ยาเร่งคลอด (Labor Induction Medications)
- โดย พรลภัส บุญสอน
- 5 มิถุนายน 2562
- Tweet
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- การคลอด การคลอดบุตร (Childbirth)
- การใช้ยายุติการตั้งครรภ์ (Medical Abortion Pill)
- ตั้งครรภ์เกินกำหนด (Postterm pregnancy)
- ครรภ์เป็นพิษ (Preeclampsia)
- การชักนำให้เจ็บครรภ์คลอด(Labor induction)
- ภาวะน้ำเป็นพิษ (Water intoxication)
- ยาเร่งคลอดหมายถึงยาอะไร?
- ทางเภสัชแบ่งยาเร่งคลอดเป็นประเภทใดบ้าง?
- ยาเร่งคลอดมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- มีข้อบ่งใช้ยาเร่งคลอดอย่างไร?
- มีข้อห้ามใช้ยาเร่งคลอดอย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้ยาเร่งคลอดอย่างไร?
- มีอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาเร่งคลอดอย่างไร?
- สรุป
- บรรณานุกรม
ยาเร่งคลอดหมายถึงยาอะไร?
ยาเร่งคลอด(Labor Induction Medications) หมายถึงยาที่ช่วยเร่งหรือช่วยกระตุ้นให้เกิดการเจ็บครรภ์คลอด ยากลุ่มนี้ถูกนำมาใช้ใน
- หญิงมีครรภ์ที่อายุครรภ์ครบกำหนดที่เลยกำหนดคลอดแล้ว แต่ยังไม่มีการเจ็บครรภ์คลอดตามธรรมชาติ
- หรือมีภาวะแทรกซ้อนบางอย่างที่มีผลต่อมารดาหรือต่อทารกในครรภ์ เช่น ภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์, ภาวะครรภ์เป็นพิษชนิดรุนแรง เป็นต้น
ซึ่งบางครั้ง ภาวะดังกล่าวเหล่านี้ อาจเป็นอันตรายถึงเสียชีวิต แพทย์จึงต้องยุติการตั้งครรภ์โดยเร็ว
ทางเภสัชแบ่งยาเร่งคลอดเป็นประเภทใดบ้าง?
ยาเร่งคลอด แบ่งได้เป็นกลุ่ม/ประเภท ดังนี้
- ยากระตุ้นกล้ามเนื้อเรียบของมดลูก (Oxytocic drugs): เช่นยา ออกซิโทซิน (Oxytocin)
- ยาที่ออกฤทธิ์เหมือนพรอสตาแกลนดิน (Prostaglandin analogues): เช่น
- ยาที่โครงสร้างคล้ายพรอสตาแกลนดิน อีวัน (Synthetic prostaglandins E1 analogue) เช่นยา ไมโซพรอสทอล (Misoprostol)
- ยาที่โครงสร้างคล้ายพรอสตาแกลนดิน อีทู (Synthetic prostaglandins E2 analogue): เช่นยา ไดโนพรอสโทน (Dinoprostone)
- ยาต้านฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Anti-progesterone): เช่นยา มิฟิพริสโตน (Mifepristone)
ยาเร่งคลอดมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาเร่งคลอดมีรูปแบบการจัดจำหน่าย เช่นยา
- Oxytocin: อยู่ในรูปแบบยาน้ำใส สำหรับหยดเข้าทางหลอดเลือดดำ (Solution for infusion)
- Misoprostol :อยู่ในรูปแบบยาเม็ด (Tablet) แต่สามารถบริหารยา/ใช้ยาได้หลายช่องทาง เช่น
- รับประทาน
- อมใต้ลิ้น
- อมที่กระพุ้งแก้ม
- เหน็บช่องคลอด
- Dinoprostone: มีหลายรูปแบบ เช่น
- เจล ใส่ทางรูปากมดลูก (Endocervical gel)
- ยาเม็ดสอดช่องคลอด (Vaginal tablet)
- ยาเม็ดสอดช่องคลอดพร้อมอุปกรณ์เสริม (Vaginal insert, Pessary) มีลักษณะคล้ายผ้าอนามัยแบบสอด ใช้สอดช่องคลอด โดยจะมีสายเทปยาวให้ดึงออกมาหลังจากเจ็บครรภ์คลอด หรือสอดยาครบ 12 ชั่วโมง
- Mifepristone: อยู่ในรูปแบบยาเม็ด (Tablet)
อนึ่ง แนะนำอ่านเพิ่มเติมเรื่องรูปแบบของยาต่างๆได้จากเว็บ haamor.com บทความเรื่อง “รูปแบบยาเตรียม”
มีข้อบ่งใช้ยาเร่งคลอดอย่างไร?
ข้อบ่งใช้ยาเร่งคลอด คือ
- ใช้เร่งให้เกิดการเจ็บครรภ์คลอด โดยออกฤทธิ์ให้กล้ามเนื้อบริเวณปากมดลูกนุ่ม และเปิดขยายออก
- และกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
มีข้อห้ามใช้ยาเร่งคลอดอย่างไร?
ข้อห้ามใช้ยาเร่งคลอด เช่น
- ห้ามใช้ในผู้ที่แพ้ยานั้นๆ หรือมีปฏิกิริยาตอบสนองที่รุนแรงต่อยานั้นๆ(Hypersensitivity)
- ห้ามใช้ยาเร่งคลอดในผู้ที่มีข้อห้ามของการเร่งให้เกิดการเจ็บครรภ์ เช่น
- ข้อห้ามใช้ในมารดา: เช่น
- เป็นโรคเริมในขณะตั้งครรภ์
- ภาวะสายสะดือย้อย
- ภาวะเส้นเลือดสายสะดือพาดผ่านถุงน้ำคร่ำ
- ภาวะผิดสัดส่วนระหว่างทารกและช่องเชิงกราน
- ภาวะรกเกาะต่ำ
- มีประวัติการผ่าคลอดบุตรในแนวตั้ง (Classical cesarean section)
- มีประวัติการผ่าตัดที่มดลูก
- มีประวัติคลอดบุตรมากกว่า 5 ครั้ง
- ข้อห้ามใช้กรณีทารกในครรภ์: เช่น
- ทารกในครรภ์อยู่ในท่าผิดปกติ
- ทารกในครรภ์ตัวโตผิดปกติ
- ทารกฯมีภาวะเครียด(ภาวะเครียดของทารกในครรภ์)
- ทารกฯมีคลื่นฟ้าหัวใจผิดปกติ
- ข้อห้ามใช้ในมารดา: เช่น
- Misoprostal: เป็นยาที่มีข้อบ่งใช้อื่นร่วมด้วย เช่น ใช้รักษาและป้องกันการเกิด แผลในกระเพาะอาหาร ดังนั้นห้ามใช้ยานี้เพื่อป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหารในผู้ป่วยหญิงตั้งครรภ์ รวมถึงสตรีวัยเจริญพันธุ์ที่มีโอกาสตั้งครรภ์ เพราะอาจทำให้เกิดการแท้งบุตร, คลอดก่อนกำหนด, หรือทารกเกิดความพิการแต่กำเนิด
มีข้อควรระวังการใช้ยาเร่งคลอดอย่างไร?
ข้อควรระวังการใช้ยาเร่งคลอด เช่น
- ยาเร่งคลอด เป็นยาที่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง ต้องอยู่ในสถานที่ที่มีบุคลากรและเครื่องมือที่มีความพร้อม คอยติดตามอาการไม่พึงประสงค์จากยา, ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ, และสามารถ ผ่าท้องคลอดบุตรได้ หากมีปัญหาเกิดขึ้น
- Oxytocin: เป็นยาที่มีฤทธิ์ Antidiuretic effect (ยาขับปัสสาวะ) ทำให้มีการดูดน้ำกลับจากกรวยไตมากยิ่งขึ้น ดังนั้นควรตรวจติดตามระดับสารน้ำที่ผู้ป่วยได้รับ เพื่อป้องกันการเกิด ‘ภาวะน้ำเป็นพิษ (Water intoxication)’
- ควรหลีกเลี่ยงการใช้ Oxytocin เพื่อเร่งคลอดแบบกำหนดเวลาล่วงหน้า (Elective induction) เพราะยังไม่มีข้อมูลด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยมากเพียงพอ อีกทั้งยังไม่มีข้อบ่งใช้ทางการแพทย์ที่ชัดเจน
- ควรหลีกเลี่ยงการใช้ Oxytocin ร่วมกับยากลุ่ม Prostaglandin analogues เพราะจะยิ่งเสริมฤทธิ์การหดเกร็งของมดลูก อาจทำให้มดลูกหดรัดตัวมากเกินไปจนทำให้เกิดผลข้างเคียงอย่างรุนแรง เช่น มดลูกแตกในสตรีตั้งครรภ์ที่ใช้ยานี้
- ควรระวังการใช้ Dinoprostone ในผู้ป่วยโรค ลมชัก, ต้อหิน, โลหิตจาง, โรคปอด, โรคตับ, โรคไต, มีความผิดปกติของระบบหัวใจและหลอดเลือด, มีเลือดออกบริเวณช่องคลอดโดยที่หาสาเหตุไม่ได้
- ควรระวังการใช้ Mifipristone ในผู้ที่มี การตั้งครรภ์/ท้องนอกมดลูก, มีก้อนบริเวณปีกมดลูกที่หาสาเหตุไม่ได้, ต่อมหมวกไตมีความผิดปกติ, ใช้ยากลุ่ม Corticosteroids อย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลานาน, มีเลือดออกมากผิดปกติหรือกำลังใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด, โรคพอร์ฟิเรีย (Porphyria)
- ควรระวังการใช้ Mifepristone ร่วมกับยาบางชนิด เช่น Ketoconazole, Itraconazole, Erythromycin, เป็นต้น เพราะอาจทำให้ระดับยา Mifepristone ในเลือดเปลี่ยนแปลงไป
มีอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาเร่งคลอดอย่างไร?
อาการไม่พึงประสงค์จากยา ของการใช้ยาเร่งคลอด เช่น
ก. Oxytocin:
- อาการไม่พึงประสงค์ฯที่พบในมารดา: เช่น ปวดศีรษะ, หัวใจเต้นช้า หรือหัวใจเต้นเร็ว, รู้สึกไม่สบาย, มดลูกหดตัวมากหรือนานผิดปกติ, ภาวะน้ำเป็นพิษ, เจ็บหน้าอก, เลือดออกทางช่องคลอดมากผิดปกติ, และถ้าอัตราเร็วของการหยดยานี้มากเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตต่ำ
- อาการไม่พึงประสงค์ฯที่พบในทารกหลังคลอด: เช่น พบได้เมื่อมดลูกหดเกร็งมากเกินไป ทำให้ระดับเกลือแร่ในร่างกายทารกต่ำ, ขาดออกซิเจน, และอาจทำให้ทารกเสียชีวิตได้
ข. Misoprostol :
- อาการไม่พึงประสงค์จากยา ที่พบในมารดา: เช่น คลื่นไส้อาเจียน, ท้องเสีย, ปวดศีรษะ, มีไข้, หนาวสั่น, ภาวะมดลูกบีบตัวมากเกินไป (Tachysystole), ภาวะมดลูกแตก
- อาการไม่พึงประสงค์จากยา ที่พบในทารกหลังคลอด: เช่น ทารกมีภาวะเครียด, อัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ, หายใจลำบาก
ค. Dinoprostone:
- อาการไม่พึงประสงค์จากยาที่พบในมารดา: เช่น มดลูกหดเกร็ง, คลื่นไส้, ท้องเสีย, มีไข้, ปวดหลัง, นอกจากนี้ ยังพบอาการไม่สบายท้อง และรู้สึกอุ่นบริเวณช่องคลอดจากการใช้ยาในรูปแบบเจล
- อาการไม่พึงประสงค์ฯที่พบในทารกหลังคลอด: เช่น อัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ, ทารกมีภาวะเครียด
ง. Mifepristone:
- อาการไม่พึงประสงค์จากยาที่พบในมารดา: เช่น มดลูกหดเกร็ง, ท้องเสีย, คลื่นไส้อาเจียน, อ่อนเพลีย, เวียนศีรษะ, ปวดศีรษะ, เลือดออกทางช่องคลอดมากผิดปกติ, ติดเชื้อบริเวณมดลูก
- ยังไม่พบอาการไม่พึงประสงค์ฯที่เกิดขึ้นกับทารกหลังการคลอด
สรุป
ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด(รวมยาเร่งคลอด) ยาแผนโบราญ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะ ยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกชนิด ควรต้องปฏิบัติตาม ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน
บรรณานุกรม
- เจษฎา ใจพรหม และธีระ ทองสง. Induction of labor : การชักนำการคลอด. http://www.med.cmu.ac.th/dept/obgyn/2011/index.php?option=com_content&view=article&id=935:induction-of-labor&catid=45&Itemid=561 [2019,May18]
- สมคิด สุริยเลิศ. การเปรียบเทียบประสิทธิผลการชักนำการเจ็บครรภ์ของการใช้ misoprostol ทางช่องคลอดกับการกินในการชักนำการเจ็บครรภ์ในครรภ์ครบกำหนด. วารสารวิชาการสาธารณสุข 17 (กันยายน – ตุลาคม 2551). 792-801.
- สมชาย ธนวัฒนาเจริญ. การชักนำให้เกิดการคลอดในครรภ์ครบกำหนดด้วยยา misoprostol. สูตินรีแพทย์สัมพันธ์ 27 (2561). 9-13.
- สมสิญจน์ เพ็ชรยิ้ม. การชักนำให้เกิดการเจ็บครรภ์ (Induction of Labor). เวชบันทึกศิริราช 2 (มกราคม-เมษายน 2552): 21-30.
- Sheibani, L. and Wing D.A. A safety review of medications used for labour induction. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/29141462 [2019,May18]