เอาไงดี ! ลดกรด เพิ่มเสี่ยง (ตอนที่ 3)
- โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
- 4 มีนาคม 2560
- Tweet
ยา PPI เป็นยาใช้กิน โดยกินก่อนอาหาร 30 นาที หากผู้ป่วยมีปัญหาเรื่องโรคกระเพาะอาหาร (Peptic ulcer) แพทย์อาจจ่ายยา PPI คู่กับยาอื่นอีก 2-3 ชนิด นาน 2-8 สัปดาห์ ซึ่งผู้ป่วยควรปฏิบัติดังนี้
- กินยาตามแพทย์สั่ง
- พยายามกินยาให้ตรงเวลาเดียวกันในแต่ละวัน
- อย่าหยุดยาโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์
การใช้ยา PPI จะเหมาะกับผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื้อรังมากกว่า หากมีปัญหาเรื่องกรดในกระเพาะเป็นบางครั้งแล้วการใช้ยาลดกรดธรรมดา (Antacid) หรือยากลุ่มยั้บยั้งตัวรับฮิสทามีนชนิดที่ 2 (H2-receptor antagonist = H2RA) ก็น่าจะเหมาะกว่า ทั้งนี้เพราะ PPI เป็นยาที่แรงกว่า
อย่างไรก็ดี คนส่วนใหญ่มักเลือกใช้ PPI เพราะคิดว่า PPI ดีกว่า โดยเฉพาะกรณีของภาวะกรดไหลย้อนที่อาจไม่ต้องกินยาอะไร นอกจากการเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น แบ่งอาหารกินเป็นมื้อเล็กๆ และกินอาหารก่อนนอนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง หรือลดการดื่มแอลกฮอล์ เป็นต้น
ผลข้างเคียง (Side effects) ของยาลดกรดตระกูล PPI ที่เป็นกันมาก ได้แก่ อาการ
- ปวดศีรษะ
- ท้องเสีย
- ท้องผูก
- ปวดท้อง
- ท้องอืดท้องเฟ้อ (Flatulence)
- เป็นไข้
- อาเจียน
- คลื่นไส้
- เป็นผื่น
และ PPI อาจเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ Clostridium difficile ในลำไส้ ที่ทำให้เกิดอาการท้องเสีย นอกจากนี้การใช้ยาในปริมาณที่สูงและนาน อาจจะ
- เพิ่มความเสี่ยงของภาวะกระดูกพรุน (Osteoporosis) ที่ทำให้กระดูกสะโพก ข้อมือ หรือกระดูกสันหลัง แตก
- ลดการดูดซึมของวิตามินบี 12 (Cyanocobalamin)
- ทำให้เกิดภาวะพร่องแมกเนเซียมในเลือด (Hypomagnesemia)
- เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือกเฉียบพลัน (Heart attacks)
- มีปฏิกริยาแพ้อย่างรุนแรง (Serious allergic reactions)
- เป็นโรคผิวหนังในกลุ่มผื่นแพ้ยา (Toxic epidermal necrolysis)
- ลดการทำงานของไต (Reduced kidney function)
- ตับอ่อนอักเสบ (Pancreatitis)
- ลดการทำงานของตับ (Reduced liver function)
บรรณานุกรม
1. Proton Pump Inhibitors (PPIs). http://www.medicinenet.com/proton-pump_inhibitors/article.htm [2017, March 2].
2. Proton pump inhibitors. https://medlineplus.gov/ency/patientinstructions/000381.htm [2017, March 2].
3. Proton-pump inhibitors. http://www.nhs.uk/Conditions/legcrampsunknowncause/Pages/Introduction.aspx [2017, March 2].