1. ตลาดโรงพยาบาล – ตอนที่ 71
- โดย ดร. วิทยา มานะวาณิชเจริญ
- 16 พฤศจิกายน 2568
- Tweet
ขนาดตลาดบริการโรงพยาบาล (Hospital services market) ทั่วโลก ในปี ค.ศ. 2023 ประเมินอยู่ที่ 4.24 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 137.8 ล้านล้านบาท) และคาดว่า (Forecast) จะเติบโตถึง 5.71 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 185.58 ล้านล้านบาท) ภายในปี ค.ศ. 2030 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (Compound annual growth rate: CAGR) 4.35% ในช่วงปี ค.ศ. 2024 – 2030
สาเหตุหลักมาจากแนวโน้ม (Trend) ผู้ป่วยมีพฤติกรรม (Behavior) เหมือนผู้บริโภคมากขึ้น (Patient consumerism) และการครอบคลุมของประกันสุขภาพ (Health-insurance coverage) ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา (Developing countries) เช่น อินเดียและแอฟริกาใต้ รวมถึงความต้องการบริการด้านคุณภาพ (Service quality) ที่สูงขึ้น
แนวโน้มสำคัญของตลาดและข้อมูลเชิงลึก (Key market and insights)
- ตลาดบริการโรงพยาบาลใน ทวีปอเมริกาเหนือ ครองส่วนแบ่งตลาด (Market share) 38.56% ในปี ค.ศ. 2023
- ตลาดบริการโรงพยาบาลใน สหรัฐอเมริกา คาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ (Significant) ในช่วงเวลาที่คาดการณ์
- ตามประเภทบริการ กลุ่มผู้ป่วยใน (Inpatient services) ครองส่วนแบ่งสูงสุด 48.71% ในปี ค.ศ. 2023
- ตามลักษณะความเป็นเจ้าของ (Ownership) โรงพยาบาลภาครัฐ/รัฐบาล ครองส่วนแบ่งสูงสุด 34.55% ในปี ค.ศ. 2023
ขนาดและการคาดการณ์ของตลาด (Market size)
- ขนาดตลาดปี ค.ศ. 2023: 4.24 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 137.8 ล้านล้านบาท)
- ขนาดตลาดที่คาดการณ์ปี ค.ศ. 2030: 5.71 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 185.58 ล้านล้านบาท)
- CAGR (ค.ศ. 2024 – 2030): 4.35%
- ภูมิภาคอเมริกาเหนือ: ตลาดใหญ่ที่สุดในปี ค.ศ. 2023
แนวโน้มและปัจจัยขับเคลื่อนตลาด (Market drivers)
ต้นทุนบริการด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้นทำให้ผู้ป่วยใส่ใจในการใช้จ่ายมากขึ้น พฤติกรรมผู้ป่วยเชิงผู้บริโภค ส่งผลให้ความต้องการบริการที่ มีความเป็นส่วนตัว (Privacy), โปร่งใส (Transparency) และคุณภาพสูง เพิ่มขึ้น โรงพยาบาลจึงหันมาใช้ เทคโนโลยีสุขภาพดิจิทัลขั้นสูง, การปรับปรุงแผนการดูแลรายบุคคล (Individual care), และให้ความสำคัญกับความพึงพอใจ (Satisfaction) ของผู้ป่วยมากขึ้น
นอกจากนี้ ความตระหนักรู้ (Awareness) ของประชาชนต่อประโยชน์ของบริการทางการแพทย์สมัยใหม่ และ การขยายความครอบคลุมของประกันสุขภาพ (ทั้งภาครัฐและเอกชน) ทำให้บริการเหล่านี้เข้าถึง (Access) ประชาชนได้มากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา ตัวอย่างเช่น โครงการ Ayushman Bharat ของรัฐบาลอินเดีย (เริ่มในปี ค.ศ. 2018) ที่เพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพในพื้นที่ชนบท (Rural) และเมือง (Urban) โดยได้เปิด ศูนย์สุขภาพและสุขภาวะ (Health and wellness centers) ประมาณ 1.5 ล้านแห่ง ภายในปี ค.ศ. 2023
แหล่งข้อมูล –
