อยากเป็นหมอต้องอ่าน: ชอบช่วยเหลือผู้อื่น

อยากเป็นหมอต้องอ่าน-1

      

อยากเป็นหมอต้องอ่าน: ชอบช่วยเหลือผู้อื่น

หมอต้องเป็นผู้รักษา แก้ไขอาการเจ็บป่วยต่างๆ ของผู้ป่วยให้หายเป็นปกติ หรือทำให้อาการเจ็บปวดทุเลาลง ซึ่งผู้ป่วยมีอาการเจ็บป่วยได้ตลอดเวลา และผู้ป่วยแต่ละคนก็มีความต้องการแตกต่างกัน รวมทั้งความต้องการของญาติผู้ป่วย อาการเจ็บป่วยนั้นก็เกิดขึ้นได้ทุกเวลา ดังนั้นผู้ป่วยก็จะมาหาหมอที่โรงพยาบาลได้ตลอดเวลา หมอก็ต้องพร้อมให้การรักษาผู้ป่วยตลอดเวลา ย้ำว่าตลอดเวลา ไม่มียกเว้น ไม่มีเหตุผล ไม่มีอะไรที่สำคัญไปกว่าการช่วยเหลือผู้ป่วย

1. การอยู่เวรสำหรับหมอ หมายความว่า หมอต้องพร้อมทำงานดูแลรักษาผู้ป่วยทุกนาที ไม่มีเวลาว่างให้หมอไปทำกิจกรรมอื่นๆ หมอต้องอยู่ประจำ พร้อมให้การรักษาผู้ป่วยทันที เพราะอาจมีผู้ป่วยประสบอุบัติเหตุมารักษา ผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้น หมดสติ และอื่นๆ ที่หมอต้องรีบให้การรักษาทันที รอไม่ได้เลย ต้องพร้อมให้การช่วยเหลือชีวิตทันที

2. การทำงานของหมอจะเห็นว่าไม่มีเวลาหยุดพักเลย ไม่ว่าจะออกตรวจผู้ป่วยนอก (ผู้ป่วยโอพีดี) ผู้ป่วยผ่าตัด จะดูจากตารางนัดไม่มีการระบุเวลาหยุดพักทานอาหารกลางวัน เพราะหมอต้องพร้อมทำงานอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้ป่วยมีคิวรอยาวนานมาก จึงทำให้หมอเราต้องทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยรอนาน การออกตรวจผู้ป่วย หมอเราก็จะตรวจผู้ป่วยที่มารอตรวจจนหมด ไม่หยุดทานอาหารกลางวัน การผ่าตัดก็ไม่สามารถหยุดพักกลางวันเพื่อทานอาหารกลางวันได้ เพราะการผ่าตัดต้องทำอย่างต่อเนื่อง ต้องรีบทานอาหารอย่างรวดเร็วถ้าพอมีเวลาว่าง

3. การอยู่เวรนอกเวลาราชการที่แผนกฉุกเฉิน ต้องพร้อมตลอดเวลาในการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉิน และไม่ฉุกเฉินที่มารับบริการตลอดเวลา บางวันหมอก็ไม่ได้ทานอาหารเย็นเลย เพราะมีผู้ป่วยมารับการรักษาต่อเนื่อง ตลอดเวลา และเนื่องจากการขึ้นเวรมักจะมีหมออยู่เวรเพียงคนเดียว จึงไม่สามารถหาเวลาไปทานอาหารได้เลย

4. กรณีมีนัดหมายล่วงหน้าไว้ว่าจะทานข้าวกับเพื่อน หรือครอบครัว แต่มีโทรศัพท์มาตามว่ามีผู้ป่วยอาการหนักต้องการความช่วยเหลือจากหมอผู้เชี่ยวชาญ เพราะเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพียงคนเดียวในโรงพยาบาล ถึงแม้หมอคนนั้นจะไม่ได้อยู่เวรก็ตาม ซึ่งหมอก็ต้องไปดูผู้ป่วย ไม่ไปก็ไม่ได้ ดังนั้นหมอจึงต้องพร้อมในการรักษาผู้ป่วยตลอดเวลาจริงๆ

5. แม้ช่วงเจ็บป่วย เช่น เป็นไข้หวัด เจ็บคอ เสียงก็แทบไม่มี เจ็บคอ ไข้ขึ้น ปวดเนื้อ ปวดตัวมาก แต่ก็ต้องมาออกตรวจผู้ป่วย เพราะไม่มีใครออกตรวจผู้ป่วยแทนหมอที่ป่วยได้ หมอคนอื่นๆ ก็มีงานอย่างอื่นทำ ไม่มีหมอคนอื่นทำแทนได้จริงๆ จึงต้องออกตรวจผู้ป่วยในสภาพที่ไม่พร้อมในการทำงาน แต่ก็ต้องทำ

6. บางครั้งลูกป่วยเป็นไข้ พ่อแม่ป่วย ถ้ามีภารกิจต้องออกตรวจผู้ป่วย อยู่เวรก็ต้องพยายามหาหมอคนอื่นๆ มาทำหน้าที่แทน ซึ่งถ้าไม่มีใครว่าง หมอก็ต้องทำหน้าที่ ไม่สามารถไปดูแลลูก พ่อแม่ที่เจ็บป่วยได้ จนรู้สึกว่าชีวิตหมอทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ แต่ก็เป็นความจริงที่ต้องทำในสภาพน้ำตาตกใน

7. ลูกมีกิจกรรมวันพ่อ วันแม่ ถ้าหมอมีภารกิจ มีหน้าที่ก็ต้องทำ อาจไม่ได้ไปร่วมกิจกรรมของลูก ซึ่งลูกหมอก็ต้องเข้าใจในสิ่งที่พ่อ แม่เป็นหมอไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว

ดังนั้นถ้าน้องๆ เป็นคนที่พร้อมจะช่วยเหลือผู้ป่วยในทุกๆ กรณีข้างต้น ซึ่งเป็นเพียงตัวอย่างที่ผมพบกับตัวเอง ผมก็พูดว่า ยินดีต้อนรับสู่การเป็นหมอครับ