหมอนั้น ถึงแม้จะมีค่าใช้จ่ายในการเรียน แต่ก็ไม่ได้สูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับคณะอื่นๆ และก็มีทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีปัญหาค่าใช้จ่ายเพียงพอแน่นอน ดังนั้นการเรียนแพทย์ทุกคนที่มีคุณสมบัติ มีความตั้งใจ และชอบในวิชาชีพหมอนั้นก็สามารถเรียนได้ ไม่จำเป็นต้องมีฐานะดี

กรณีเป็นหมอแล้วจะมีฐานะดี ผมขออธิบายดังนี้ วิชาชีพแพทย์ การเป็นหมอนั้นไม่ได้ทำให้คนคนนั้นมีฐานะดี หรือรวยในความหมายของคนทั่วไปแน่นอน เพราะหมอในภาครัฐ ได้รับเงินเดือนเหมือนข้าราชการอื่นๆ เงินเดือนไม่ได้ต่างกัน แต่หมอมีเงินค่าอยู่เวร ซึ่งแตกต่างกันในแต่ละโรงพยาบาล และจำนวนเวรที่อยู่เวรในแต่ละเดือน การหารายได้เสริมนอกจากเงินเดือนในภาครัฐแล้ว ก็คือการเปิดคลินิกส่วนตัว ซึ่งก็ขึ้นกับชื่อเสียงของหมอ และความศรัทธาของผู้ป่วย

หมอส่วนใหญ่ที่เปิดคลินิกส่วนตัวนั้นไม่ได้มีวัตถุประสงค์ หรือตั้งใจจะหารายได้เป็นหลัก แต่เป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้ป่วยที่มีความสะดวกในการพบหมอนอกเวลาราชการ ดังที่เราจะเห็นหมอที่ทำงานในโรงพยาบาลชุมชนขนาดเล็กๆ ที่ไม่ได้มีผู้ป่วยมากมายที่คลินิก และเก็บค่ารักษาพยาบาลเป็นจำนวนเงินที่น้อยมากๆ หมอเหล่านั้นยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจเปิดคลินิกเพื่อหารายได้แน่นอน

สมเด็จพระราชบิดาสอนหมอ และหมอทุกคนยึดถือปฏิบัติมาเสมอ “ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตนเปนที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษยเปนกิจที่หนึ่ง ลาภทรัพย์และเกียรติยศจะตกมาแก่ท่านเอง ถ้าท่านทรงธรรมะแห่งอาชีพย์ไว้ให้บริสุทธิ"

*แต่อีกมุมหนึ่งที่สังคมได้เห็นว่ามีธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน เพื่อหารายได้ มีการระดมหุ้นในตลาดหลักทรัพย์นั้นก็เป็นอีกมุมหนึ่งที่สังคมคงต้องให้ความสนใจต่อไปว่า ซึ่งไม่ใช่หมอส่วนใหญ่ทำงานในภาคเอกชนดังกล่าว