อยากเป็นหมอต้องอ่าน: เตรียมตัวเป็นหมอ (extern)
- โดย ศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า
- 28 พฤษภาคม 2564
- Tweet
การเรียนแพทย์ใช้เวลา 6 ปีเต็มสำหรับนักศึกษาที่ผ่านในทุกชั้นปีแบบราบรื่นๆ การเรียนในชั้นปีที่ 1 นั้นเรียนแบบทั่วๆ ไป และเรียนการเตรียมตัวเป็นนักศึกษาแพทย์ ชั้นปีที่ 2, 3 เรียนวิชาเพื่อเตรียมตัวการเรียนรู้ถึงสรีรวิทยา กายวิภาค พยาธิวิทยา และอื่นๆ ที่เป็นพื้นฐานสำคัญของการเรียนรู้วิธีการวินิจฉัยโรค อาการของโรคในระบบต่างๆ ในคนไข้จริงของชั้นปีที่ 4, 5 ส่วนการเรียนชั้นปีที่ 4, 5 นั้นก็เป็นการเรียนรู้อาการผิดปกติในระบบต่างๆ การวินิจฉัย การรักษาผู้ป่วยจริง ๆ เพื่อนำความรู้ ความสามารถ ทักษะต่างๆ ที่มีมาใช้ในการเป็น extern ที่ผมชอบเรียกว่า หมอน้อย คือ การเตรียมตัวเป็นหมอจริงๆ เมื่อเรียนจบ การเป็น extern ในชั้นปีที่ 6 นั้นผมว่าชีวิตหนักหนาสาหัสมากที่สุดครับ ลองติดตามดูนะครับน้องๆ ที่อยากเป็นหมอ
1. ชีวิตหมอน้อยนั้นไม่สบายแน่นอน ต้องเริ่มมาทำงานที่หอผู้ป่วยตั้งแต่เช้ามืด จะเช้าแค่ไหน ก็ขึ้นกับจำนวนผู้ป่วยที่ดูแล และระบบที่พี่หมอแต่ละคนจะเริ่มทำงาน ถ้า extern โชคดีอยู่กับพี่หมอที่ขยันสุดๆ เราก็จะได้ความรู้มากมาย จากพี่โดยตรง แต่ก็ต้องมาทำงานตั้งแต่เช้าๆ เช่น ถ้าพี่มา 6.30 น้องๆ ก็ควรมาตั้งแต่ 5.45 -6.00 น. เพื่อที่จะได้ดูแลผู้ป่วยในความรับผิดชอบเรียบร้อยแล้วก่อนที่พี่ๆ จะมา เพราะถ้ามาเริ่มดูแลผู้ป่วยพร้อมกับพี่ ก็จะไม่ได้ตัดสินใจ และเรียนรู้อะไรเลย นอกจากทำตามที่พี่ๆ บอก ดังนั้นน้องๆ ต้องจำไว้ว่า เราต้องมาก่อนพี่ๆ และกลับหลังพี่ ๆ จึงจะเป็นหมอน้อยที่ดี มากด้วยประสบการณ์
2. การทำงานของหมอน้อยนี้ก็ทำไปทั้งวันยันเย็น ขึ้นอยู่กับกิจกรรมในการดูแลผู้ป่วยของแต่ละสาย แต่ละหอผู้ป่วย แต่ละแผนกที่ extern ผ่านขึ้นปฏิบัติงาน อาจมีทั้งการทำแผล การทำหัตถการต่างๆ บนหอผู้ป่วย การตรวจผู้ป่วยที่แผนกผู้ป่วยนอก การเข้าห้องคลอด ห้องผ่าตัด การปฏิบัติงานที่ห้องฉุกเฉิน
3. หน้าที่ความรับผิดชอบของ extern ก็คือ หมอน้อย ตามชื่อที่ผมเรียกเลยครับ คือ ต้องเป็นคนแรกที่รับรายงานอาการผิดปกติต่างๆ ของผู้ป่วยจากพยาบาล แล้วทำการรักษา หรือแก้ไขให้ผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว ภายใต้การให้คำปรึกษาของแพทย์รุ่นพี่ ต้องยอมรับว่าในบางโรงพยาบาล extern ก็มีพี่ๆ ให้คำปรึกษาได้ตลอดเวลา แต่บางที่ก็มีอุปสรรคบ้าง ดังนั้นชีวิตหมอน้อย ก็จะมีความเครียดสูง เพราะความรับผิดชอบที่มีมากเหลือเกินในบางโรงพยาบาล
4. การอยู่เวรก็ถึงเช้าแน่นอน ถ้าเป็นคนดวงดี หรือที่เรียกว่าดวงคุณนาย ก็จะได้นอนบ้าง ถ้าเป็นดวงกรรมกร ก็ทำงานทั้งคืน ตรงนี้ก็เป็นเรื่องของโชคชะตาแต่ละคน ผมอยากให้มองอีกมุมหนึ่งว่า ชีวิต extern นั้นต้องหาประสบการณ์ให้มากที่สุด เพราะเรายังมีแพทย์รุ่นพี่ให้คำปรึกษาได้ตลอด ถ้าเราจบเป็นหมอไปแล้วจะต้องรับผิดชอบเองทั้งหมด ตอนนั้นเราจะแย่ถ้าไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน ดังนั้น เรียนรู้มาก ก็รู้มาก มีประสบการณ์มาก
5. ชีวิตความเป็นอยู่ทั่วไป เช่น การทานอาหารไม่ตรงเวลา ไม่ครบ 3 มื้อหรอกครับ การนอนก็อดนอนเป็นประจำ ออกกำลังกายหรือใช้ชีวิตแบบนักศึกษาคณะอื่นๆ เป็นไปได้ยากมาก ขึ้นกับการจัดสรรเวลา และการใช้เวลาให้มีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน
การเป็นหมอน้อย เพื่อเตรียมตัวเป็นหมอนั้น ผมว่าสำคัญมากเลยครับ ความรู้ ความสามารถ และทัศนคติ วิธีคิดในการเรียน การทำงาน ความมีน้ำอด น้ำทน ความมีเมตตา ความเข้าใจความลำบากของผู้ป่วย ญาติที่หนักหนาสาหัสกว่าตัวเรานั้นมีมากมาย ถ้าหมอน้อยทุกคนเข้าใจดี ผมว่าชีวิตการเป็นหมอน้อยก็มีความสุขใจ ถึงแม้จะไม่สุขกาย แต่ถ้าไม่เข้าใจก็จะทุกข์กาย ทุกข์ใจ น้องๆ ที่สนใจต้องเตรียมตัว ทำความเข้าใจดีๆ นะครับ