ปฏิบัติการในโรงพยาบาล - จากมุมมองของผู้บริหาร
ตอนที่ 142 : บุคลากรหลักในระบบสารสนเทศ
- โดย ดร. วิทยา มานะวาณิชเจริญ
- 11 พฤษภาคม 2557
- Tweet
ในระบบสารสนเทศของโรงพยาบาล มีงานของบุคลากรหลักอยู่ 3 ตำแหน่ง กล่าวคือ นักวิเคราะห์ระบบ (System analyst) นักเขียนโปรแกรม (Programmer) และนักบริหารฐานข้อมูล (Database administrator)
นักวิเคราะห์ระบบ (System analyst) มีบทบาทสำคัญในระบบสารสนเทศ ขึ้นอยู่กับภูมิหลังของเขา และความจำเป็นของโรงพยาบาล นักวิเคราะห์ระบบบางคนมีพื้นฐานแข็งแรงของการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ในขณะที่บางคนมีพื้นฐานนักวิชาชีพดูแลสุขภาพ (Healthcare professionals) อาทิ พยาบาล เภสัชกร หรือเทคนิคการแพทย์ ซึ่งความต้องการในบุคลากรกลุ่มมีมากขึ้น เนื่องจากความสนใจที่เพิ่มขึ้นในการระบบสารสนเทศทางการแพทย์ (Clinical information system : CIS)
นักวิเคราะห์ระบบทำงานใกล้ชิดกับผู้ใช้ ในการค้นหาความจำเป็นและปัญหาในระบบสารสนเทศ การประเมินการเส้นทางของงาน (Workflow) และการกำหนดกลยุทธ์สำหรับการใช้และประสิทธิผลของระบบ โดยการกำหนดสิ่งที่ป้อนเข้าไปในระบบ (Input) การออกแบบขั้นตอนประมวลข้อมูล และรูปแบบ (Format) ของผลลัพธ์ (Output) ที่สนองความต้องการของผู้ใช้ โดยเตรียมข้อกำหนด (Specification) ผังการเส้นทางของงาน (Flowchart) และภาพกระบวนการ (Process diagram)
นักเขียนโปรแกรม (Programmer) อาจเป็นคนเดียวกับนักวิเคราะห์ระบบในโรงพยาบาลขนาดเล็ก แต่ในโรงพยาบาลทั่วไป หน้าที่นี้แยกออกจากนักวิเคราะห์ระบบ เพราะทักษะความชำนาญที่แตกต่างกัน นักเขียนโปรแกรม ทำหน้าที่เขียน ทดสอบ และรักษาไว้ซึ่งโปรแกรม ที่สั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามที่นักวิเคราะห์ระบบต้องการ
นักเขียนโปรแกรมยังสร้าง ออกแบบ และทดสอบโครงสร้างทางตรรกกะ (Logical structure) เพื่อแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการคำนวณ (Advanced computing technology) ภาษาทันสมัยใหม่ๆ และนวัตกรรมการเขียนโปรแกรม ได้เปลี่ยนบทบาทและวิชาชีพของนักเขียนโปรแกรมให้เป็นที่ยอมรับกันมากขึ้น
นักบริหารฐานข้อมูล ทำงานกับซอฟต์แวร์สำเร็จรูปของระบบบริหารฐานข้อมูล และกำหนดวิธีการจัดระเบียบและเก็บข้อมูล เขาค้นหาความต้องการของผู้ใช้ จัดตั้งฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตลอดจนทดสอบและประสานงานการดัดแปลง (Modification) ระบบดังกล่าว นอกจากนี้ยังต้องเข้าใจ “เวทีพื้นฐาน” (Platform) ของการทำงานของฐานข้อมูล เพิ่มผู้ใช้รายใหม่ในระบบ และสร้างความมั่นใจในการทำงานของระบบฐานข้อมูล
นักบริหารฐานข้อมูลอาจต้องออกแบบและติดตั้งความมั่นคง (Security) ของระบบฐานข้อมูล หรือร่วมวางแผนและประสานงานในเรื่องมาตรการความมั่นคง เนื่องจากปริมาณข้อมูลสำคัญที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว งานของนักบริหารฐานข้อมูลก็ทวีความสำคัญไปด้วย ในด้านความสมบูรณ์ของข้อมูล (Data integrity) ระบบสำรอง (Back-up system) และความมั่นคงของฐานข้อมูล
ผมขอเชิญชวนคุณผู้อ่านให้ (1) เขียนมาสอบถามเนื้อหาที่มีข้อสงสัย เพื่อความกระจ่างขึ้น (2) ชี้แนะข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือสิ่งขาดตกบกพร่อง เพื่อการแก้ไขให้ถูกต้อง (3) แสดงความคิดเห็นในแต่ละตอน ทั้งติและชม เพื่อการปรับปรุงให้ดีขึ้น และ (4) แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ของคุณผู้อ่าน เพื่อประโยชน์ต่อสาธารณชนร่วมกัน ครับ
แหล่งข้อมูล
- Wagner, Karen A., Frances W. Lee and John P. Glaser (2009). Health Care Information Systems : A Practical Approach for Health Care Management (2th Ed). San Francisco, CA : Jossey-Bass, A Willey Imprint.
- ประสบการณ์จากเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ กลุ่มโรงพยาบาลพญาไท ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตน์ (โรงพยาบาลรามาธิบดี) และโรงพยาบาลประสานมิตร (มูลนิธิสมาคมปราบวัณโรคแห่งประเทศไทย)