มะเร็งกระดูก (Bone cancer)
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
- 5 กรกฎาคม 2563
- Tweet
- บทนำ: คือโรคอะไร?พบบ่อยไหม?
- โรคมะเร็งกระดูกมีกี่ชนิด?
- โรคมะเร็งกระดูกเกิดกับกระดูกส่วนไหนบ้าง?
- โรคมะเร็งกระดูกเกิดจากอะไร? มีปัจจัยเสี่ยงไหม?
- โรคมะเร็งกระดูกมีอาการอย่างไร?
- แพทย์วินิจฉัยโรคมะเร็งกระดูกได้อย่างไร?
- โรคมะเร็งกระดูกมีกี่ระยะ?
- โรคมะเร็งกระดูกรักษาอย่างไร?
- มีผลข้างเคียงจากการรักษาโรคมะเร็งกระดูกอย่างไร?
- โรคมะเร็งกระดูกรุนแรงไหม?
- มีวิธีตรวจคัดกรองโรคมะเร็งกระดูกไหม?
- ควรพบแพทย์เมื่อไร?
- ป้องกันโรคมะเร็งกระดูกอย่างไร?
- ดูแลตนเองอย่างไร? ดูแลผู้ป่วยมะเร็งอย่างไร?บรรณานุกรม
- บรรณานุกรม
- มะเร็ง (Cancer)
- โรคกระดูก (Bone disease)
- ยาเคมีบำบัด (Cancer chemotherapy)
- รังสีรักษา ฉายรังสี ใส่แร่ (Radiation therapy)
- ยารักษาแบบจำเพาะต่อเซลล์มะเร็ง ยารักษาตรงเป้า (Targeted Cell Therapy)
- กระดูกหัก (Bone fracture)
- มะเร็งในเด็ก (Pediatric cancer)
- ทีเอ็นเอ็ม ระยะโรคมะเร็งทีเอ็นเอ็ม (TNM cancer staging)
- โรคตาวาว (Leukocoria) มะเร็งตาในเด็ก (Retinoblastoma)
บทนำ: คือโรคอะไร?พบบ่อยไหม?
มะเร็งกระดูก(Bone cancer หรือ Malignant bone tumor)คือ โรคที่เกิดจากเซลล์เนื้อเยื่อกระดูกเกิดการเจริญเติบโตและมีการแบ่งตัวอย่างรวดเร็วโดยร่างกายไม่สามารถควบคุมการเจริญแบ่งตัวนี้ได้ ส่งผลให้เกิดเป็นก้อนเนื้อมะเร็ง/แผลมะเร็งรุกราน/ลุกลามในเนื้อเยื่อกระดูกจนเนื้อเยื่อกระดูกทำงานไม่ได้ อาการที่พบบ่อยคือ มีก้อนที่กระดูก ปวด และกระดูกหัก
มะเร็งที่เกิดจากเนื้อเยื่อกระดูก เรียกว่า ‘มะเร็งกระดูกปฐมภูมิ(Primary bone cancer)’ แต่หากเป็นเซลล์มะเร็งของอวัยวะอื่นๆ(ที่ไม่ใช่กระดูก)แพร่กระจายทางกระแสโลหิต/ทางกระแสเลือดเข้าสู่กระดูก คือมะเร็งระยะที่4ของอวัยวะนั้นๆ จะเรียกว่า ‘มะเร็งแพร่กระจายมากระดูก หรือ มะเร็งกระดูกทุติยภูมิ(Secondary bone cancer)’ เช่น แพร่กระจายจาก มะเร็งเต้านมสู่กระดูก เป็นต้น
ทั้งนี้ บทความนี้จะกล่าวถึง ‘มะเร็งเนื้อเยื่อกระดูก/มะเร็งกระดูกปฐมภูมิ เท่านั้น และขอเรียกว่า ‘มะเร็งกระดูก’) ส่วนมะเร็งกระดูกทุติยภูมิจะมีธรรมชาติของโรครวมถึงวิธีรักษาเช่นเดียวกับแต่ละมะเร็งที่เป็นต้นกำเนิดจึงแตกต่างกันในมะเร็งแต่ละชนิดตามอวัยวะต้นกำเนิด เช่น มะเร็งปอด หรือมะเร็งเต้านม ที่ในระยะที่4จะมีโรคแพร่กระจายเข้ากระดูก แนะนำอ่านเพิ่มเติมแต่ละโรคมะเร็งต้นกำเนิดได้จากเว็บ haamor.com
โรคมะเร็งกระดูก/มะเร็งกระดูกปฐมภูมิ เป็นโรคพบน้อยประมาณ 0.2-1%ของมะเร็งทั้งหมด พบทั้งเพศหญิงและเพศชาย พบทุกอายุ มักเป็นโรคของเด็กโต วัยรุ่น และวัยหนุ่มสาว ช่วงอายุประมาณ 10-20 ปี แต่อาจพบในช่วงอายุอื่นๆได้บ้างทั้งในเด็กเล็กจนถึงในผู้สูงอายุซึ่งจะกลับมาพบโรคได้สูงขึ้น
ทั่วไป มะเร็งกระดูกในเด็กพบได้เพียงประมาณ 3-5% ของโรคมะเร็งในเด็กทั้งหมด ทั้งนี้พบในเด็กชายบ่อยกว่าเด็กหญิงประมาณ 2-3 เท่า
ส่วนในประเทศไทยรายงานจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุขเมื่อ พ.ศ. 2561 (ผู้ป่วยช่วงพ.ศ. 2556-2558)พบมะเร็งกระดูก(รวมทุกอายุ)ในเพศหญิง1.3รายต่อประชากรหญิง 100,000 คนต่อปี และพบในเพศชาย 1.4 รายต่อประชากรชาย 100,000 คน
โรคมะเร็งกระดูกมีกี่ชนิด?
โรคมะเร็งกระดูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ โรคมะเร็งกระดูกปฐมภูมิ (Primary bone cancer หรือ Primary bone tumor)ที่จะกล่าวถึงในบทความนี้, และโรคมะเร็งกระดูกทุติยภูมิ (Secondary bone cancer หรือ Secondary bone tumor)ที่จะไม่กล่าวถึงในบทความนี้
ก. โรคมะเร็งกระดูกชนิดปฐมภูมิ/มะเร็งกระดูก (Primary bone cancer หรือ Primary bone tumor) คือ โรคมะเร็งที่เกิดจากเซลล์ของเนื้อเยื่อกระดูกเอง ซึ่งเมื่อกล่าวถึง โรคมะเร็งกระดูก จะหมายถึง ‘โรคมะเร็งปฐมภูมิ’เสมอ
มะเร็งกระดูกปฐมภูมิ/ มะเร็งกระดูก มีหลากหลายชนิด ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดเป็นมะเร็งกลุ่มมะเร็งซาร์โคมา (Sarcoma) นอกจากนี้ ในเด็กและในผู้ใหญ่ยังพบต่างชนิดกัน
- มะเร็งกระดูกในเด็ก(นิยามคำว่าเด็ก): พบได้น้อยเช่นกัน เป็นประมาณ 5%ของมะเร็งทั้งหมดในเด็กและวัยรุ่น(มะเร็งในเด็ก) โดยชนิดพบบ่อยคือ ออสตีโอซาร์โคมา (Osteosarcoma) พบได้ประมาณ 2-3%ของมะเร็งเด็ก/วัยรุ่นทั้งหมด(ประมาณ 60%ของมะเร็งกระดูกในเด็ก/วัยรุ่น) และชนิด อีวิง บางคนเรียกว่า ยูวิง (Ewing’s sarcoma)ที่พบได้ประมาณ 1-2%ของมะเร็งเด็ก/วัยรุ่น(ประมาณ 35%ของมะเร็งกระดูกในเด็ก/วัยรุ่น) พบในเด็กชายบ่อยกว่าเด็กหญิง
- ส่วนในผู้ใหญ่ ชนิดพบบ่อย ได้แก่ชนิด มะเร็งกระดูกอ่อน (คอนโดรซาร์โคมา: Chondrosarcoma) ทั่วโลกพบได้ประมาณ 1 รายต่อประชากร1ล้านคน ผู้หญิงและผู้ชายพบใกล้เคียงกัน โดยพบเป็นประมาณ 40-50%ของมะเร็งกระดูกผู้ใหญ่ ส่วนออสตีโอซาร์โคมาพบประมาณ 20-30%, อีวิงพบประมาณ 5-10%, ของมะเร็งกระดูกในผู้ใหญ่
ข. โรคมะเร็งกระดูกทุติยภูมิ (Secondary bone cancer หรือ Secondary bone tumor) คือ โรคจากเซลล์มะเร็งชนิดอื่นๆแล้วแพร่กระจายเข้าสู่กระดูก ที่พบได้บ่อย คือ แพร่กระจายมาจาก โรคมะเร็งเต้านม โรคมะเร็งปอด โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก หรือโรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ ซึ่งโรคมะเร็งในกลุ่มนี้จะไม่เรียกว่า โรคมะเร็งกระดูก แต่เรียกว่า ‘โรคมะเร็งแพร่กระจายมากระดูก’ หรือ’แพร่กระจายเข้าสู่กระดูก’ ดังนั้นบทความนี้จึง ไม่กล่าวถึงโรคมะเร็งในกลุ่มแพร่กระจายนี้
โรคมะเร็งกระดูกเกิดกับกระดูกส่วนไหนบ้าง?
มะเร็งกระดูกเกิดได้กับกระดูกทุกชิ้นในร่างกาย มักเกิดกับกระดูกเพียงชิ้นเดียว แต่สามารถแพร่กระจายทางกระแสโลหิต(เลือด) สู่กระดูกชิ้นอื่นๆได้ในลักษณะเดียวกับโรคมะเร็งจากอวัยวะอื่นๆ ทั้งนี้โอกาสเกิดในด้านซ้าย และด้านขวาใกล้เคียงกัน
ก.โรคมะเร็งออสตีโอซาร์โคมา: มักเกิดกับกระดูกขาและแขน โดยเฉพาะบริเวณใกล้ๆกับข้อกระดูก โดยพบเกิดกับ
- กระดูกต้นขาประมาณ 50%
- กระดูกขา (ส่วนล่าง) ประมาณ 30%
- กระดูกต้นแขนประมาณ 10%
- กระดูกลำตัว (สะโพก หรือกระดูกซี่โครง) ประมาณ 5%
- กระดูกใบหน้าและกะโหลกประมาณ 3%
- กระดูกอื่นๆที่เหลือประมาณ 2%
ข. โรคมะเร็งอีวิง: พบเกิดกับกระดูกขา และแขนได้สูงกว่ากระดูกชิ้นอื่นๆเช่นเดียวกับโรคมะเร็งออสติโอซาร์โคมา แต่มักเกิดตรงกลางของท่อนกระดูก นอกจากนั้น พบเกิดกับกระดูกของลำตัวได้สูง ทั้งนี้พบเกิดกับ
- กระดูกลำตัวได้ประมาณ 45%
- กระดูกต้นขาและกระดูกขา ประมาณ 30%
- กระดูกต้นแขน และกระดูกแขนประมาณ 15%
- กระดูกใบหน้าและกะโหลกประมาณ 3%
- กระดูกอื่นๆที่เหลือประมาณ 5-10%
ค. มะเร็งกระดูกอ่อน(คอนโดรซาร์โคมา) มักพบเกิดกับกระดูกช่วงลำตัว เช่น กระดูกปีกสะโพก กะโหลกศีรษะ พบน้อยที่จะเกิดกับกระดูกแขน ขา
โรคมะเร็งกระดูกเกิดจากอะไร? มีปัจจัยเสี่ยงไหม?
ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของโรคมะเร็งกระดูกที่ชัดเจน แต่พบมีปัจจัยเสี่ยง คือ
- พันธุกรรม: เพราะพบโรคนี้ได้สูงขึ้นในผู้มีพันธุกรรมผิดปกติบางชนิด
- เชื้อชาติ: เพราะพบโรคได้สูงในคนผิวขาวและผิวดำเป็นประมาณ 2 เท่าของคนเอเชีย
- อาจจากการที่กระดูกเคยได้รับรังสีบางชนิดในปริมาณสูงในวัยเด็ก เช่น จากการฉายรังสีรักษารักษาโรคมะเร็งชนิดอื่นๆ
- เคยเป็นโรคมะเร็งบางชนิดมาก่อน เช่น มะเร็งจอตาในเด็ก ซึ่งเด็กที่เป็นโรคมะเร็งจอตานี้มีโอกาสเกิดมะเร็งกระดูกชนิดออสติโอซาร์โคมาได้สูงกว่าคนทั่วไป
โรคมะเร็งกระดูกมีอาการอย่างไร?
อาการสำคัญของโรคมะเร็งกระดูก คือ
- ไม่มีอาการเมื่อเริ่มเป็น
- เมื่อก้อนมะเร็งโตขึ้น จึงอาจคลำได้ก้อนเนื้อตรงกระดูกส่วนที่เกิดโรค หรือในบริเวณนั้นบวม อาจปวดเจ็บ และเป็นสาเหตุให้กระดูกหักได้ (กระดูกหัก เป็นผลสืบเนื่องจากโรค ไม่ใช่สาเหตุ แต่คนทั่วไปมักเชื่อว่า กระดูกหักเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งกระดูก)
- ถ้าโรคเกิดใกล้บริเวณข้อ จะส่งผลให้เกิดการติดขัดของการใช้ข้อ หรือข้อยึดติด
- เมื่อโรคลุกลาม อาจส่งผลให้ก้อนเนื้อแตกเป็นแผลเลือดออกเรื้อรัง หรือโรคแพร่กระจายเข้าไขกระดูก ก่อให้เกิด โรคซีด และอ่อนเพลีย บางครั้งอาจมีไข้ต่ำๆ
- เมื่อโรคลุกลาม อีกอาการที่อาจตรวจพบ คือ คลำพบต่อมน้ำเหลืองตามข้อพับที่ใกล้กับกระดูกที่เกิดโรค โต/บวม คลำได้ ไม่เจ็บ เช่น ต่อมน้ำเหลืองขาหนีบโต เมื่อโรคเกิดกับกระดูกต้นขา เป็นต้น
แพทย์วินิจฉัยโรคมะเร็งกระดูกได้อย่างไร?
แพทย์วินิจฉัยโรคมะเร็งกระดูกได้จาก
- ประวัติอาการของผู้ป่วย
- การตรวจร่างกาย
- ตรวจดูและคลำกระดูกส่วนเกิดโรค
- ตรวจภาพกระดูกด้วย เอกซเรย์ธรรมดา และ/หรือ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์(ซีทีสแกน) และ/หรือ เอมอาร์ไอ
- แต่ที่ให้ผลแน่นอน คือ การตัดชิ้นเนื้อจากก้อนเนื้อในกระดูกเพื่อการตรวจทางพยาธิวิทยา
นอกจากนั้น คือการตรวจเพื่อจัดระยะโรคมะเร็งและเพื่อประเมินสุขภาพของผู้ป่วย เช่น
- ตรวจเลือด ซีบีซี (CBC) ดูการทำงานของไขกระดูก
- การตรวจปัสสาวะดูการทำงานของไต
- ตรวจเลือดดูการทำงานของตับและไต
- ตรวจภาพปอดด้วยเอกซเรย์ เพื่อดู โรคปอด โรคหัวใจ และโรคมะเร็งแพร่กระจายสู่ปอด
- อาจมีการตรวจไขกระดูก ตรวจภาพตับ และการสะแกนภาพกระดูกทั้งตัว (สะแกน กระดูก) เพื่อหาการแพร่กระจายของโรคเข้าสู่อวัยวะต่างๆเหล่านั้น ทั้งนี้ขึ้น กับ ระยะโรค ชนิดของเซลล์มะเร็ง และดุลพินิจของแพทย์
โรคมะเร็งกระดูกมีกี่ระยะ?
โรคมะเร็งกระดูกแบ่งเป็น 4 ระยะเช่นเดียวกับโรคมะเร็งอื่นๆ และบางระยะยังแบ่งย่อยได้อีกเพื่อแพทย์โรคมะเร็งใช้ช่วยในการรักษาและในการศึกษา แต่ที่แตกต่างจากโรคมะเร็งชนิดอื่น คือ ระยะโรคยังขึ้นกับตำแหน่งของกระดูกที่เกิดโรค, การแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง(Grade ย่อว่า G โดยแบ่งเป็น G1-3 ซึ่งเซลล์มะเร็งแบ่งตัวต่ำ=G1, และเซลล์มะเร็งแบ่งตัวสูง=G2,G3) ซึ่งทั้ง 4 ระยะของโรค นิยมแบ่งตามองค์กรด้านโรคมะเร็งสหรัฐอเมริกา(American Joint Committee on Cancer ย่อว่า AJCC, ปัจจุบัน 8th ed) ซึ่งแบ่งระยะโรคมะเร็งตามตำแหน่งกระดูก เป็น3 กลุ่ม ได้แก่
- มะเร็งกระดูกที่เกิดกับกระดูกที่ แขน ขา ลำตัว ศีรษะ และใบหน้า
- มะเร็งกระดูกที่เกิดกับกระดูกสันหลัง
- มะเร็งกระดูกที่เกิดกับกระดูกเชิงกราน
ก: ระยะโรคของมะเร็งกระดูกที่เกิดที่กระดูก ขา แขน ลำตัว กะโหลก และใบหน้า:
- ระยะ1: มะเร็งรุกราน/ลุกลามเฉพาะที่กระดูก และเซลล์มะเร็งเป็นชนิด G1 แบ่งเป็นระยะย่อย คือ
- ระยะ1a: ก้อนมะเร็งขนาดโตไม่เกิน 8 ซม.
- ระยะ1b: ก้อนมะเร็งขนาดโตมากกว่า 8 ซม.ขึ้นไป หรือ มีหลายก้อนมะเร็งในกระดูกชิ้นเดียวกัน
- ระยะ2: แบ่งเป็น 2 ระยะย่อย คือ
- ระยะ2a: คือ ก้อนมะเร็งขนาดโตไม่เกิน8ซม.และเซลล์แบ่งตัวสูงระดับ G2, G3(G3,G4)
- ระยะ2b: ก้อนมะเร็งขนาดโตมากกว่า8ซม. และเซลล์แบ่งตัวสูงระดับ G2,G3 (G3,G4)
- ระยะ3: มีก้อนมะเร็งหลายก้อนในกระดูกชิ้นเดียวกัน และเซลล์แบ่งตัวสูงระดับ G2,G3(G3,G4)
- ระยะ4: เป็นระยะรุนแรงมาก เป็นระยะรักษาหายยาก การพยากรณ์โรคแย่ที่สุด แบ่งย่อย เป็น
- ระยะ4a: มีโรคแพร่กระจาย เฉพาะปอด
- ระยะ4b: มีโรคแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆนอกเหนือจากปอด(เช่น ตับ กระดูกชิ้นอื่นๆ) ที่รวมถึงต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ไกลจากกระดูกที่เกิดมะเร็งฯ เช่น เป็นมะเร็งฯกระดูกขาและโรคแพร่กระจายไปต่อมน้ำเหลืองเหนือกระดูกไหปลาร้าหรือในช่องอก เป็นต้น
ข. ระยะโรคของมะเร็งกระดูกที่เกิดที่กระดูกสันหลัง: ปัจจุบันใช้จัดระยะโรคแบบ ทีเอ็นเอ็ม(TNM staging) ได้แก่
- T(Tumor ย่อว่าT): แบ่งย่อยเป็น T1-4
- T1=โรคจำกัดที่กระดูกสันหลังเพียง1-2ข้อต่อเนื่องกัน
- T2=โรคจำกัดที่กระดูกสันหลัง3ข้อต่อเนื่องกัน
- T3=โรคจำกัดที่กระดูกสันหลังมากกว่า3ข้อต่อเนื่องกัน หรือ กระดูกสันหลังมากกว่า 1ข้อที่ไม่ต่อเนื่องกัน
- T4=โรคลุกลามเข้าไขสันหลัง และ/หรือหลอดเลือดขนาดใหญ่
- N(Node ย่อว่าN): โรคลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลืองใกล้ก้อนมะเร็ง แบ่งย่อยเป็น N0-1
- N0=โรคยังไม่ลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลืองใกล้ก้อนมะเร็ง
- N1=โรคลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลืองใกล้ก้อนมะเร็ง
- M(Distant metastasis ย่อว่า M): โรคแพร่กระจายทางกระแสเลือดไปยังอวัยวะต่างๆทั่วร่างกาย(มักแพร่กระจายไปปอด) และ/หรือระบบน้ำเหลือง แบ่งย่อยเป็นM0-1
- M0= ยังไม่มีการแพร่กระจายฯ
- M1=โรคแพร่กระจายฯแล้ว
ค. ระยะโรคของมะเร็งกระดูกที่โรคเกิดที่กระดูกเชิงกราน : ปัจจุบันใช้การจัดระยะโรคแบบทีเอ็นเอ็ม(TNM staging) ได้แก่
- T(Tumor ย่อว่าT): แบ่งย่อยเป็น T1-4
- T1=โรคจำกัดในกระดูกเชิงกรานเพียงส่วนเดียว แบ่งย่อยเป็น
- T1a=ก้อนมะเร็งโตไม่เกิน 8 ซม.
- T1b=ก้อนมะเร็งโตเกิน8ซม.
- T2=โรคจำกัดในกระดูกเชิงกรานเพียงส่วนเดียวแต่ลุกลามออกนอกกระดูก หรือ โรคลุกลาม2ส่วนของกระดูกเชิงกรานแต่ยังไม่ลุกลามออกนอกกระดูก แบ่งเป็น 2 ระยะย่อยคือ
- T2a=ก้อนมะเร็งโตไม่เกิน 8 ซม.
- T2b=ก้อนมะเร็งโตเกิน8ซม.
- T3=โรคลุกลามเข้ากระดูกเชิงกราน2ส่วนและลุกลามออกนอกกระดูก แบ่งเป็น 2 ระยะย่อย คือ
- T3a=ก้อนมะเร็งโตไม่เกิน 8 ซม.
- T3b=ก้อนมะเร็งโตเกิน8ซม.
- T4=โรคลุกลามเข้ากระดูกเชิงกราน3ส่วน หรือลุกลามเข้าข้อต่อระหว่างกระดูกเชิงกรานกับกระดูกใต้กระเบนเหน็บ แบ่งเป็น 2ระยะย่อย คือ
- T4a=โรคลุกลามเข้าข้อต่อระหว่างกระดูกเชิงกรานกับกระดูกใต้กระเบนเหน็บ
- T4b=โรคลุกลามเข้าหลอดเลือดใหญ่ในท้องน้อย
- T1=โรคจำกัดในกระดูกเชิงกรานเพียงส่วนเดียว แบ่งย่อยเป็น
- N(Node ย่อว่าN): โรคลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลืองใกล้ก้อนมะเร็ง แบ่งย่อยเป็น N0-1
- N0=โรคยังไม่ลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลืองใกล้ก้อนมะเร็ง
- N1=โรคลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลืองใกล้ก้อนมะเร็ง
- M(Distant metastasis ย่อว่า M): โรคแพร่กระจายทางกระแสเลือดไปยังอวัยวะต่างๆทั่วร่างกาย(มักแพร่กระจายไปปอด) และ/หรือระบบน้ำเหลือง แบ่งย่อยเป็นM0-1
- M0= ยังไม่มีการแพร่กระจายฯ
- M1=โรคแพร่กระจายฯแล้ว
โรคมะเร็งกระดูกรักษาอย่างไร?
การรักษาหลักของโรคมะเร็งกระดูก คือ
- การผ่าตัดและยาเคมีบำบัด
- ส่วนรังสีรักษา(รังสีรักษา-ฉายรังสี-ใส่แร่)จะใช้เฉพาะในผู้ป่วยที่ผ่าตัดไม่ได้ หรือเมื่อมีโรคแพร่กระจายแล้ว
- การใช้ยารักษาตรงเป้า/ ยารักษาแบบจำเพาะต่อเซลล์มะเร็ง ยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษา
มีผลข้างเคียงจากการรักษาโรคมะเร็งกระดูกอย่างไร?
ผลข้างเคียงจากการรักษามะเร็งกระดูก ขึ้นกับวิธีรักษา ซึ่งผลข้างเคียงจะสูงขึ้นเมื่อ
- ใช้วิธีรักษาหลายวิธีร่วมกัน
- เป็นผู้ป่วย เด็กเล็ก(นิยามคำว่าเด็ก) ผู้สูงอายุ
- สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์
- มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง และโรคที่ก่อการอักเสบของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เช่น โรคภูมิต้านตนเอง /โรคออโตอิมูน
ส่วนในด้านผลข้างเคียงจากวิธีรักษา ได้แก่
- การผ่าตัด: เช่น การสูญเสียเนื้อเยื่อ/อวัยวะ การเสียเลือด แผลผ่าตัดติดเชื้อ และเสี่ยงต่อการดมยาสลบ
- รังสีรักษา (รังสีรักษา-ฉายรังสี-ใส่แร่): เช่น ผลข้างเคียงต่อผิวหนัง (อ่านเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง การดูแลผิวหนังและผลข้างเคียงต่อผิวหนังบริเวณฉายรังสีรักษา/ การดูแลผิวหนังบริเวณฉายรังสีรักษา) และการเพิ่มโอกาสทำให้กระดูกในส่วนที่ได้รับรังสีหักง่าย
- ยาเคมีบำบัด: เช่น คลื่นไส้-อาเจียน ผมร่วง ซีด ภาวะเลือดออกง่ายจากมีเกล็ดเลือดต่ำ และการติดเชื้อจากภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ (อ่านเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำจากเคมีบำบัด-รังสีรักษา:การดูแลตนเอง)
- ยารักษาตรงเป้า/ ยารักษาแบบจำเพาะต่อเซลล์มะเร็ง: เช่น การเกิดสิวขึ้นทั่วตัวรวมทั้งใบหน้า และยาบางชนิดอาจก่อให้เกิดภาวะเลือดออกได้ง่าย แผลติดยากเมื่อเกิดบาด แผล และอาจเป็นสาเหตุให้ลำไส้ทะลุได้
โรคมะเร็งกระดูกรุนแรงไหม?
โรคมะเร็งกระดูกจัดเป็นโรคมีความรุนแรง/มีการพยากรณ์โรครุนแรง/ไม่ดี โอกาสรักษาได้หายนอกจากขึ้นกับระยะโรคแล้ว ยังขึ้นกับ
- การผ่าตัด: ถ้าผ่าตัดไม่ได้ เช่น จากสุขภาพ หรือจากตำแหน่งของโรค ความรุนแรงโรคจะสูงขึ้น
- ตำแหน่งเกิดโรค: เกิดโรคที่ แขน ขาการพยากรณ์โรคดีกว่าเกิดโรคที่กระดูกลำตัว เช่น กระดูกเชิงกราน
- การตอบสนองของโรคต่อยาเคมีบำบัด
- การแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง: ยิ่งแบ่งตัวสูง ความรุนแรงโรคสูง
- ขนาดของก้อนเนื้อ: ยิ่งก้อนโต ความรุนแรงโรคยิ่งสูง
- อายุ และสุข ภาพของผู้ป่วย
ทั้งนี้ ทั่วไป อัตรารอดที่ห้าปี:
ก. โรคมะเร็งชนิดออสตีโอซาร์โคมา:
- ระยะที่ 1: ประมาณ 75-80%
- ระยะที่ 2: ประมาณ 60-75%
- ระยะที่ 3: ประมาณ 30-50%
- ระยะที่ 4: ประมาณ 0- 25%
ข. โรคมะเร็งอีวิง:
- ระยะที่ 1: ประมาณ 70%
- ระยะที่ 2: ประมาณ 60-70%
- ระยะที่ 3: ประมาณ 20-40 %
- ระยะที่ 4: ประมาณ 0-30%
ค. โรคมะเร็งกระดูกอ่อน (คอนโดรซาร์โคมา)
- ระยะที่1-2 ถ้าผ่าตัดได้หมดและเซลล์มะเร็งเป็นชนิดไม่รุนแรงรวมถึงเซลล์มะเร็งแบ่งตัวต่ำ อัตรารอดที่ห้าปีประมาณ 80-90%
- โรคระยะ3-4 หรือผ่าตัดไม่ได้หมด หรือเซลล์เป็นชนิดรุนแรง และ/หรือเซลล์มะเร็งแบ่งตัวสูง อัตรารอดทีห้าปี 0-10%
มีวิธีตรวจคัดกรองโรคมะเร็งกระดูกไหม? ควรพบแพทย์เมื่อไร?
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีในการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งกระดูกตั้งแต่ยังไม่มีอาการ และปัจจัยเสี่ยงต่อการการเกิดโรคมักเป็นปัจจัยเสี่ยงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นที่ดีที่สุด คือ การเอาใจใส่ของผู้ปกครองและในผู้ใหญ่ คือ การสังเกตตนเอง เมื่อพบมีอาการผิดปกติดังกล่าวในหัวข้อ”อาการฯ” ควรรีบพบแพทย์/มาโรงพยาบาลเพื่อการวินิจฉัยและรักษาโรคแต่เนิ่นๆ
ป้องกันโรคมะเร็งกระดูกอย่างไร?
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีป้องกันโรคมะเร็งกระดูก ดังนั้นจึงเช่นเดียวกับใน หัวข้อการตรวจคัดกรองฯ คือ การรีบพบแพทย์/มาโรงพยาบาลเมื่อมีอาการผิดปกติต่างๆดังกล่าวแล้ว เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาโรคแต่เนิ่นๆ
ดูแลตนเองอย่างไร? ดูแลผู้ป่วยมะเร็งอย่างไร?
การดูแลตนเองและการดูแลผู้ป่วยมะเร็งกระดูกเช่นเดียวกับการดูแลตนเองและการดูแลผู้ ป่วยมะเร็งทุกชนิด อ่านเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com ในบทความเรื่อง
- การดูแลตนเองเมื่อป่วยเป็นโรคมะเร็งและการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็ง และในเรื่อง
- การดูแลตนเอง การดูแลผู้ป่วยเคมีบำบัด
- มะเร็งในเด็ก กรณีเป็นผู้ป่วยเด็ก
บรรณานุกรม
- AJCC staging manual, 8th ed.
- Halperin, E., Perez, C., and Brady, L. (2008). Perez and Brady: Principles and practice of Radiation Oncology (5th edition). Philadelphia: Wolters Kluwer/ Lippincott Williams & Wilkins.
- Halperin, E., Constine, L., Tarbell, N, and Kun, L. (2005). Pediatric radiation oncology. Philadelphia: Lippincott Williams & Wilkins.
- Imsamran, W. et al. (2018). Cancer in Thailand Vol ix, 2013-2015, National Cancer Institute, Ministry of Public Health. Thailand
- https://www.cancer.gov/types/bone/bone-fact-sheet [2020,July4]
- https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3476517/ [2020,July4]
- https://www.cancer.org/cancer/osteosarcoma/detection-diagnosis-staging/survival-rates.html [2020,July4]
- https://www.cancer.org/cancer/ewing-tumor/detection-diagnosis-staging/survival-rates.html [2020,July4]
- https://emedicine.medscape.com/article/1258236-overview#showall [2020,July4]
- https://www.cancer.net/cancer-types/bone-cancer/statistics [2020,July4]