ทีบี ในวันนี้ (ตอนที่ 4)

ทีบีในวันนี้

สำหรับการรักษาผู้ป่วยวัณโรคระยะแฝงนั้น เนื่องจากเชื้อยังมีจำนวนน้อย ดังนั้นการรักษาจึงเน้นที่การควบคุมและป้องกันไม่ให้เชื้อพัฒนาไปเป็นวัณโรคที่แสดงอาการ โดยยาที่ใช้ในการรักษา ได้แก่

  • Isoniazid (INH)
  • Rifampin (RIF)
  • Rifapentine (RPT)

ส่วนการรักษาวัณโรคที่แสดงอาการนั้น เพราะภูมิต้านทานของร่างกายไม่สามารถหยุดยั้งการเติบโตของเชื้อได้ การรักษาจึงต้องใช้ยาหลายชนิดและกินเวลาประมาณ 6-9 เดือน ซึ่งยาหลักๆ ได้แก่

  • Isoniazid (INH)
  • Rifampin (RIF)
  • Ethambutol (EMB)
  • Pyrazinamide (PZA)

โดยผลข้างเคียงของการใช้ยาที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่

  • อาการคลื่นไส้หรืออาเจียน
  • เบื่ออาหาร
  • มีภาวะผิวเหลือง (Jaundice)
  • ปัสสาวะเข้ม
  • เป็นไข้ตั้งแต่ 3 วัน โดยไม่มีสาเหตุชัดเจน

สำหรับการวินิจฉัยว่าเป็นวัณโรคหรือไม่นั้นสามารถทำได้โดย

การทดสอบปฏิกิริยาทางผิวหนัง (Tuberculin skin test / TB skin test / Mantoux tuberculin skin test) ด้วยการฉีดสารที่เรียกว่า Tuberculin เข้าที่แขนส่วนล่าง หลังจากนั้นใช้เวลานาน 48-72 ชั่วโมง เพื่อดูปฏิกริยาที่เกิดขึ้นกับแขน เช่น อาการนูน แข็งหรือบวม แล้วทำการวัดขนาด หากผลปรากฏเป็น

  • ผลบวก (Positive skin test) แสดงว่ามีการติดเชื้อ ซึ่งจะทำการทดสอบต่อไปอีกว่า เป็นวัณโรคระยะแฝงหรือวัณโรคที่แสดงอาการ แล้วจึงให้การรักษาอย่างถูกต้อง
  • ผลลบ (Negative skin test) แสดงว่าไม่มีการติดเชื้อแต่อย่างใด

การตรวจเลือด (TB blood tests / Interferon-gamma release assays = IGRAs) เพื่อดูระดับภูมิต้านทานที่มีปฏิกริยากับเชื้อแบคทีเรียว่ามีความแข็งแรงขนาดไหน หากผลปรากฏเป็น

  • ผลบวก (Positive IGRAs) แสดงว่ามีการติดเชื้อ ซึ่งจะทำการทดสอบต่อไปอีกว่า เป็นวัณโรคระยะแฝงหรือวัณโรคที่แสดงอาการ แล้วจึงให้การรักษาอย่างถูกต้อง
  • ผลลบ (Negative IGRAs) แสดงว่าไม่มีการติดเชื้อแต่อย่างใด

แหล่งข้อมูล

1. Tuberculosis (TB)http://www.cdc.gov/tb/topic/basics/default.htm[2016, March 12].

2. Tuberculosis. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/tuberculosis/home/ovc-20188556[2016, March 12].