5. ตลาดอาหารเสริม - ตอนที่ 20

สืบเนื่องจากวิกฤตการณ์ (Crisis) โควิด-19 และการระบาดของไข้หวัด (Influenza) ชนิดต่างๆ ที่ทำให้ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพ (Health consciousness) และการดูแลตัวเองกันมากยิ่งขึ้น หนึ่งในพฤติกรรม (Behavior) ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดนั่นก็คือ การกันมาบริโภคอาหารเสริม (Dietary supplement) กันมากยิ่งขึ้น

หนึ่งในสารอาหาร (Nutrient) ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงเป็นอย่างมากคือ โปรตีน (Protein) ซึ่งนับเป็นสารอาหารที่มีหน้าที่ (Function) สำคัญในการเพิ่มความแข็งแรงให้ผิวหนัง (Skin), กระดูก (Bone), และกล้ามเนื้อ (Muscle) สำหรับผู้คนทุกเพศทุกวัย

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพิ่มโปรตีนที่สามารถพบเห็นได้บ่อยในท้องตลาดนั่น มาทั้งในรูปแบบต่างๆ เช่น โปรตีนชนิดเม็ด (Tablet) และโปรตีนสกัดผง (Powder) ให้ผู้คนได้เลือกสรรที่จะบริโภคตามความสะดวก (Convenience) สบายของแต่ละคน

สังเกตเห็นได้ว่าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 – ค.ศ. 2564 ตลาดอาหารเสริมเพิ่มโปรตีนในประเทศไทยมีการเจริญเติบโตอย่างก้าวกระโดด (Leap-frog) โดยเฉพาะในช่วงที่โควิด 19 เริ่มระบาด ปี พ.ศ. 2562 ปีที่มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 2,898.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 3,150.5 ล้านในปี พ.ศ. 2563 และเป็นมูลค่า 3,323.8 ล้านบาทในปีค.ศ. 2564

ในการสำรวจรายชื่อผู้เล่น (Player) สำคัญในตลาดอาหารเสริมเพิ่มโปรตีนของประเทศไทยของปี พ.ศ. 2564 พบว่า โปรตีนสกัดแบบผง Nutrilite ของ Amway ซึ่งเป็นบริษัทที่โด่งดังด้านอาหารเสริมมาแต่ช้านานนั้น นำมาเป็นอันดับหนึ่ง โดยการครองถึง 86.0% ของตลาด

ตามมาด้วยผลิตภัณฑ์ที่รังสรรค์โดยบริษัทที่เป็นที่รู้จักในวงการอาหารเสริมอยู่แต่ดั้งเดิม (Traditional) อันได้แก่ โปรตีนชนิดเม็ด Banner ของ Osotspa (8.6%), โปรตีนสกัดผง Herbalife ของ Herbalife Nutrition (3.5%), โปรตีนสกัดผง Giffarine ของ Giffarine Group (0.9%), และ โปรตีนสกัดผง GNC ของ Harbin Pharmaceutical Group (0.2%)

นอกจากผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโปรตีนใน 5 อันดับข้างต้น หากลองสังเกตในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา จะพบว่ามีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเกิดขึ้นใหม่เป็นจำนวนมาก (Numerous) โดยในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เสริมโปรตีนให้เราเลือกซื้ออยู่มากมายหลายยี่ห้อ (Brand)

บางผลิตภัณฑ์ถูกนำเข้ามาจากต่างประเทศ (Import), บางผลิตภัณฑ์ผลิตโดยผู้ผลิตอาหารเสริมหรือเครื่องดื่มชั้นนำของประเทศ, และบางผลิตภัณฑ์เป็นผลผลิตจากบริษัทเกิดใหม่ (Start-up) ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ อันสอดคล้องกับการคาดการณ์ความต้องการบริโภคโดย Euromonitor ที่พบว่า อุปสงค์ต่ออาหารเสริมเพิ่มโปรตีนมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จาก 3,400.2 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา ไปจนถึง 3,879.2 ล้านบาทในปี พ.ศ. 2569

จึงสามารถสรุปได้ว่า ตลาดอาหารเสริมเพิ่มโปรตีนของไทยกำลังเติบโตอย่างมั่นคง เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคที่ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามกาลเวลา

แหล่งข้อมูล

  1. https://www.sbcs.co.th/th/articles/?p=161 [2023, November 20].
  2. https://www.euromonitor.com/dietary-supplements-in-thailand/report [2023, November 20].