6. ตลาดห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ – ตอนที่ 57
- โดย ดร. วิทยา มานะวาณิชเจริญ
- 9 พฤษภาคม 2568
- Tweet
รวมทั้งผลิตภัณฑ์ (Product) จากงานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์ (Benefit) ทั้งเชิงพาณิชย์ (Commercialization), เชิงนโยบาย (Government policy), และ เชิงสาธารณะ (Public)
สำหรับภาคเอกชน (Private sector) ได้มีการนำเทคโนโลยีการแพทย์แม่นยำจากต่างประเทศ มาใช้ในการให้บริการทางการแพทย์แล้ว นำโดยโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ เช่น โรงพยาบาลพญาไท ได้นำการแพทย์แม่นยำ (Precision medicine) มาให้บริการคนไข้
ตัวอย่างเช่น ในด้านสูติ-นรีเวช (Obstetrics/Gynecology) เพื่อช่วยในการวางแผนการตั้งครรภ์ (Pregnancy planning) และการป้องกันภาวะแทรกซ้อน (Complication) ระหว่างตั้งครรภ์
ส่วนในด้านมะเร็งวิทยา (Oncology) เพื่อช่วยในการรักษามะเร็งแบบตรงจุด (Target treatment) รวมถึงการวางแผนการป้องกันดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic) ให้แก่คนไข้รายบุคคล (Individualized) และเป็นครอบครัว ขณะที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎรได้นำเทคโนโลยีขั้นสูงอย่างปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence: AI) ของ IBM Watson มาใช้
โดยเฉพาะ การวางแผนการรักษาโรคมะเร็งแบบเฉพาะเจาะจง (Specific) ให้ผู้ป่วยแต่ละราย เพื่อรักษาต้นเหตุของโรคอย่าง แม่นยำและตรงจุด (Target) จากความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ (Medical innovation), ความต้องการลดต้นทุน, และค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
โดยเฉพาะภาครัฐ (Public sector) ที่ต้องแบกรับภาระ (Burden) ในการรักษาพยาบาลที่สูง ซึ่งค่าใช้จ่ายในการรักษาด้วยการแพทย์แม่นยำ จะค่อนข้างสูง เนื่องจากต้องอาศัยการวินิจฉัย (Diagnosis) และใช้เทคโนโลยีระดับสูงเข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูล (Data analysis) ต่างๆ
ดังนั้น การสร้างศูนย์ห้องปฏิบัติการ (Laboratory center) เพื่อการแพทย์แบบจำเพาะบุคคล (Personalized medicine) สามารถเป็นศูนย์ให้บริการเทคโนโลยีการถอดรหัสพันธุกรรม (Genetic coding) ของมนุษย์ ซึ่งทำให้หลายๆ โรงพยาบาลจะสามารถส่งมาตรวจที่ศูนย์ห้องปฏิบัติการ (Out-lab)
เมื่อปริมาณ (Volume) การตรวจที่มากขึ้น ต้นทุนมีแนวโน้มต่ำลง อันนำไปสู่การช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในระบบสาธารณสุข (Public health) ได้ ในระยะยาว และทำให้การบริการทางแพทย์ของไทยให้ครบวงจร (Comprehensive) มากยิ่งขึ้น และมี เทคโนโลยีการแพทย์ (Medical technology) ที่ทันสมัยทัดเทียมกับสหรัฐอเมริกาหรือยุโรป
ในขณะที่ค่าใช้จ่ายการบริการ (Service charge) ทางการแพทย์ของไทยโดยเฉลี่ยถูกกว่าภูมิภาคตะวันตก (Western regions) 50% ถึง 90% ดังนั้น สามารถสร้างความเชื่อมั่น (Confidence) ให้ชาวต่างประเทศ (Foreigner) เข้ามารับบริการทางการแพทย์ที่มากขึ้นอีกด้วย
ส่วนแนวทางการจัดการธุรกิจเชิงกลยุทธ์ด้วยแบบจำลองทางธุรกิจ (Business model) บนกระดาษ (Canvas) เพียงแผ่นเดียว ประกอบด้วยกิจกรรมหลัก (Key activities: KA) และทรัพยากรหลัก (Key resources: KR) โดย KA ของธุรกิจ อันได้แก่
แหล่งข้อมูล –
