ถึงเวลากระดูกทำลายตัวเอง (ตอนที่ 3 และตอนจบ)
- โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
- 10 ธันวาคม 2561
- Tweet
บริเวณที่ใบหน้า (Maxillofacial bones)
- ปวดกราม
- ฟันหลุด
- ใบหน้าหักและผิดรูป
สำหรับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค GSD ต้องอาศัยการสอบประวัติสุขภาพอย่างละเอียดรวมถึงการทดสอบหลายอย่าง เช่น
- การทำเอ็มอาร์ไอ (Magnetic resonance imaging = MRI)
- การทำซีทีสแกน (CT scan)
- การตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ (Biopsy)
ส่วนการรักษาขึ้นกับหลายปัจจัย เช่น บริเวณที่เป็น ระดับความรุนแรง และอาการแทรกซ้อน โดยประกอบด้วย
1. การให้ยาต้านการเติบโตของหลอดเลือด (Anti-vascular) และ ยากดภูมิคุ้มกัน (Immunosuppressant medications) เช่น
- ยา Sirolimus: เป็นยากินที่ใช้กดภูมิคุ้มกันและหยุดการสร้างตัวของท่อน้ำเหลือง เพื่อชะลอภาวะที่กระดูกทำลายตัวเองและลดอาการแทรกซ้อน
- ยา Interferon alfa-2b: เป็นยาที่ใช้หยุดการสร้างตัวของท่อน้ำเหลืองและช่วยให้อาการดีขึ้น.
- Bisphosphonates: เป็นยาที่ใช้ในภาวะกระดูกพรุน (Osteoporosis) เพื่อชะลอภาวะการสูญเสียกระดูกของโรค GSD
นอกจากนี้อาจมีการให้วิตามินดี แมกนีเซียม ฟลูออไรด์ แคลเซียม ยา Cisplatin ยา Bleomycin ฮอร์โมนเอสโตรเจน และฮอร์โมนแคลซิโทนิน (Calcitonin)
2. การผ่าตัด ซึ่งอาจรวมถึง
- การจัดกระดูกสันหลังใหม่ (Spinal reconstruction) หรือ การเชื่อมข้อกระดูกสันหลัง (Spinal fusion surgery)
- การปลูกถ่ายกระดูก (Bone graft surgery) เพื่อสร้างกระดูกใหม่
- การผ่าตัดเพื่อเอากระดูกที่มีปัญหาออกและอาจแทนที่ด้วยกระดูกเทียม (Prosthetic) หรือ กระดูกที่ปลูกถ่ายใหม่
3. รังสีบำบัด (Radiation therapy) เพื่อรักษาอาการเจ็บปวด อาการแทรกซ้อนของโรค เช่น การคั่งของน้ำเหลืองในช่องปอด (Chylothorax) แต่เนื่องจากการรักษาด้วยวิธีนี้อาจมีผลข้างเคียงตามมา จึงไม่แนะนำให้ใช้เป็นทางเลือกแรกในการรักษา (First-line therapy)
แหล่งข้อมูล:
- Gorham Stout Disease | Symptoms & Causes. http://www.childrenshospital.org/conditions-and-treatments/conditions/g/gorham-stout-disease/symptoms-and-causes [2018, December 10].
- Gorham-Stout Disease. https://rarediseases.org/rare-diseases/gorham-stout-disease/ [2018, December 10].