ริมฝีปากอักเสบ (ตอนที่ 1)
- โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
- 26 มิถุนายน 2557
- Tweet
พญ.ปราณี เกษมศานติ์ อาจารย์ประจำภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ได้อธิบายถึง กรณีริมฝีปากอักเสบให้ฟังว่า
ริมฝีปากมีหน้าที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกิน การมีส่วนช่วยในการออกเสียงและการพูด การเล่นดนตรี นอกจากนี้ ริมฝีปากยังมีประสาทสัมผัสรับความรู้สึกที่ดีมากและส่งผลต่อความสวยงามของใบหน้า
เมื่อมีการอักเสบบริเวณริมฝีปาก จะทำให้ริมฝีปากแห้ง ลอกเป็นขุย บางครั้งอาจแตกเป็นแผล มีอาการคันหรือแสบร้อน ทำให้รบกวนการกินอาหาร การพูด บางรายมีการอักเสบของมุมปากร่วมด้วย
ส่วนสาเหตุนั้น พญ.ปราณี ได้ชี้แจงว่า เกิดได้ทั้งจากภายในและภายนอกร่างกาย ซึ่งได้แก่
- ริมฝีปากอักเสบจากผื่นแพ้สัมผัส จากการแพ้สารที่สัมผัสกับริมฝีปากอย่าง
- เครื่องสำอาง เช่น ลิปสติก ซึ่งการแพ้เกิดได้ทั้งจากน้ำหอม สารให้ความชุ่มชื้น สี สารกันเสีย สารกันแดด เมนทอล (Menthol) หรือโลหะผสมในแท่งหรือตลับลิปสติก
- ยาสีฟัน และน้ำยาบ้วนปาก เกิดการแพ้จากสารแต่งรส แต่งกลิ่น เมนทอล
- ยาทาเล็บ และเล็บ Acrylic ในรายที่มีนิสัยชอบกัดเล็บ
- วัสดุอุดฟัน ครอบฟัน
- อาหารบางประเภท เช่น มะม่วง แครอท เปลือกส้ม
โดยการตรวจยืนยันการวินิจฉัยภาวะนี้ ทำได้โดยการทำ Patch test หรือการตรวจภูมิแพ้ผิวหนังด้วยการปิดแผ่นทดสอบบริเวณหลังหรือต้นแขน ด้วยสารมาตรฐานในชุดทดสอบและเครื่องสำอางของผู้ป่วย
- ริมฝีปากอักเสบจากการระคายเคือง เช่น จากการเม้ม เลียริมฝีปากบ่อยๆ เนื่องจากในน้ำลายมีเอนไซม์หลายชนิดที่ทำให้ระคายเคืองได้
- ริมฝีปากอักเสบจากภูมิแพ้ผิวหนัง ในผู้ป่วยที่มีผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ ซึ่งมีอาการคันบริเวณข้อพับเรื้อรัง และผิวแห้ง อาจมีริมฝีปากแห้งลอกร่วมด้วยได้
สำหรับการดูแลรักษา พญ.ปราณี กล่าวว่า ทำได้โดยหลีกเลี่ยงการเลีย เม้ม หรือแกะลอกริมฝีปาก และหลีกเลี่ยงสารสัมผัสที่แพ้ เช่น ลิปสติก ยาสีฟัน รวมถึงทาสารให้ความชุ่มชื้นกลุ่มขี้ผึ้งวาสลีนบ่อยๆ
บางรายอาจต้องใช้ยาทากลุ่มสเตียรอยด์ ซึ่งมีฤทธิ์ลดการอักเสบ แต่ควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียงได้ หากใช้ยาไม่ถูกต้อง
แหล่งข้อมูล
1. ทำอย่างไร! เมื่อริมฝีปากแห้งลอก http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9570000068167 [2014, June 25].