ทรีพรอสทินิล (Treprostinil)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 24 สิงหาคม 2560
- Tweet
- บทนำ
- ทรีพรอสทินิลมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
- ทรีพรอสทินิลมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- ทรีพรอสทินิลมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- ทรีพรอสทินิลมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- ทรีพรอสทินิลมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้ทรีพรอสทินิลอย่างไร?
- ทรีพรอสทินิลมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาทรีพรอสทินิลอย่างไร?
- ทรีพรอสทินิลมีชื่ออื่นอีกไหม?ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- โพรสตาไซคลิน อะนาล็อกซ์ (Prostacyclin analogue)
- ยาขยายหลอดเลือด (Vasodilators)
- ยาต้านการแข็งตัวของเลือด: ยากันเลือดแข็งตัว (Anticoagulants)
- โรคหัวใจ: โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary artery disease)
- โรคตับ (Liver disease)
- โรคไต (Kidney disease)
- โรคปอด โรคของปอด โรคทางปอด (Pulmonary disease)
บทนำ
ยาทรีพรอสทินิล(Treprostinil หรือ Treprostinil sodium หรือ Treprostinil Na) เป็นยาประเภทโพรสตาไซคลิน อะนาล็อกซ์ (Prostacyclin analoques) มีฤทธิ์เป็นยาขยายหลอดเลือด ทางคลินิกนำมาใช้ลดความดันโลหิตภายในปอดสูง รูปแบบของเภสัชภัณฑ์ยานี้มีได้ทั้งเป็น ยาฉีด ยาสูดพ่นเข้าทางปาก และยารับประทาน กรณียาฉีดสามารถฉีดเข้าใต้ผิวหนังหรือหยดเข้าหลอดเลือดดำก็ได้
ยาทรีพรอสทินิลจะอยู่ในร่างกายได้นานประมาณ 4 ชั่วโมง ยานี้ถูกทำลายโดยเอนไซม์จากตับก่อนที่จะถูกขับทิ้งไปกับปัสสาวะและอุจจาระ
ยาเทรีพรอสทินิลป็นยาที่มีความแรงและความคงตัวดีกว่ายา Epoprostenol จึงเหมาะกับผู้ป่วยที่ใช้ยา Epoprostenol รักษาความดันโลหิตปอดสูงแล้วอาการไม่ดีขึ้น
ข้อจำกัดของการใช้ยาทรีพรอสทินิลที่ผู้บริโภค/ผู้ป่วยควรทราบได้แก่
- ห้ามใช้กับผู้แพ้ยานี้
- การใช้ยานี้โดยหยดเข้าทางหลอดเลือดดำต้องใช้ระยะเวลาการให้ยาหลายชั่วโมง โดยบุคลากรทางการแพทย์จะเฝ้าระวังการติดเชื้อเข้าสู่กระแสเลือดจากการใช้ เข็มฉีดยา
- การหยุดใช้ยานี้อย่างกะทันหันหรือผู้ป่วยไม่มารับการฉีดยานี้ตามคำสั่งแพทย์อาจทำให้อาการป่วยโรคความดันโลหิตปอดสูงกลับทรุดลง
- กรณีที่ใช้เป็นยาฉีด จะต้องเตรียมยาฉีดโดยนำยาทรีพรอสทินิลมาเจือจางด้วยน้ำกลั่นหรือสารละลายโซเดียมคลอไรด์ 0.9% ตามสัดส่วนที่ระบุในเอกสาร กำกับยา เมื่อเตรียมยาฉีดเสร็จ ควรต้องรีบใช้ยาทันที
- ห้ามใช้ยาฉีดทรีพรอสทินิลที่มีสิ่งปนเปื้อนปนมากับตัวยา เช่น มีผงแปลกปลอมที่ไม่ใช่ผงยา
- หลีกเลี่ยงการให้ยาฉีดทรีพรอสทินิลที่ตำแหน่งเดิมๆ ด้วยจะทำให้ผิวหนังและหลอดเลือดบริเวณที่ให้ยาเกิดการอักเสบขึ้นได้
- กรณีเกิดอาการข้างเคียง(ผลข้างเคียง)ที่ทำให้ผู้ป่วยได้รับความไม่สบายของร่างกาย อาทิเช่น ท้องเสีย คลื่นไส้ ปวดกราม วิงเวียน ผื่นคัน ตัวบวม ต้องรีบแจ้งแพทย์/พยาบาลโดยเร็ว เพื่อแพทย์พิจารณาปรับขนาดการใช้ยานี้
- ห้ามใช้ยาทรีพรอสทินิลในรูปแบบยารับประทานกับผู้ป่วยโรคตับระยะรุนแรง
- ยาทรีพรอสทินิลสามารถเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาชนิดอื่นได้หลายรายการ เช่นยา Gemfibrozil ,Rifampin , ยาลดความดันโลหิตชนิดอื่น , ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ซึ่งการใช้ยาร่วมกัน ล้วนแต่จะทำให้ผู้ป่วยได้รับอาการข้างเคียงจากการใช้ยาเหล่านั้นได้มากขึ้น ดังนั้นการใช้ยานี้ร่วมกับยาอะไรก็ตาม ต้องมาจากคำสั่งแพทย์เท่านั้น
- *ผู้ที่ได้รับยานี้เกินขนาดจะตรวจพบอาการ ใบหน้าแดง ปวดศีรษะ ความดันโลหิตต่ำ คลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสีย กรณีนี้ต้องรีบนำผู้ป่วยมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลทันที
ยาทรีพรอสทินิลมีรูปแบบเภสัชภัณฑ์ถึง 3 แบบเพื่อใช้เป็นทางเลือกของแพทย์ในการใช้ยานี้ให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย ผู้ป่วยต้องใช้ยานี้ตามที่แพทย์สั่งจ่ายเท่านั้น
อนึ่ง ในตลาดยาแผนปัจจุบัน เราสามารถพบเห็นการจัดจำหน่ายยาทรีพรอสทินิล ภายใต้ชื่อการค้าว่า Remodulin, Orenitram และ Tyvaso
ทรีพรอสทินิลมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
ยาทรีพรอสทินิลมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้ เช่น
- รักษาภาวะความดันโลหิตของหลอดเลือดแดงในปอดสูง (Primary pulmonary hypertension)
ทรีพรอสทินิลมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
ยาทรีพรอสทินิล มีกลไกการออกฤทธิ์ที่ตัวรับ(Receptor)ในผนังหลอดเลือดภายในปอด ทำให้เกิดการขยายตัวของหลอดเลือด และตัวยายังช่วยยับยั้งการรวมตัวของเกล็ดเลือดเป็นลิ่มเลือดที่อุดตันในหลอดเลือด จากกลไกดังกล่าว จึงทำให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก จึงส่งผลลดความดันโลหิตภายในปอดได้ตามสรรพคุณ
ทรีพรอสทินิลมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาทรีพรอสทินิลมีรูปแบบการจัดจำหน่าย เช่น
- ยาฉีด ที่ประกอบด้วย Treprostinil 0.6, 1, 2.5, 5 และ 10 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร
- ยาสูดพ่นเข้าทางปากที่ประกอบด้วย Treprostinil ขนาด 1.74 มิลลิกรัม/2.3 มิลลิลิตร
- ยาเม็ดชนิดรับประทานประกอบด้วย Treprostinil 0.125, 0.25, 1 และ 2.5 มิลลิกรัม/เม็ด
ทรีพรอสทินิลมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
ยาทรีพรอสทินิลมีขนาดการบริหารยา/ใช้ยา เช่น
ก. ยารับประทาน:
- ผู้ใหญ่: รับประทานยา 0.25 มิลลิกรัม ทุก 12 ชั่วโมง พร้อมอาหาร และทุกๆ 3–4 วัน แพทย์อาจปรับเพิ่มขนาดรับประทานเป็นครั้งละ 0.25–0.5 มิลลิกรัมทั้งนี้ขึ้นกับการตอบสนองต่อยาของผู้ป่วย โดยขนาดรับประทานทั่วไปอยู่ที่ 3.5 มิลลิกรัม ทุกๆ 12 ชั่วโมง
ข. ยาชนิดฉีด:
- ผู้ใหญ่: เริ่มต้นหยดยาเข้าหลอดเลือดดำ 1.25 นาโนกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/นาที กรณีที่จำเป็น แพทย์จะปรับเพิ่มขนาดการให้ยาภายใน 4 สัปดาห์แรกเป็น 2.5 นาโนกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/นาที
ค. ยาพ่นทางปาก: ขนาดยาขึ้นกับแพทย์ผู้รักษาเป็นแต่ละกรณีผู้ป่วยแต่ละราย
อนึ่ง:
- กรณีใช้ยาฉีดแล้วพบอาการข้างเคียงหลังการใช้ยานี้ แพทย์อาจปรับ ลดขนาดการใช้ยาเหลือเพียง 0.625 นาโนกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/นาที
- เด็ก: ยังไม่มีข้อมูลทางคลินิกที่แน่ชัดถึง ขนาดยานี้ ผลข้างเคียง และความปลอดภัยในการใช้ยานี้ในเด็ก การใช้ยานี้ในเด็ก จึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีๆไป
*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสม ควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาทรีพรอสทินิล ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร ดังนี้
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
- มีโรคประจำตัวต่างๆ อย่างเช่น โรคหัวใจ โรคไต โรคหืด รวมถึงกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาทรีพรอสทินิลอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
หากลืมรับประทานยาทรีพรอสทินิล สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณการรับประทานเป็น 2 เท่า ให้รับประทานยาขนาดปกติ
แต่อย่างไรก็ตาม กรณีที่ไม่ได้รับยาทรีพรอสทินิลต่อเนื่องตามแพทย์สั่ง อาจทำให้ความดันโลหิตในปอดสูงมากขึ้น
ทรีพรอสทินิลมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาทรีพรอสทินิลสามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์จากยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกายดังนี้ เช่น
- ผลต่อระบบประสาท: เช่น ปวดศีรษะ ความรู้สึกสัมผัสเพี้ยน วิงเวียน
- ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด: เช่น ใบหน้าแดง ความดันโลหิตต่ำหรือไม่ก็สูง หัวใจเต้นเร็วหรือไม่ก็เต้นช้า ชีพจรเต้นผิดปกติ หัวใจล้มเหลว
- ผลต่อระบบเลือด: เช่น เกิดภาวะเลือดจาง
- ผลต่อระบบทางเดินปัสสาวะ: เช่น เกิดโรคติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
- ผลต่อสภาพจิตใจ: เช่น นอนไม่หลับ วิตกกังวล ซึมเศร้า
- ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น ท้องเสีย คลื่นไส้ รู้สึกไม่สบายในท้อง มีเลือดออกทางทวารหนัก/อุจจาระเป็นเลือด อาเจียน ปวดท้อง มีเลือดออกในทางเดินอาหาร
- ผลต่อผิวหนัง: เช่น เกิดผื่นคัน เหงื่อออกมาก เป็นแผลที่ผิวหนัง
- ผลต่อกล้ามเนื้อ: เช่น ปวดกราม ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ ปวดคอ เป็นตะคริวที่ขา
- ต่อระบบทางเดินหายใจ: เช่น ไอ ระคายคอ คออักเสบ หายใจขัด/หายใจลำบาก ไซนัสอักเสบ เยื่อจมูกอักเสบ หลอดลมอักเสบ
- ผลต่อระบบการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย: เช่น โปแตสเซียมในเลือดต่ำ เกิดมีภาวะเกาต์ เบื่ออาหาร
มีข้อควรระวังการใช้ทรีพรอสทินิลอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาทรีพรอสทินิล เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
- ห้ามใช้ยากับสตรีมีครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร นอกจากจะคำสั่งแพทย์
- ห้ามใช้ยานี้ที่มีสภาพเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เช่น เม็ดยาแตกหักกรณีเป็นยาเม็ด หรือมีผงแปลกปลอมในตัวยากรณีเป็นยาฉีด
- ห้ามปรับขนาดรับประทานยานี้ด้วยตนเอง
- ห้ามหยุดใช้ยานี้โดยมิได้ขอคำปรึกษาจากแพทย์
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาในกลุ่มนี้ร่วมกับยาต้านการแข็งตัวของเลือดด้วยจะทำให้เกิดภาวะเลือดออกง่าย
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่จะก่อให้เกิดบาดแผลและนำมาด้วยอาการเลือดออก เพราะเมื่อใช้ยานี้ เลือดจะออกง่าย
- หากพบอาการวิงเวียนหลังการใช้ยานี้ ให้หลีกเลี่ยงการขับขี่ยวดยานพาหนะต่างๆ รวมถึงการทำงานกับเครื่องจักร ด้วยจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
- มาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลตามแพทย์นัด เพื่อแพทย์ตรวจดูความก้าวหน้าของการรักษา
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด(รวมยาทรีพรอสทินิลด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้ง ควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ
ทรีพรอสทินิลมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาทรีพรอสทินิลมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- ห้ามใช้ยาทรีพรอสทินิลร่วมกับยา Apomorphine ด้วยจะทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะ ความดันโลหิตต่ำตามมา
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาทรีพรอสทินิลร่วมกับยา Pseudoephedrine ด้วยจะทำให้ประสิทธิภาพการรักษาของยาทรีพรอสทินิลด้อยลงไป
- ห้ามใช้ยาทรีพรอสทินิลร่วมกับยา Apixaban ,Fondaparinux เพราะจะทำให้เกิดภาวะเลือดออกง่าย
ควรเก็บรักษาทรีพรอสทินิลอย่างไร?
ควรเก็บยาทรีพรอสทินิลตามคำแนะนำของเอกสารกำกับยา ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งตู้เย็น เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อนและความชื้น ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์ และเก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ทรีพรอสทินิลมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาทรีพรอสทินิล มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
REMODULIN (รีโมดูลิน) | United Therapeutics |
Orenitram (โอเรนิทราม) | United Therapeutics |
Tyvaso (ไทวาโซ) | United Therapeutics |
บรรณานุกรม
- https://en.wikipedia.org/wiki/Treprostinil[2017,Aug5]
- https://www.remodulin.com/downloads/remodulin-prescribinginformation.pdf[2017,Aug5]
- https://www.drugs.com/ppa/treprostinil.html[2017,Aug5]
- https://www.remodulin.com/[2017,Aug5]
- https://www.tyvaso.com/pdf/Tyvaso-PI.pdf[2017,Aug5]
- https://www.accessdata.fda.gov/drugsatfda_docs/label/2014/203496s001lbl.pdf[2017,Aug5]
- https://www.drugs.com/drug-interactions/treprostinil-index.html?filter=3&generic_only=[2017,Aug5]