พารัลดีไฮด์ (Paraldehyde)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 8 พฤษภาคม 2565
- Tweet
สารบัญ
- บทนำ: คือยาอะไร?
- พารัลดีไฮด์มีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?
- พารัลดีไฮด์มีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- พารัลดีไฮด์มีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- พารัลดีไฮด์มีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- พารัลดีไฮด์มีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้พารัลดีไฮด์อย่างไร?
- พารัลดีไฮด์มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาพารัลดีไฮด์อย่างไร?
- พารัลดีไฮด์มีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- ยาคลายเครียด ยากล่อมประสาท (Transquilizer Drugs)
- ลมชัก (Epilepsy)
- บาดทะยัก (Tetanus)
บทนำ: คือยาอะไร?
พารัลดีไฮด์ (Paraldehyde) คือ ยาใช้รักษาอาการลมชัก เคยนำมาใช้บำบัดผู้ที่ติดสุรารวมถึงอาการทางจิตประสาทเช่น อาการซึมเศร้า ช่วยผ่อนคลายและทำให้นอนหลับอีกด้วย เคยมีข้อมูลเปรียบเทียบระหว่างการใช้ยาพารัลดีไฮด์กับยากลุ่มเบนโซไดอะซีปีน (Benzodiazepine) พบว่า ยาพารัลดีไฮด์ก่อให้เกิดภาวะกดการหายใจ (อาการคือ หายใจช้าเบาและตื้น และอาจหยุดหายใจได้)น้อยกว่า จากข้อมูลนี้จึงเป็นเหตุผลสนับสนุนให้ใช้ยาพารัลดีไฮด์เป็นยารักษาอาการลมชักของเด็ก(นิยามคำว่าเด็ก)ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น ในที่พักอาศัย อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยของการใช้ยาจึงมีการใช้ยาอื่นทดแทนพารัลดีไฮด์ในการรักษาอาการติดสุราและอาการทางประสาท
รูปแบบยาแผนปัจจุบันของยาพารัลดีไฮด์อาจแบ่งได้ดังนี้
- ยาน้ำชนิดรับประทาน: ซึ่งมีผล/อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา(ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) ที่เด่นชัดคือ ทำให้ลมหายใจของผู้ที่รับประทานยานี้มีกลิ่นแรง-ฉุน และอาจทำความรบกวนทั้งผู้ป่วยและผู้ที่อยู่รอบข้างได้ แต่กลิ่นเหล่านี้จะค่อยๆหายไปเองภายในเวลา 1 วันหลังการใช้ยา
- ยาฉีด: ซึ่งมีใช้ในสถานพยาบาลเท่านั้น การใช้ยาจะต้องเป็นไปตามคำสั่งแพทย์
- ยาน้ำสำหรับสวนเข้าทางทวารหนัก: ซึ่งมักจะใช้รักษาอาการลมชักของเด็กเล็กที่แพทย์แนะนำให้ผู้ปกครองสามารถใช้รักษาอาการลมชักของบุตรหลาน ณ.ที่พักอาศัยได้
ยังมีเหตุผลบางประการที่แพทย์มักนำมาประกอบในการเลือกใช้ยาพารัลดีไฮด์ว่าเหมาะสมกับผู้ป่วยมากน้อยเพียงใดหรือไม่อย่างเช่น
- ผู้ป่วยเคยมีประวัติแพ้ยาพารัลดีไฮด์มาก่อนหรือไม่
- เคยมีประวัติติดยาเสพติดหรือติดสุราหรือไม่ด้วยร่างกายผู้ป่วยกลุ่มนี้สามารถตอบสนองทำให้ติดยาพารัลดีไฮด์ได้เช่นเดียวกันจนส่งผลกระทบต่อการรักษา
- หากผู้ป่วยมี ภาวะลำไส้อักเสบ กระเพาะอาหารอักเสบ แผลในกระเพาะอาหาร การใช้ยาพารัลดีไฮด์ชนิดรับประทานอาจทำให้อาการอักเสบเหล่านั้นรุนแรงมากขึ้น
- ผู้ป่วย โรคปอด โรคหืด โรคตับ หากได้รับยาพารัลดีไฮด์อาจก่อให้เกิดอาการข้างเคียงกับตัวผู้ป่วยได้มากกว่าผู้ป่วยกลุ่มอื่น
อนึ่ง หลังจากมีการจ่ายยาพารัลดีไฮด์กับผู้ป่วยเพื่อนำกลับไปใช้ที่บ้าน ยังมีข้อพึงระวังปลีก ย่อยที่ไม่ควรละเลย แพทย์/เภสัชกรจะให้คำแนะนำและมีรายละเอียดเพิ่มเติมอีกอาทิ
ก. สำหรับยารับประทาน: เช่น
- ห้ามใช้ช้อนพลาสติกหรือแก้วพลาสติกในการตวงยา ด้วยตัวยาจะทำปฏิกิริยากับเนื้อพลาสติกและกระทบต่อประสิทธิภาพในการรักษา ควรใช้ภาชนะที่เป็นโลหะหรือแก้วเท่านั้น
- สามารถผสมยาในนมหรือน้ำผลไม้เย็นๆก่อนการรับประทาน ทั้งนี้จะช่วยปรับปรุงรสชาติให้น่ารับประทานมากขึ้น และลดความรู้สึกไม่สบายในกระเพาะอาหาร-ลำไส้ได้บ้างพอสมควร
ข. สำหรับยาชนิดสวนเข้าทางทวารหนัก: เช่น
- ผู้ปกครองต้องเรียนรู้วิธีการใช้ยารูปแบบสวนเข้าทางทวารหนักอย่างถูกต้องจากสถาน พยาบาลที่ตรวจรักษา และสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้องเมื่ออาการลมชักเกิดขึ้นกับบุตร-หลาน
ทั้งนี้ยาพารัลดีไฮด์มีข้อควรระวังอีกมากมาย การเลือกรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมต้องอาศัยดุลยพินิจของแพทย์มาประกอบเท่านั้น ผู้ป่วยควรได้รับการดูแลและต้องปฏิบัติตัวตามคำ แนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ห้ามปรับเปลี่ยนขนาดการใช้ยาด้วยตนเองเป็นอันขาด
พารัลดีไฮด์มีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?
ยาพารัลดีไฮด์มีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้: เช่น
- ใช้เป็นยาสงบประสาท/ยาคลายเครียด ช่วยให้นอนหลับ
- ใช้บำบัดอาการโรคลมชัก, อาการชักจากโรคบาดทะยัก, อาการชักจากพิษของยาอื่น
- บำบัดอาการสั่น-เพ้อด้วยเหตุขาดสุรา
พารัลดีไฮด์มีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
กลไกการออกฤทธิ์ของยาพารัลดีไฮด์คือ เป็นยาที่มีฤทธิ์สงบประสาทช่วยให้นอนหลับ และรักษาอาการลมชัก โดยยาจะออกฤทธิ์ที่สมองและก่อให้เกิดการปรับสมดุลของกระแสประสาทจากสมอง ส่งผลต่ออาการชักให้สงบและทุเลาลง ตัวยายังสามารถซึมผ่านเข้าปอด น้ำไขสันหลัง ก่อนที่จะถูกขับออกไปกับปัสสาวะ ข้อดีบางประการของยานี้คือ มีผลกระทบต่อระบบการหายใจและต่อระบบความดันโลหิตของผู้ป่วยได้บ้าง แต่ไม่ค่อยพบถึงขั้นอันตรายรุนแรง
พารัลดีไฮด์มีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาพารัลดีไฮด์มีรูปแบบการจัดจำหน่าย:
- ยาฉีด ขนาดความแรง 100% ขนาดบรรจุ 5 มิลลิลิตร/ขวด
- ยาน้ำชนิดรับประทานและยาน้ำชนิดสวนเข้าทางทวารหนัก โดยขนาดบรรจุจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลเป็นผู้จัดทำให้กับผู้ป่วย
พารัลดีไฮด์มีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
ยาพารัลดีไฮด์มีขนาดการบริหารยา/การใช้ยา เช่น
- ยาชนิดฉีด: เช่น
ก.เพื่อช่วยให้นอนหลับ: เช่น
- ผู้ใหญ่: ฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อครั้งละ 10 มิลลิลิตร
- เด็ก(นิยามคำว่าเด็ก): ฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อขนาด 0.3 มิลลิลิตร/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/วัน
ข. บำบัดอาการชักจากโรคบาดทะยักหรือจากการได้รับพิษของยาอื่น: เช่น
- ผู้ใหญ่: ฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อครั้งละ 5 - 10 มิลลิลิตร
- เด็ก: ขนาดยาขึ้นกับน้ำหนักตัวของเด็ก ความรุนแรงของอาการ และดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษา
ค. สำหรับอาการสั่นด้วยเหตุขาดสุรา:
- ผู้ใหญ่: ฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อครั้งละ 5 มิลลิลิตรทุก 4 - 6 ชั่วโมงเป็นเวลา 1 วัน จากนั้น แพทย์อาจลดความถี่ในการให้ยาเหลือทุก 6 ชั่วโมงในวันถัดมา ขนาดการให้ยาสูงสุดในวันแรกไม่เกิน 30 มิลลิลิตร/วันและ 20 มิลลิลิตร/วันในวันถัดมาของการรักษา
- เด็ก: การใช้ยานี้ในเด็กขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีๆไป
- ยาชนิดที่ใช้ทางทวารหนัก: เช่น
สำหรับอาการชักในเด็ก: เด็กอายุ 1 เดือน - 18 ปี: ให้ยาทางทวารหนักขนาด 0.4 มิลลิ ลิตร/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมโดยต้องเจือจางยาด้วยน้ำมันมะกอกเท่าตัวก่อนสวนเข้าทางทวารหนักของเด็ก ห้ามสวนเข้าทวารหนักโดยไม่ได้เจือจางตัวยาก่อนเป็นอันขาด
- ยาชนิดรับประทาน: เช่น สำหรับสงบประสาท: เช่น
- ผู้ใหญ่: รับประทานยาครั้งละ 4 - 8 มิลลิลิตรโดยเจือจางกับนมหรือน้ำผลไม้
- เด็ก: รับประทานครั้งละ 0.15 -3 มิลลิลิตร/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมโดยเจือจางกับนมหรือน้ำผลไม้
*อนึ่งยานี้รับประทานหลังอาหาร
*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมถึงยาพารัลดีไฮด์ ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เช่น
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้วคลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก/หอบเหนื่อย
- มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาพารัลดีไฮด์อาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรกและเข้าสู่ทารก จนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
หากลืมรับประทานยาพารัลดีไฮด์ สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
พารัลดีไฮด์มีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ผล/ อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) ของยาพารัลดีไฮด์ที่อาจพบได้จากทุกรูปแบบผลิตภัณฑ์ มีดังนี้ เช่น
ก. ชนิดฉีด: เกิดอาการไอ ปอดบวม มีเลือดออกในปอด ความดันโลหิตต่ำ
ข. ชนิดที่ให้ทางทวารหนัก: เกิดการระคายเคืองในบริเวณทวารหนักหรือเกิดแผลในทวารหนัก ง่วงนอน อาจเกิดผื่นคันทางผิวหนัง
ค. ชนิดรับประทาน: เกิดอาการง่วงนอน ปวดหัว คลื่นไส้อาเจียน ลมหายใจมีกลิ่นแรงและฉุน อาจพบอาการวิงเวียนคล้ายกับอาการเมาค้างได้บ้าง
*สำหรับผู้ที่ได้รับยานี้เกินขนาด: อาจพบอาการปัสสาวะมีสีขุ่น รู้สึกสับสน ปัสสาวะน้อย หายใจเร็วและแรง กล้ามเนื้อกระตุก คลื่นไส้-อาเจียน กระสับกระส่าย หัวใจเต้นช้า เป็นตะคริวที่ท้องอย่างรุนแรง และอ่อนเพลีย ซึ่งถ้าผู้ป่วยใช้ยานี้และมีอาการดังกล่าวให้หยุดใช้ยานี้และรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที/ฉุกเฉิน
มีข้อควรระวังการใช้พารัลดีไฮด์อย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้พารัลดีไฮด์ เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
- ห้ามใช้ยานี้กับสตรีตั้งครรภ์และสตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตรด้วยตัวยาพารัลดีไฮด์สามารถ ซึมผ่านรกและเข้าสู่น้ำนมมารดาได้ หากตัวยาถูกส่งผ่านถึงทารกอาจก่อให้เกิดภาวะกดการหาย ใจในเด็กทารกได้
- ห้ามปรับเปลี่ยนขนาดรับประทานด้วยตนเอง
- ห้ามใช้ยาที่มีสภาพเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
- หลีกเลี่ยงการใช้ยานี้กับผู้ป่วย โรคปอด โรคตับ โรคกระเพาะอาหารอักเสบ โรค ลำไส้อักเสบ
- หลีกเลี่ยงมิให้ยาพารัลดีไฮด์เข้าตา สัมผัสผิวหนังหรือเสื้อผ้า
- การใช้ยานี้เป็นเวลานานอาจทำให้ร่างกายเกิดการติดยา เกิดพิษต่อตับและต่อไตของผู้ป่วย รวมถึงเกิดภาวะเลือดเป็นกรดอันเนื่องมาจากกระบวนการเผาผลาญของร่างกาย (อาการเช่น หายใจเร็ว สับสน อ่อนเพลียมาก อาจโคม่า)
- การหยุดใช้ยานี้โดยทันทีอาจทำให้เกิดภาวะประสาทหลอนหรือเกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้นได้ แพทย์จะเป็นผู้แนะนำการหยุดยานี้อย่างเป็นขั้นตอนเพื่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้ป่วยน้อยที่สุด
- การใช้ยาพารัลดีไฮด์เพื่อช่วยให้นอนหลับควรใช้เพียงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น ตัวยาจะกระ ตุ้นให้เกิดอาการง่วงนอนได้อย่างรวดเร็วขณะที่ได้รับยานี้ จึงควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ยวดยานพาหนะหรือการควบคุมเครื่องจักรต่างๆ
- มาพบแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจสอบความก้าวหน้าของอาการผู้ป่วยหลังการบำบัดด้วยยานี้
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง: ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาพารัลดีไฮด์) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิดและสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกชนิดควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวม ทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน
พารัลดีไฮด์มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาพารัลดีไฮด์มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- ห้ามดื่มสุรา/เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ร่วมกับการใช้ยาพารัลดีไฮด์ด้วยจะทำให้มี อาการข้างเคียงต่อระบบประสาทอย่างมาก เช่น วิงเวียน ง่วงนอน ขาดสมาธิ เกิดการสูญเสียความสามารถในการตัดสินใจ
- การใช้ยาพารัลดีไฮด์ ร่วมกับยา Disulfiram อาจก่อให้เกิดอาการข้างเคียงต่างๆ เช่น ใบหน้าแดง มีอาการปวดตุบๆในศีรษะและบริเวณคอ หายใจลำบาก คลื่นไส้อาเจียน เจ็บหน้าอก ชีพจรเต้นเร็ว ความดันโลหิตต่ำ วิงเวียน เป็นลม ตาพร่า เกิดอาการชัก ภาวะหัวใจล้มเหลว เพื่อป้องกันการเกิดอาการข้างเคียงดังกล่าวจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
- การใช้ยาพารัลดีไฮด์ ร่วมกับยา Propoxyphene อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบการ ทำงานของเซลล์ประสาท โดยพบอาการ วิงเวียน ง่วงนอน ขาดสมาธิ ความสามารถในการตัดสินใจด้อยประสิทธิภาพลงไป หากไม่มีความจำเป็นใดๆควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
- ห้ามใช้ยาพารัลดีไฮด์ ร่วมกับยา Sodium oxybate ด้วยจะเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะ กดการหายใจ เกิดความดันโลหิตต่ำ เป็นลม จนถึงขั้นโคม่า และอาจตายได้ในที่สุด
ควรเก็บรักษาพารัลดีไฮด์อย่างไร?
ควรเก็บยาพารัลดีไฮด์:
- เก็บยาภายใต้อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส (Celsius)
- ไม่เก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น
- ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์
- เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อน และความชื้น
- เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
พารัลดีไฮด์มีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาพารัลดีไฮด์ มียาชื่อการค้าอื่น และบริษัทผู้ผลิต เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Paraldehyde DBL (พารัลดีไฮด์ ดีบีแอล) | David Bull |
Paral (พารัล) | Forest Laboratories |
บรรณานุกรม
- https://en.wikipedia.org/wiki/Paraldehyde [2022,May7]
- https://www.drugs.com/cons/paraldehyde-oral-injection-rectal.html [2022,May7]
- https://www.mayoclinic.org/drugs-supplements/paraldehyde-oral-route-injection-route-rectal-route/side-effects/drg-20065329 [2022,May7]
- https://www.mims.com/thailand/drug/info/paraldehyde?mtype=generic [2022,May7]
- https://www.mims.com/Singapore/drug/info/Paraldehyde%20DBL/ [2022,May7]
- https://www.mims.com/India/drug/info/paraldehyde/?type=full&mtype=generic [2022,May7]
- https://www.gosh.nhs.uk/conditions-and-treatments/medicines-information/paraldehyde-and-olive-oil-enema/ [2022,May7]
- https://www.evelinalondon.nhs.uk/resources/patient-information/administration-of-rectal-paraldehyde-to-children.pdf [2022,May7]
- https://www.drugs.com/food-interactions/paraldehyde.html [2022,May7]
- https://www.drugs.com/drug-interactions/paraldehyde-index.html?filter=3&generic_only= [2022,May7]
- https://www.sdrugs.com/ [2022,May7]