ปฏิบัติการในโรงพยาบาล - จากมุมมองของผู้บริหาร
ตอนที่ 113 : การปรับปรุงคุณภาพในโรงพยาบาล

การปรับปรุงคุณภาพ (Quality Improvement) เป็นคำอธิบาย วัดผล บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร และปรับปรุงคุณภาพอย่างต่อเนื่องซึ่งกระบวนการทำงาน หรือบริการที่ให้แก่ลูกค้าและผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholders) โรงพยาบาลจะเป็นผู้กำหนดเป็นโครงการ (Program) ทบทวนคุณภาพการให้บริการ หรือดูแลผู้ป่วยตลอดกระบวนการและอย่างต่อเนื่อง

การปรับปรุงคุณภาพแตกต่างจากการบริหารความเสี่ยงตรงที่การบริหารความเสี่ยงเป็นกิจกรรมที่มองไปในอนาคต (Prospective) โดยพยายามค้นหาโอกาสที่มีความเสี่ยงสูงทั่วทั้งโรงพยาบาล แต่การปรับปรุงคุณภาพเป็นกิจกรรมที่มองย้อนหลังไปยังอดีต (Retrospective) โดยพยายามวัดผลของการบริการทั่วทั้งโรงพยาบาลเทียบเคียงกับมาตรฐาน

ในปี พ.ศ. 2542 สถาบันการแพทย์ (Institute of Medicine : IOM) ในสหรัฐอเมริกา ได้ตีพิมพ์ผลงานการวิจัยชื่อ “To Err Is Human : Building a Safer Health System” ซึ่งสร้างความตระหนักในเรื่องการรายงานผลลัพธ์ในเชิงลบ (Adverse outcomes) เกี่ยวกับชาวอเมริกันเกือบ 100,000 คนที่ตายในแต่ละปี อันเป็นผลจากความผิดพลาดทางการแพทย์ (Medical errors) และอุบัติเหตุ/อุบัติการณ์ (Misadventure) ในระบบดูแลสุขภาพ

สิ่งตีพิมพ์ชิ้นนี้เน้นหนักในเรื่องความรับผิดชอบ (Accountability) และนำเสนอแนวความคิด (Concept) ของวัฒนธรรมความปลอดภัย (Safety culture) และวัฒนธรรมของความตรงไปตรงมา (Just culture) โดยในวัฒนธรรมแรกให้ความสำคัญสูงสุดในเรื่องความปลอดภัย [โดยเฉพาะผู้ป่วย] ส่วนในวัฒนธรรมหลัง บุคลากรต้องมีอิสระในการรายงานข้อผิดพลาดโดยปราศจากความกลัวต่อการแก้แค้น (Retaliation) [จากผู้บริหารในระดับสูง]

รายงานนี้สร้างความตื่นตัวในกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องการสุขภาพและความปลอดภัยในโรงพยาบาล รายงานอื่นๆ ที่ตามมา ทำให้เกิดการ “ยกเครื่อง” (Overhaul) ครั้งใหญ่ในระบบสุขภาพ รวมทั้ง “ตาข่ายความปลอดภัย” (Safety net) การบริการฉุกเฉิน (Emergency services) และบริการด้านจิตเวชศาสตร์ (Mental health)

ในขณะเดียวกัน คณะกรรมการร่วม (Joint Commissioner) ก็ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการสำรวจ ไปมุ่งเน้นผลลัพธ์ (Outcome) ของการดูแลผู้ป่วย โดยเพิ่มการ “แกะรอย” (Tracer) กล่าวคือ เดินตามผู้ป่วย เพื่อติดตามเฝ้าระวัง (Monitor) ผู้ป่วยจริง ที่ผ่านกระบวนการดูแลรักษาของโรงพยาบาล และกำหนดเป็นนโยบายแห่งชาติในปี พ.ศ. 2545 ของจุดมุ่งหมายในความปลอดภัยของผู้ป่วย (National patient-safety goal) ในบริบทของการบำบัดรักษาในโรงพยาบาล

หลังจากนั้นทีมงานปรับปรุงคุณภาพ (Quality improvement unit: QIT) ก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในโรงพยาบาลต่างๆ โดยตอกย้ำการป้องกัน การค้นหาปัญหาแต่เนิ่นๆ และบริหารบริการที่เหมาะสมในเรื่องของต้นทุน และ/หรือ โอกาสที่มีความผิดพลาดสูง และผลลัพธ์ในเชิงลบ QIT มีหน้าที่ให้ความช่วยเหลือในการลงมือปฏิบัติ (Implementation) ในเรื่องมาตรการความปลอดภัย และแนวทางปฏิบัติการทางการแพทย์ (Clinical practice guidelines : CPG) บนเชิงประจักษ์หลักฐาน (Evidence-based)

ผมขอเชิญชวนคุณผู้อ่านให้ (1) เขียนมาสอบถามเนื้อหาที่มีข้อสงสัย เพื่อความกระจ่างขึ้น (2) ชี้แนะข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือสิ่งขาดตกบกพร่อง เพื่อการแก้ไขให้ถูกต้อง (3) แสดงความคิดเห็นในแต่ละตอน ทั้งติและชม เพื่อการปรับปรุงให้ดีขึ้น และ (4) แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ของคุณผู้อ่าน เพื่อประโยชน์ต่อสาธารณชนร่วมกัน ครับ

แหล่งข้อมูล:

  1. Griffin, Donald J. (2012). Hospitals : What They Are and How They Work (4th Ed). Sudbury, MA : Jones & Bartlett Learning.
  2. ประสบการณ์จากเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ กลุ่มโรงพยาบาลพญาไท โรงพยาบาลประสานมิตร (มูลนิธิ สมาคมปราบวัณโรคแห่งประเทศไทย) และศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตน์ (โรงพยาบาลรามาธิบดี)