ฟอสคาร์เนท (Foscarnet)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 5 กันยายน 2560
- Tweet
- บทนำ
- ฟอสคาร์เนทมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
- ฟอสคาร์เนทมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- ฟอสคาร์เนทมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- ฟอสคาร์เนทมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?
- หากไม่มารับการฉีดยาควรทำอย่างไร?
- ฟอสคาร์เนทมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้ฟอสคาร์เนทอย่างไร?
- ฟอสคาร์เนทมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาฟอสคาร์เนทอย่างไร?
- ฟอสคาร์เนทมีชื่ออื่นอีกไหม?ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- โรคติดเชื้อไซโตเมกาโลไวรัส โรคติดเชื้อซีเอมวี (Cytomegalovirus infection: CMV infection)
- เริม (Herpes simplex)
- โรคติดเชื้อ ภาวะติดเชื้อ (Infectious disease)
- เชื้อไวรัส โรคติดเชื้อไวรัส (Viral infection)
- ยาต้านไวรัส (Antiviral drugs)
บทนำ
ยาฟอสคาร์เนท (Foscarnet หรือ Foscarnet sodium หรือ Foscarnet Na)เป็นยาที่ใช้ต่อต้านไวรัสประเภทเฮอปีส์ไวรัส (Herpes viruses) เช่น โรคเริม และไซโตเมกะโลไวรัส (Cytomegalovirus) ยานี้เป็นที่ยอมรับและนำขึ้นทะเบียนยาเมื่อปีค.ศ.1991(พ.ศ.2534) รูปแบบเภสัชภัณฑ์ของยาฟอสคาร์เนทเป็นยาฉีด ตัวยาจะออกฤทธิ์รบกวนการสังเคราะห์สารพันธุกรรม(DNA)ของไวรัส ทำให้ตัวไวรัสไม่สามารถกระจายพันธุ์ได้ อย่างไรก็ตามการใช้ยานี้อาจทำให้ผู้ป่วยได้รับผลกระทบโดยทำให้ไตเสียหายหรือก่อให้เกิดอาการชัก และยาฟอสคาร์เนทยังเหมาะสมที่จะนำมารักษากับผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกัน/ภูมิคุ้มกันต้านทานโรคอ่อนแอและมีปัญหาการติดเชื้อที่ตาที่มีสาเหตุจากไซโตเมกะโลไวรัส
ข้อจำกัดของการใช้ยาฟอสคาร์เนทบางประการที่ผู้บริโภค/ผู้ป่วยควรทราบมีดังนี้ เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้ หรือแพ้ส่วนประกอบในสูตรตำรับของยานี้
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยด้วยโรคหัวใจ หรือผู้ที่ถูกจำกัดอาหารเค็ม
- ห้ามใช้กับผู้ที่ต้องฟอกเลือดด้วยไตเทียม(อ่านเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง การล้างไต การบำบัดทดแทนไต)
- หลีกเลี่ยงการใช้ยานี้กับผู้ที่มีระดับแคลเซียมในเลือดต่ำ ด้วยผลข้างเคียงประการหนึ่งของยาฟอสคาร์เนทคือ ทำให้แคลเซียมในเลือดลดลง
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาฟอสคาร์เนทร่วมกับยาขับปัสสาวะ อย่างเช่นยา Furosemide ด้วยจะทำให้ผู้ป่วยได้รับอาการข้างเคียง(ผลข้างเคียง)จากยาฟอสคาร์เนทมากขึ้น
- การใช้ยานี้กับผู้ที่มีประวัติเป็นโรคลมชักจะมีความเสี่ยงสูงในการกระตุ้นให้เกิดอาการลมชัก เคยมีรายงานทางคลินิกหลังจากผู้ที่ได้รับยานี้แล้วมีอาการชัก ซึ่งในบางครั้งก็มีอาการชักรุนแรงจนทำให้ผู้ป่วยถึงกับเสียชีวิต
- การให้ยาฟอสคาร์เนททางหลอดเลือดดำต้องใช้หัตถการทางการแพทย์อย่างถูกต้อง โดยต้องกระทำในสถานพยาบาลเท่านั้น กรณีเกิดข้อผิดพลาดทำให้ตัวยานี้ หลุดรอดออกจากหลอดเลือดดำและซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อของร่างกาย จะก่อให้เกิดการ ระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อที่สัมผัสยานี้เป็นอย่างมาก
- ห้ามใช้ยานี้กับสตรีที่ตั้งครรภ์ หรือสตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร ทั้งนี้เพื่อป้องกัน การส่งผ่านตัวยานี้ไปยังทารก
- ห้ามใช้ยานี้กับเด็ก นอกจากมีคำสั่งแพทย์ ด้วยจะกระทบต่อเคลือบฟันและ พัฒนาการของกล้ามเนื้อเด็ก
นอกจากนี้ยังมีข้อควรปฏิบัติขณะที่ใช้ยาฟอสคาร์เนท ดังนี้ เช่น
- เพื่อเป็นการลดผลเสีย/ผลข้างเคียงรุนแรงของยานี้ต่อการทำงานของไตผู้ป่วยก่อนได้รับยานี้แพทย์จะให้สารน้ำ 0.9% Sodium chloride ในปริมาณ750–1000 ml(Milliliter/มิลลิลิตร) กับผู้ป่วย
- ผู้ป่วยที่มีโรคไตเป็นโรคประจำตัว เมื่อต้องใช้ยาฟอสคาร์เนท แพทย์จะพิจารณา ปรับลดขนาดการใช้ยาลงมา
- ระหว่างที่ใช้ยานี้ ผู้ป่วยต้องได้รับการตรวจการทำงานของไตเป็นระยะๆตามคำสั่งแพทย์ ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันและตรวจสอบความเสียหายของไต
- หากพบเห็นปัสสาวะมีสีผิดปกติ เช่น สีเหมือนน้ำปลา หรือมีกล้ามเนื้ออ่อนแรงอย่างรุนแรง ต้องหยุดการใช้ยานี้ และต้องรีบแจ้งแพทย์โดยทันที
ยาฟอสคาร์เนทในรูปแบบยาแผนปัจจุบันจะถูกจัดจำหน่ายภายใต้ชื่อการค้าว่า “Foscavir” และหากผู้บริโภคต้องการทราบข้อมูลการใช้ยานี้เพิ่มเติม สามารถสอบถามข้อมูลได้จาก แพทย์ หรือเภสัชกร ตามสถานพยาบาลที่เข้ารับการรักษาได้เสมอ
ฟอสคาร์เนทมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
ยาฟอสคาร์เนทมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้ เช่น
- รักษาจอตาอักเสบจากการติดเชื้อ/โรคติดเชื้อไซโตเมกะโลไวรัส (Cytomegalovirus retinitis)
- รักษาการติดเชื้อเริม (โรคเริม) และ
- รักษาการติดเชื้อไวรัสงูสวัด (โรคงูสวัด)
ฟอสคาร์เนทมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
ยาฟอสคาร์เนท มีกลไกการออกฤทธิ์โดยตัวยาจะยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่มีชื่อว่า DNA polymerases ในไวรัส ทำให้ไวรัสหมดสภาพที่จะจำลองตัวเองและหยุดการกระจายพันธุ์ ด้วยกลไกนี้เองทำให้ร่างกายมีเวลาในการสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาต่อต้านไวรัส และทำให้ร่างกายของผู้ป่วยดีขึ้นเป็นลำดับ
ฟอสคาร์เนทมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาฟอสคาร์เนทมีรูปแบบการจัดจำหน่าย เช่น
- ยาฉีด ที่มีส่วนประกอบของ Foscarnet sodium ขนาด 24 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร
ฟอสคาร์เนทมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
ยาฟอสคาร์เนท มีขนาดการบริหารยา/ใช้ยา เช่น
ก. สำหรับการติดเชื้อไซโตเมกะโลไวรัสที่จอตา:
- ผู้ใหญ่: หยดยาเข้าหลอดเลือดดำ 90 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยอาจใช้เวลาการให้ยานาน 90–120 ชั่วโมง ทุกๆ 12 ชั่วโมง หรือหยดยาขนาด 60 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ทุก 8 ชั่วโมง ซึ่งแพทย์อาจต้องใช้ยานี้ต่อเนื่อง เป็นเวลา 2–3 สัปดาห์ โดยขึ้นกับการตอบสนองต่อยานี้ของร่างกายผู้ป่วย ทั้งนี้ขนาดที่ใช้คงระดับการรักษาอยู่ที่ 90–120 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยใช้เวลาหยดยาเข้าหลอดเลือดดำ 2 ชั่วโมง วันละ 1 ครั้ง
ข. สำหรับการติดโรคเริมที่ใช้ยา Acyclovir แล้วไม่ได้ผล:
- ผู้ใหญ่: หยดยาเข้าหลอดเลือดดำ 40 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เป็นเวลา 1 ชั่วโมง เป็นอย่างต่ำ และต้องให้ยาผู้ป่วยทุกๆ 8 หรือ 12 ชั่วโมง ระยะเวลาการใช้ยา ประมาณ 2–3 สัปดาห์
ค. สำหรับรักษาการติดเชื้องูสวัด:
- ผู้ใหญ่: ฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำ 90 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ทุกๆ 12 ชั่วโมง
อนึ่ง:
- เด็ก: การใช้ยานี้กับเด็กควรต้องเป็นไปตามดุลยพินิจของแพทย์
- ผู้ป่วยโรคไตที่แพทย์มีความประสงค์จะใช้ยานี้ แพทย์จะปรับลดขนาดการใช้ยาลงมาตามความเหมาะสมกับสภาพไตของผู้ป่วย
*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสม ควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาฟอสคาร์เนท ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร ดังนี้
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
- มีโรคประจำตัวต่างๆ อย่างเช่น โรคไต โรคหัวใจ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาฟอสคาร์เนท อาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากไม่มารับการฉีดยาควรทำอย่างไร?
หากลืมมารับการฉีดยาฟอสคาร์เนท สามารถติดต่อ แพทย์/พยาบาล/บุคคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องได้ทันทีที่นึกได้ เพื่อนัดหมายการฉีดยานี้โดยเร็ว
อนึ่ง การหยุดฉีดยาฟอสคาร์เนทกะทันหัน จะทำให้อาการป่วยกลับมาเป็นซ้ำ
ฟอสคาร์เนทมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาฟอสคาร์เนท สามารถก่อให้เกิด ผลไม่พึงประสงค์จากยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกาย ดังนี้ เช่น
- ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น มีอาการท้องเสียหรือท้องผูก อาเจียน คลื่นไส้ ปวดท้อง อาหารไม่ย่อย ปากแห้ง ท้องอืด
- ผลต่อระบบประสาท: เช่น ปวดศีรษะ วิงเวียน ความรู้สึกสัมผัสเพี้ยน เกิดภาวะชัก ตัวสั่น
- ผลต่อระบบทางเดินปัสสาวะ: เช่น ทางเดินปัสสาวะอักเสบ(โรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ) ปัสสาวะมีเลือดปน/ปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะขัด ปัสสาวะมาก
- ผลต่อระบบทางเดินหายใจ: เช่น ไอ ไซนัสอักเสบ เยื่อจมูกอักเสบ คออักเสบ หายใจขัด/หายใจลำบาก หลอดลมหดเกร็งตัว/หายใจลำบาก
- ผลต่อผิวหนัง: เช่น เกิดผื่นคันตามผิวหนัง
- ผลต่อระบบกล้ามเนื้อและกระดูก: เช่น ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ
- ผลต่อระบบการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย: เช่น แคลเซียมในเลือดต่ำ โปแตสเซียมในเลือดต่ำ อาจเกิดภาวะร่างกายเสียน้ำ/ภาวะขาดน้ำ
- ผลต่อระบบเลือด: เช่น เกิดภาวะเลือดจาง กดไขกระดูก มีภาวะเม็ดเลือดขาวลดต่ำ เกล็ดเลือดลดลง ฮีโมโกลบินต่ำลง
- ผลต่อตับ: เช่น ตับทำงานผิดปกติ/ ค่าเอนไซม์การทำงานของตับในเลือดเพิ่มขึ้น
- ผลต่อไต: เช่น สร้างความเสียหายให้ไต/ไตอักเสบ ไตวายเฉียบพลัน
- ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด: เช่น ความดันโลหิตสูง ชีพจรเต้นผิดปกติ หัวใจเต้นเร็ว คลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ
- ผลต่อสภาพจิตใจ: เช่น ซึม นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย รู้สึกสับสน วิตกกังวล
- ผลต่อตา: เช่น การมองเห็นภาพไม่ชัดเจน ปวดตา เยื่อตาอักเสบ
มีข้อควรระวังการใช้ฟอสคาร์เนทอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาฟอสคาร์เนท เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
- ห้ามใช้ยานี้ที่มีสภาพเปลี่ยนไปจากเดิม ยามีผงตะกอน
- ต้องใช้ยานี้ต่อเนื่องนานเกิน 2-3 สัปดาห์ตามแพทย์สั่ง
- ห้ามใช้ยานี้กับ สตรีมีครรภ์/ตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร
- มารับการฉีดยานี้ตามที่แพทย์นัดหมายทุกครั้ง
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด(รวมยาฟอสคาร์เนทด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์ฌสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ
ฟอสคาร์เนทมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาฟอสคาร์เนทมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- ห้ามใช้ยาฟอสคาร์เนทร่วมกับ ยาPentamidine ด้วยจะทำให้ระดับแคลเซียมในเลือดต่ำจนอาจเป็นเหตุให้ถึงกับเสียชีวิต
- ห้ามใช้ยาฟอสคาร์เนทร่วมกับยา Amiodarone ด้วยจะทำให้เกิดหัวใจเต้นผิดปกติตามมา
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาฟอสคาร์เนทร่วมกับยาTacrolimus ด้วยจะทำให้ไตทำงานผิดปกติ
- ห้ามใช้ยาฟอสคาร์เนทร่วมกับยา Bupropion , Tramadol, ด้วยจะทำให้เกิดภาวะลมชักได้ง่าย
ควรเก็บรักษาฟอสคาร์เนทอย่างไร?
ควรเก็บยาฟอสคาร์เนท ภายใต้อุณหภูมิ 20-25 องศาเซลเซียส (Celsius) ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งตู้เย็น เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อนและความชื้น และเก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ฟอสคาร์เนทมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาฟอสคาร์เนท มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Foscavir (ฟอสคาเวียร์) | Fresenius Kabi |
บรรณานุกรม
- https://en.wikipedia.org/wiki/Foscarnet[2017,Aug19]
- https://www.drugs.com/cdi/foscavir.html[2017,Aug19]
- https://www.accessdata.fda.gov/drugsatfda_docs/label/2012/020068s018lbl.pdf [2017,Aug19]
- https://www.medicines.org.uk/emc/PIL.10191.latest.pdf[2017,Aug19]