รักษ์สุขภาพ - ตอนที่ 31 เครื่องดื่ม (3)

งานวิจัยนี้เป็นการติดตามดูผู้หญิง จำนวนกว่า +150,000 ราย เป็นเวลา นานถึง 12 ปี พบว่า การดื่มหรือไม่ดื่มกาแฟ ไม่มีความสัมพันธ์กับการมีหรือไม่มีความดันสูง แต่อย่างใด

งานวิจัยคนสุขภาพดี 9,517 รายที่ญี่ปุ่น เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างการดื่มกาแฟกับการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารมาด 4 โรค อันได้แก่

  1. โรคกรดไหลย้อนแบบไม่มีหลอดเลือดอักเสบ (Non-Erosive Reflux Disease: NERD)
  2. โรคแผลในกระเพาะอาหาร (Genitourinary: GU)
  3. โรคแผลในลำไส้ส่วนต้น (Duodenal ulcer: DU)
  4. โรคอาหารอักเสบจากกรดไหลย้อน (Reflux esophagus: RE)

โดยทำวิจัยร่วมกับการวิเคราะห์อภิธาน (Meta analysis) [วิธีการทางสถิติที่ใช้ในการรวบรวมและวิเคราะห์ผลลัพธ์ (Outcome) จากงานวิจัยหลายๆ ชิ้นที่ศึกษาหัวข้อเดียวกัน เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ครอบคลุม (Comprehensive) และน่าเชื่อถือ (Credible) มากขึ้น] ในผู้ดื่มกาแฟจำนวน 5,451 ราย และผู้ไม่ดื่มกาแฟจำนวน 2,562 ราย พบว่า ไม่มีความสัมพันธ์ (Association) ของการดื่มกาแฟ กับการเป็นโรคใดโรคหนึ่งใน 4 โรค ข้างต้น

แต่มีงานวิจัยที่พบว่า กาแฟทำให้การทำงานของสมองในระยะสั้น ดีขึ้น (Improve) ทั้งความเร็วในการตอบสนอง (Response), ความเร็วในการตัดสินใจ (Decision-making), การย้อนระลึก (Reall) ความจำชั่วคราวด้วยวาจา, และการใช้จินตนาการ (Imagination) วิเคราะห์ปัญหาเชิง 3 มิติ (Visio-spatial reasoning)

นานางานวิจัย ต่างให้ผลสรุป ตรงกันว่า กาแฟทำให้สมองทำงานดังกล่าวข้างต้นดีขึ้นทุกประเด็น ผลลัพธ์ (Outcome) นี้ พบได้แม้ในคนสูงอายุ (Elderly) งานวิจัยในหญิงอายุ 80 ปี พบว่า กลุ่มที่ดื่มกาแฟ มีการทำงาน (Functioning) ของสมองในประเด็นเหล่านี้  ดีกว่ากลุ่มที่ไม่ดื่มกาแฟ หรือดื่มในปริมาณน้อย

ความสามารถของกาแฟในการช่วยป้องกันสมองเสื่อม (Dementia) มีประจักษ์หลักฐาน (Evidence) สนับสนุน 2 ชิ้น ซึ่งเป็นหลักฐานระดับกลาง มิใช่ระดับสูง โดยที่ชิ้นแรก เป็นการศึกษาแบบเทียบคู่ (Matched case-control study) โดยนำผู้ป่วยสมองเสื่อมมา 54 ราย และผู้มิได้ป่วยเป็นสมองเสื่อมมา 54 รายเช่นกัน

แล้วตรวจสอบย้อนหลัง (Retrospective) ถึงปริมาณกาแฟที่ดื่มใน 20 ปีที่ผ่านมา ปรากฏว่า กลุ่มที่เป็นผู้ป่วยสมองเสื่อม ดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีน เฉลี่ย 73.9 มิลลิกรัม ต่อวัน (เทียบเท่ากาแฟครึ่งถ้วย) ส่วนผู้ที่มิได้เป็นผู้ป่วยสมองเสื่อม ดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีนเฉลี่ย198.7 มิลลิกรัม ต่อวัน (เทียบเท่ากาแฟ 1 ถ้วยครึ่ง) ซึ่งสรุป (Summarize) ได้ว่า ผู้ชอบดื่มกาแฟเป็นสมองเสื่อมน้อยกว่าผู้ไม่ชอบดื่มกาแฟ

แหล่งข้อมูล 

  1. สันต์ ใจยอดศิลป์, นพ. (2560). สุขภาพดีด้วยตัวคุณเอง: Good Health by Yourself (eBook). พิมพ์ครั้งที่ 2 กรุงเทพฯ: บริษัท พิมพ์สวย จำกัด.
  2. สันต์ ใจยอดศิลป์, นพ. และ พญ. ดร. พิจิกา วัชราภิชาต (2566). Healthy Life Bible คัมภีร์สุขภาพดี: สุขภาพดีได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง. พิมพ์ครั้งที่ 2 กรุงเทพฯ: บริษัท ฟรีมาย์ พับลิชชิ่ง จำกัด.