ผลข้างเคียงของการฉายรังสีต่อระบบประสาท (Effects of CNS Radiation therapy)
- โดย ศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า
- 3 สิงหาคม 2562
- Tweet
- บทนำ
- ผลข้างเคียงจากการฉายรังสีต่อระบบประสาทคืออะไร?
- ผลข้างเคียงจากการฉายรังสีต่อระบบประสาทเกิดขึ้นได้อย่างไร?
- ผลข้างเคียงจากการฉายรังสีต่อระบบประสาทก่อให้เกิดโรคที่ส่วนใดบ้าง?
- ปัจจัยใดที่มีผลต่อการเกิดผลข้างเคียงจากการฉายรังสีต่อระบบประสาท?
- อาการต่างๆจะเกิดขึ้นเมื่อใด?
- แพทย์ให้การวินิจฉัยอาการต่างๆว่าเกิดจากผลของการฉายรังสีได้อย่างไร?
- อาการผิดปกติต่างๆรักษาอย่างไร?
- อาการผิดปกติต่างๆมีการพยากรณ์โรคอย่างไร?
- ดูแลตนเองอย่างไรเมื่อมีอาการผิดปกติเหล่านี้?
- สรุป
- กายวิภาคและสรีรวิทยาระบบประสาท (Anatomy and physiology of nervous system)
- รังสีรักษา ฉายรังสี ใส่แร่ (Radiation therapy)
- การฉายรังสีรักษา เทคนิคการฉายรังสี (External irradiation)
- โรคสมอง โรคทางสมอง (Brain disease)
- โรคไขสันหลัง (Spinal cord disease)
- โรคต่อมไร้ท่อ โรคระบบต่อมไร้ท่อ (Endocrine disease)
- สมองบวม (Brain Edema)
- สมองเสื่อม (Dementia)
บทนำ
การรักษาโรคมะเร็งในปัจจุบัน มีวิธีการรักษาที่ได้ผลดีมากขึ้น เช่น การให้ยาเคมีบำบัด การฉายรังสี/รังสีรักษา หรือการผ่าตัดที่มีความปลอดภัย ผู้ที่เป็นโรคนี้มีโอกาสหายได้สูงขึ้น อย่างไรก็ตามการรักษาทุกอย่างก็มีผลไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นด้วย เช่น ผมร่วง คลื่นไส้ อาเจียนหลังได้ยาเคมีบำบัด หรืออาการปวดศีรษะ อาเจียน ซึมลงหลังจากได้รับการฉายแสงบริเวณสมอง อาการเหล่านี้ เกิดขึ้นได้อย่างไร และอันตรายหรือไม่ ต้องติดตามจากบทความนี้
ผลข้างเคียงจากการฉายรังสีต่อระบบประสาทคืออะไร?
ผล หรือผลข้างเคียงจากการฉายรังสี คือ อาการผิดปกติที่เกิดขึ้นในผู้ป่วยที่ได้รับการฉายรังสี เพื่อรักษาโรคมะเร็งบริเวณสมอง และเนื้อเยื่อ/อวัยวะที่อยู่ติดกับระบบประสาท เช่น โพรงหลังจมูก หรือกระดูกสันหลัง และผลของรังสีนั้นทำให้มีความผิดปกติเกิดขึ้นต่อระบบประ สาท เช่น ปวดศีรษะ อาเจียน อาการอ่อนแรง ซึมลง และ/หรือชัก เป็นต้น
ผลข้างเคียงจากการฉายรังสีต่อระบบประสาทเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ผลข้างเคียงจากการฉายรังสีต่อระบบประสาท เกิดจาก 3 กลไกหลัก คือ
- ผลของรังสีต่อเนื้อเยื่อต่างๆของระบบประสาทโดยตรง ในส่วนของอวัยวะที่มีการฉายรังสี หรือได้รับรังสีดังกล่าว เช่น สมอง ไขสันหลัง เป็นต้น
- ผลจากรังสีที่มีผลต่อหลอดเลือดที่เลี้ยงสมอง และ/หรือต่อมไร้ท่อ (Endocrine gland) เช่น ต่อมใต้สมอง (Pituitary gland) ต่อมไทรอยด์ ซึ่งการทำงานของต่อมไร้ท่อเหล่า นี้ มีผลต่อระบบการทำงานของระบบประสาท
- ผลจากรังสีที่มีผลต่อโรคมะเร็งโดยตรง เช่น ก้อนเนื้องอก ทำให้ก้อนเนื้องอกมีอาการบวมโตขึ้น จึงอาจกดเบียดเนื้อสมองหรือไขสันหลังปกติได้
ผลข้างเคียงจากการฉายรังสีต่อระบบประสาทก่อให้เกิดโรคที่ส่วนใดบ้าง?
ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นนั้น ขึ้นกับบริเวณที่ฉายรังสี ทั้งนี้ระบบประสาทที่มีโอกาสได้รับผลกระทบบ่อยๆ คือ ก. สมอง, ข. ไขสันหลัง, ค. เส้นประสาทสมอง, ง. เส้นประสาท
สมอง:
อาการที่เกิดขึ้นจากผลข้างเคียงของการฉายรังสีที่สมอง ที่อาจพบได้ ได้แก่
- สมองบวม ปวดศีรษะ อาเจียน ซึม
- แขนขาอ่อนแรงจากสมองบวม
- ชัก
- สับสน
- สมองฝ่อ สมองเสื่อม (อาการในระยะยาว)
ไขสันหลัง:
ผลข้างเคียงของการฉายรังสีต่อไขสันหลัง อาการที่อาจพบได้ ได้แก่
- อาการปวดร้าวเหมือนไฟช็อตจากคอไปที่หลัง ถึงก้น และ/หรือ ถึงแขน ขา เวลาก้มคอ (Lhermitte’s sign)
- อาการชา ตามปลายมือ ปลายเท้า
- อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงของขา
- อาการปัสสาวะ อุจจาระ ลำบาก
เส้นประสาทสมอง:
ผลข้างเคียงของการฉายรังสีต่อเส้นประสาทสมอง จะขึ้นกับการฉายรังสีครอบคลุมประ สาทสมองเส้นใด อาการที่อาจพบได้ ได้แก่
- การดมกลิ่นเสียไป ถ้าฉายรังสีครอบคลุมประสาทสมองเส้นที่ 1
- การมองเห็นผิดปกติ ตาแห้ง ต้อกระจก ต้อหิน ประสาทตาเสื่อม ถ้าฉายรังสีครอบคลุมตา/ประสาทสมองเส้นที่ 2
- การได้ยินลดลง เสียการทรงตัว ถ้าฉายรังสีครอบคลุมประสาทสมองเส้นที่ 8 (ประสาทหู)
- การเคี้ยว การกลืนลำบาก การรับรสเปลี่ยนไป ถ้าฉายรังสีครอบคลุมประสาทสมองเส้นที่ 9,10
เส้นประสาท:
ผลข้างเคียงของการฉายรังสีต่อเส้นประสาท อาการที่อาจพบได้ ได้แก่
- อาการชาของแขน ขา
- อาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ แขน ขา
ปัจจัยใดที่มีผลต่อการเกิดผลข้างเคียงจากการฉายรังสีต่อระบบประสาท?
ปัจจัยที่มีผลต่อโอกาสเกิดผลข้างเคียงจากการฉายรังสีต่อระบบประสาท ได้แก่
- ชนิดของโรคมะเร็ง
- ขนาดของก้อนเนื้อมะเร็ง
- ปริมาณของรังสีที่ได้รับแต่ละครั้ง และปริมาณรังสีที่ได้รับทั้งหมดตลอดการรักษา
- บริเวณของระบบประสาทที่ได้รับรังสี
- โรคประจำตัวต่างๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
อาการต่างๆจะเกิดขึ้นเมื่อใด?
การเกิดผลข้างเคียง/ผลแทรกซ้อนจากการฉายรังสีต่อระบบประสาทนั้น เกิดขึ้นได้เป็น 3 ระยะ คือ
- ระยะเริ่มของการฉายรังสี เป็นนาที หรือ เป็นวัน คือ เป็นทันที หรือเป็นวันหลังฉายรังสี เช่น สมองบวม ความดันในโพรงกะโหลกศีรษะสูง
- ระยะปานกลาง เป็นสัปดาห์หลังการเริ่มฉายรังสี มักเกิดจากเซลล์ประสาทที่มีการอัก เสบ หรือตายเกิดขึ้น
- ระยะยาว เป็นเดือนถึงปี เช่น ภาวะสมองฝ่อ สมองเสื่อม
แพทย์ให้การวินิจฉัยอาการต่างๆว่าเกิดจากผลของการฉายรังสีได้อย่างไร?
แพทย์ให้การวินิจฉัยว่า อาการผิดปกติทางระบบประสาทเกิดจากผลของรังสี โดย
- พิจารณาจากประวัติที่ได้รับการฉายรังสี และอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น
- ร่วมกับการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ และ/หรือเอมอาร์ไอ สมองหรือไขสันหลัง กรณีสงสัยว่ามีผลข้างเคียงที่สมองหรือไขสันหลัง
- และตรวจคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อ กรณีสงสัยความผิดปกติของเส้นประสาท เพื่อแยกว่าความผิดปกติไม่ได้เกิดจากกล้ามเนื้อ
อาการผิดปกติต่างๆรักษาอย่างไร?
การรักษาผลข้างเคียงจากรังสีรักษาต่อระบบประสาท ขึ้นกับอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น และช่วงระยะเวลาที่เกิดขึ้น เช่น ภาวะสมองบวม ให้การรักษาด้วยยาสเตียรอยด์ หรือถ้าบวมมาก จนมีการกดเบียดกดสมอง ก็อาจต้องผ่าตัดสมอง เป็นต้น
ถ้าผลข้างเคียงเกิดกับต่อมไร้ท่อ การรักษา คือ การให้ฮอร์โมนรักษาภาวะต่อมไร้ท่อทำ งานผิดปกติ ซึ่งก็ตอบสนองต่อการรักษาดี
อย่างไรก็ตาม การรักษาผลข้างเคียงฯ ส่วนใหญ่คือ การรักษาประคับประคองตามอาการของผลข้างเคียงนั้นๆ เช่น การให้ยารักษาสมองเสื่อม เป็นต้น
อาการผิดปกติต่างๆมีการพยากรณ์โรคอย่างไร?
การพยากรณ์โรคของผลข้างเคียงจากการฉายรังสีต่อระบบประสาท ขึ้นกับความรุนแรงของอาการ และของรอยโรคในระบบประสาท บางครั้งอาจอันตรายถึงชีวิตได้ เช่น สมองบวมมากในช่วงแรก แต่ถ้าในระยะยาวมักไม่รุนแรง แต่ไม่หายขาด เช่น สมองฝ่อ สมองเสื่อม
ดูแลตนเองอย่างไรเมื่อมีอาการผิดปกติเหล่านี้?
การดูแลตนเองเมื่อมีผลข้างเคียงจากการฉายรังสีต่อระบบประสาท ได้แก่
- ระยะเริ่มฉายรังสี: การดูแลตนเองในช่วงนี้คือ การนอนรักษาในโรงพยาบาล คือ ต้องป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล การพยายามเคลื่อนไหว ถ้ามีอาการแขนขาอ่อนแรงร่วมด้วย การสังเกตอาการว่ามีภาวะสมองบวม (อ่านได้จากบทความเรื่อง สมองบวม) หรืออาการผิดปกติอื่นหรือไม่ ถ้ามีอาการผิดปกติให้รีบแจ้งแพทย์หรือพยาบาล เพื่อให้การรักษาที่รวดเร็ว ญาติที่เฝ้าผู้ป่วย ต้องหมั่นพูดคุยกับผู้ป่วย เพื่อป้องกันภาวะสับสนฉับพลัน และสังเกตอาการต่างๆอย่างสม่ำเสมอ เพื่อแจ้งแพทย์ พยาบาล
- ระยะกลาง: การดูแลส่วนใหญ่ ผู้ป่วยอาจจะออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว หรือช่วงหลังของการรักษาในโรงพยาบาล
- กรณีที่ยังพักรักษาในโรงพยาบาล ก็ให้การดูแลเหมือนช่วงแรกๆ คือ ต้องกระตุ้นให้มีกิจ กรรม พยายามพูดคุย เคลื่อนไหว เดินออกกำลังกาย ระวังการติดเชื้อ
- กรณีกลับบ้านแล้ว สิ่งสำคัญคือ การสังเกตว่ามีอาการผิดปกติอะไรที่เปลี่ยนแปลงบ้าง ถ้าสงสัยว่าผิดปกติก็ให้รีบพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลทันที
- ระยะยาว: การดูแลระยะยาวมักเป็นปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้นในระยะยาวเกี่ยวกับต่อมไร้ท่อ สมองฝ่อหรือเหี่ยว ไขสันหลังฝ่อ ดังนั้น สิ่งที่ต้องดูแลคือ
- อาการผิดปกติเกี่ยวกับต่อมไร้ท่อ ได้แก่ อาการของการขาดฮอร์โมนไทรอยด์ (ภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมน) เช่น อ่อนเพลีย เชื่อง ช้า ซึม ท้องผูก ขี้หนาว คลื่นไส้อาเจียน นอนตลอดเวลา ความจำไม่ดี หรือมีภาวะสับสน ถ้าพบอาการดังกล่าวควรรีบพบแพทย์/ไปโรงพยาบาล
- และเพื่อเป็นการป้องกันภาวะสมองเสื่อม ก็ควรฝึกสมอง/ออกกำลังสมองให้มากยิ่งขึ้น มีกิจกรรมต่างๆ และไม่ควรอยู่บ้านเฉยๆ
สรุป
ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ แต่ถ้าเจ็บป่วยแล้ว ใจต้องเข้มแข็ง เราควรแค่เจ็บป่วยทางกายเท่านั้น แต่ใจต้องเข็งแรง