ปวดเท้า (Foot pain)
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
- 16 กรกฎาคม 2555
- Tweet
- โรคกล้ามเนื้อ (Muscle disease)
- โรคกระดูก(Bone disease)
- โรคข้อ(Joint disease)
- โรคเบาหวาน (Diabetes mellitus)
- โรคเส้นประสาท(Peripheral neuropathy)
- โรคเกาต์(Gout)
ปวด/เจ็บเท้า (Foot pain) เป็นอาการพบบ่อยในทุกวัยตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ สาเหตุที่ทำให้ปวดเท้าที่พบบ่อยคือ ใส่รองเท้าไม่เหมาะสม รัดหรือหลวมเกินไป ใช้เท้ามากเกินเหตุโดย ไม่ได้พักเท้า มีตาปลาหรือมีหูดที่เท้า มีรูปเท้าผิดปกติตั้งแต่เกิด ฝ่าเท้าแบนผิดปกติ
สาเหตุอื่นที่พบได้คือ เอ็นและ/หรือเนื้อเยื่อต่างๆของเท้าอักเสบจากใช้เท้ามากเกินเหตุ มีโรคข้ออักเสบเรื้อรังจากสาเหตุต่างๆเช่น โรคข้อรูมาตอยด์ โรคเกาต์ มีปุ่มกระดูกงอกที่เท้า (มักพบในผู้สูงอายุ) ภาวะกระดูกร้าวจากใช้งานเท้ามากเกินไป (Stress fracture) จากปลายประสาทอักเสบเช่น จากโรคเบาหวาน จากเท้าขาดเลือดจากปัญหาการไหลเวียนโลหิตเช่น โรคหลอดเลือดขอดของขาหรือจากโรคหลอดเลือดอักเสบ โรคหลอดเลือดแดงแข็งเช่น ในโรคเบาหวาน นอกจากนี้คือการแบกรับน้ำหนักของเท้าจากโรคอ้วนหรือน้ำหนักตัวเกิน
การดูแลตนเองเมื่อมีอาการปวดเท้าคือ
- พักการใช้งานเท้าจนกว่าอาการจะดีขึ้น
- หลีกเลี่ยงการลงน้ำหนักบนเท้า
- พันผ้ายืด (Elastic bandage) รอบเท้าเพื่อช่วยพยุงเท้า
- เลือกใช้รองเท้าที่เหมาะสมกับการใช้งาน
- ยกเท้าให้สูงเมื่อนั่งหรือนอน
- กินยาแก้ปวดพาราเซตามอล (Paracetamol)
ควรพบแพทย์/แพทย์โรคกระดูกเมื่อ
- ดูแลตนเองในเบื้องต้นแล้วอาการปวดเท้าไม่ดีขึ้นภายใน 3 - 4 วัน
- เจ็บ/ปวดเท้ามากขึ้นเรื่อยๆ
- เท้าบวม
- นิ้วเท้าสีเขียวคล้ำและ/หรือเท้าเย็นผิดปกติ
- เท้ามีอาการของการอักเสบ (ปวด บวม แดง ร้อน อาจมีไข้)
- อาการปวดเท้าเกิดหลังมีอุบัติติเหตุเพราะอาจมีกระดูกเท้าร้าวได้
- เมื่อเป็นโรคเบาหวานเพราะอาจเป็นผลข้างเคียงจากโรคเช่น ปลายประสาทอัก เสบและ/หรือหลอดเลือดเท้าอักเสบ
บรรณานุกรม
- Foot painhttp://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/003183.htm[2015,May9]
Updated 2015, May 9