ตากลัวแสง ตาสู้แสงไม่ได้ ตาไม่สู้แสง (Photophobia)
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
- 26 กุมภาพันธ์ 2560
- Tweet
- โรคตา โรคทางตา (Eye disease)
- ตาแดงจากไวรัส (Viral conjunctivitis)
- กระจกตาอักเสบ (Keratitis) กระจกตาเป็นแผล (Corneal ulcer)
- ตาแห้ง (Dry eye)
- คอนแทคเลนส์ (Contact lens)
- ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics)
- กายวิภาคและสรีรวิทยาของตา (Anatomy and physiology of the eye)
ตากลัวแสง ตาสู้แสงไม่ได้ ตาไม่สู้แสง หรือตาแพ้แสง(Photophobia หรือ Light sensitivity หรือ Eye-sensitivity to light หรือ Vision-light sensitivity)เป็นอาการ ไม่ใช่โรค เป็นอาการที่พบได้บ่อยอาการหนึ่ง หมายถึง การที่เมื่ออยู่ในที่แสงสลัว จะสามารถมองได้อย่างปกติ แต่ถ้ามองสิ่งต่างๆ หรือลืมตาในที่มีแสงสว่าง จะรู้สึกไม่สบายตา เคืองตา น้ำตาไหล มักต้องหรี่ตา หรือ หลับตา
อาการตากลัวแสง เกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ ทั้งที่เกิดจากโรคตาเอง และจากโรคของอวัยอื่นๆ
สาเหตุจากโรคตา เช่น โรคตาแดง ตาติดเชื้อ โรคกระจกตาเป็นแผล การอักเสบของตาจากใส่คอนแทคเลนส์ (เลนส์สัมผัส) ภาวะตาแห้ง อุบัติเหตุต่อตา หรือรูม่านตาขยาย เช่น จากการหยอดยาเพื่อขยายรูม่านตาในการตรวจตา เป็นต้น
สาเหตุจากโรคอื่นๆ เช่น มีไข้จากติดเชื้อไวรัส (เช่น ไข้หวัดใหญ่) ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด เช่น ยาต้านไวรัสบางชนิด โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคสมองอักเสบ โรคไมเกรน โรคปวดศีรษะข้างเดียว เป็นต้น
การดูแลตนเองเมื่อมีอาการตากลัวแสง คือ การหลีกเลี่ยงแสงสว่าง การใส่แว่นตาดำ/แว่นกันแดด และการหลับตา
เมื่ออาการตากลัวแสง เกิดแล้วไม่หายไปใน 1-2 วัน หรือ เป็นเรื้อรัง หรือ เกิดร่วมกับอาการผิดปกติอื่นๆ เช่น ปวดศีรษะ เห็นภาพซ้อน ตาแดง หรือ ปวดตา ควรรีบพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลเสมอ
บรรณานุกรม
- http://en.wikipedia.org/wiki/Photophobia#Eye-related [2017,Feb4]
- http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/003041.html [2017,Feb4]
Updated 2017,Feb4